Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

11 กุมภาพันธ์ 2556 (เรื่องมันแดง!!) คลัง สั้ง กสทช. ( ส่งเงิน28,000 ล้านบาทค่าประมูล3Gทุกค่ายมือถือจ่ายรอบแรก) กสทช.ดึงเงินไว้ต่อ(เอาไว้เพื่อสู้คดี3Gที่ยังไม่จบ)(ย้ำไม่ถอนเด็ดขาด)


ประเด็นหลัก

น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิ้น ปฏิบัติราชการแทนนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ได้ส่งหนังสือด่วนมายังสำนักงานคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ขอให้ กสทช. ถอนเงินรายได้จากการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ภายใน 15 วัน ตามข้อบังคับกระทรวงการคลังว่าด้วยการหักรายรับรายจ่ายขาด และการถอนคืนเงินรายรับ พ.ศ.2550



       น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิ้น ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงการคลัง แจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ถอนเงินรายได้จากการประมูล 3 จี กว่า 28,000 ล้านบาท ที่ กสทช.ได้ส่งให้กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วัน 13 ธันวาคม 2555 เพื่อเป็นรายได้แผ่นดินจากการจัดประมูล 3 จี โดยกระทรวงการคลังให้เหตุผลว่า คดียังอยู่ระหว่างการฟ้องร้อง ซึ่งสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลาง ต่อศาลปกครองสูงสุด ทำให้กระทรวงการคลังอาจต้องคืนเงินจำนวนนี้ ส่งคืน กสทช.


        ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.ระบุว่า จะส่งหนังสือแจ้งกลับไปที่ปลัดกระทรวงการคลัง ว่าจะไม่ถอนเงินจำนวนดังกล่าวออกมาแน่นอน เนื่องจากเห็นว่า กสทช. นำส่งเงินถูกต้องตามกระบวนการของกฎหมายแล้ว แม้การยื่นอุทธรณ์ของผู้ตรวจการแผ่นดินจะอยู่ในกระบวนการก็ตาม



       นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้ส่งหนังสือให้กสทช.ขอถอนคืนเงินรายได้แผ่นดินตามจำนวนเงินที่กสทช.ส่งรายได้จากการประมูลคลื่นความถี่ 2.1 GHzจำนวน 20,842,969,963.43 บาทให้กับกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2555 นั้น กสทช.จะไม่มีการถอนเงินดังกล่าวคืนมาเด็ดขาดเพราะถือว่ากระบวนการที่ทำไปถูกต้องตามกฏหมายแล้ว ประกอบกับยังมีคำสั่งของศาลปกครองกลางที่ไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินคุ้มครองอยู่ จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะทำให้กสทช.ต้องนำเงินดังกล่าวคืนมา




ทั้งนี้ เนื่องจากกระบวนการประมูลเป็นไปตามมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. 2553 หรือ พ.ร.บ.กสทช. และหลังจากสำนักงานผู้ตรวจราชการแผ่นดินได้ร้องขอให้อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุด และยังอยู่ระหว่างพิจารณาตามขั้นตอนกฎหมาย อย่างไรก็ตาม กสทช. จะคืนเงินดังกล่าวให้กระทรวงการคลังก็ต่อเมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำวินิจฉัยให้ กสทช.ต้องคืนให้ผู้ประมูล โดยสำนักงาน กสทช.ขอให้กระทรวงการคลังส่งเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยคืนให้ กสทช. เพื่อคืนให้กับผู้ประมูลต่อไป


       

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช.กล่าวว สำนักงาน กสทช. จะทำหนังสือแจ้งกลับปลัดกระทรวงการคลังภายใน 1- วันนี้ ว่าจะไม่ถอนเงินจำนวนดังกล่าวออกจากบัญชีคงคลังที่ 1 ซึ่งถือเป็นเงินรายได้แผ่นดินอย่างเด็ดขา


















____________________________________




คลังแจ้ง กสทช.ถอนเงินประมูล 3G กว่า 28,000 ล.ออกจากบัญชี

11 กุมภาพันธ์ 2556 14:53 น.




       น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิ้น ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงการคลัง แจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ถอนเงินรายได้จากการประมูล 3 จี กว่า 28,000 ล้านบาท ที่ กสทช.ได้ส่งให้กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วัน 13 ธันวาคม 2555 เพื่อเป็นรายได้แผ่นดินจากการจัดประมูล 3 จี โดยกระทรวงการคลังให้เหตุผลว่า คดียังอยู่ระหว่างการฟ้องร้อง ซึ่งสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลาง ต่อศาลปกครองสูงสุด ทำให้กระทรวงการคลังอาจต้องคืนเงินจำนวนนี้ ส่งคืน กสทช.
        ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.ระบุว่า จะส่งหนังสือแจ้งกลับไปที่ปลัดกระทรวงการคลัง ว่าจะไม่ถอนเงินจำนวนดังกล่าวออกมาแน่นอน เนื่องจากเห็นว่า กสทช. นำส่งเงินถูกต้องตามกระบวนการของกฎหมายแล้ว แม้การยื่นอุทธรณ์ของผู้ตรวจการแผ่นดินจะอยู่ในกระบวนการก็ตาม


http://manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000017548&Keyword=3g


_______________________________________________________



กสทช.ย้ำไม่ขอถอนเงินประมูล 3G คืน ตามที่คลังร้องขอ

11 กุมภาพันธ์ 2556 17:29 น.




กสทช.ประกาศชัดไม่ขอถอนเงินจากการประมูลคลื่นความถี่ 2.1 GHz คืน ตามที่กระทรวงการคลังร้องขอ และให้รอคำวินิจฉัยของศาลประครองสูงสูดก่อนค่อยส่งเงินเข้าคลังหลวงใหม่ ชี้ทำทุกอย่างถูกต้องตามกฏหมายและยังอยู่ภายใต้คำสั่งศาลปกครองกลาง แม้ผู้ตรวจการแผ่นดินจะส่งเรื่องให้อุทธรณ์คำสั่งต่อศาลปกครองสูงสุด และยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาแต่กสทช.จะยังดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองกลางที่ยังคุ้มครองอยู่
     
       นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้ส่งหนังสือให้กสทช.ขอถอนคืนเงินรายได้แผ่นดินตามจำนวนเงินที่กสทช.ส่งรายได้จากการประมูลคลื่นความถี่ 2.1 GHzจำนวน 20,842,969,963.43 บาทให้กับกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2555 นั้น กสทช.จะไม่มีการถอนเงินดังกล่าวคืนมาเด็ดขาดเพราะถือว่ากระบวนการที่ทำไปถูกต้องตามกฏหมายแล้ว ประกอบกับยังมีคำสั่งของศาลปกครองกลางที่ไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินคุ้มครองอยู่ จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะทำให้กสทช.ต้องนำเงินดังกล่าวคืนมา
     
       ทั้งนี้การให้กสทช.ขอคืนเงินดังกล่าวกระทรวงการคลังให้เหตุผลว่า ขณะนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินยังส่งเรื่องให้อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุด และยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุด จึงยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นเงินรายได้เป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานกสทช. กระทรวงการคลังจึงเห็นควรให้สำนักงานกสทช.ขอถอนคืนเงินรายได้แผ่นดินตามจำนวนเงินที่ กสทช.ส่งรายได้จากการประมูลคลื่นความถี่ 2.1 GHz ส่งให้กระทรวงการคลังหลังจากการประมูล 3G
     
       'หากกระทรวงการคลังต้องการให้ถอนคืนเงินรายได้กลับมาก็ควรทำตั้งแต่ตอนที่กสทช.นำเงินไปมอบให้ และกระทรวงการคลังก็ได้รับเงินดังกล่าวเข้าไปเป็นเงินคงคลังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประกอบกับกระบวนการประมูลตามความในมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติองค์การจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุ โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ได้ดำเนินการครบถ้วนและถูกต้องตามกฏหมายแล้ว'
     
       นายฐากร กล่าวว่า ตราบใดศาลยังไม่มีคำสั่งลงมาเปลี่ยนแปลง ก็ต้องยืนยันที่จะไม่ขอถอนเงิน เพราะถ้าถอนแสดงว่ากสทช.ทำสิ่งที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย เพราะกระทรวงการคลังรับเงินไปแล้ว กสทช.จะถอนเงินออกมาไม่ได้เพราะถือเป็นเงินของแผ่นดินไปแล้ว ถ้าจะถอนออกมาต้องมีขั้นตอน ซึ่งหากกสทช.เห็นว่าเงินที่นำเข้าไปไม่ชอบด้วยกฏหมายก็จะส่งเรื่องไปขอคืนเงิน เช่นเดียวกันหากกระทรวงการคลังเห็นว่าไม่ชอบด้วยกฏหมายจริงวันที่ กสทช.ส่งให้กระทรวงการคลังเป็นวันแรกก็ควรจะส่งคืนมา
     

http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000017551&Keyword=3g


_____________________________________________


“3 จี” วุ่นไม่จบ คลัง จี้ ‘กสทช.’ ถอนคืนเงิน 2 หมื่นล้าน ด้าน ′ฐากร′ ยันต้องมีคำสั่งศาลปกครอง
 13:32:49 น.


วันที่ 11 กุมภาพันธ์ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้ทำหนังสือมายังกสทช. เพื่อขอให้ กสทช. ถอนคืนเงินรายได้แผ่นดิน ซึ่งเป็นรายได้จากการประมูลคลื่นความถี่ย่าน2.1 กิกะเฮิร์ตซ์ วงเงินประมาณ 2หมื่นกว่าล้านบาท โดยอ้างว่าเรื่องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุด จึงยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นเงินรายได้ที่ดป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงาน กสทช.ที่จะต้องนำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน



นายฐากร กล่าวว่า ยืนยันว่า กสทช.จะไม่มีการถอนเรื่องดังกล่าวกลับมาตามที่กระทรวงการคลังมีหนังสือมา เนื่องจากที่ผ่านมา กสทช.ได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ โดยที่ศาลปกครองกลางไม่รับพิจารณาคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ถือว่าคำสั่งศาลปกครองยังมีผลบังคับใช้ อีกทั้ง กสทช.ได้ส่งเงินไปตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2555 หากเห็นว่าไม่ถูกต้องตามระเบียบ ก็น่าที่จะส่งเรื่องกลับคืนมา



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ที่ส่งหนังสือมายังกสทช.คือนางสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งเคยทำหนังสือท้วงติงเรื่องการประมูล 3 จีมาแล้วก่อนหน้านี้


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1360564245&grpid=03&catid=03


_____________________________________________


กสทช. ยันเงิน3จีส่งเข้าคลังถูกต้องตามกฏหมาย
 เวลา 16:21:29 น.

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.)

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.)  เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้มีหนังสือที่ กค 0406.7/1913 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556 ถึง เลขาธิการ กสทช. เรื่อง ขอนำเงินรายได้จากการประมูลคลื่นความถี่ 2.1 GHz นำส่งรายได้แผ่นดิน แจ้งให้สำนักงาน กสทช. ขอถอนคืนเงินรายได้แผ่นดินจำนวน 20,842,969,963.43 บาท ที่สำนักงาน กสทช. ได้นำส่งคลังมา ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2555 ตามข้อบังคับกระทรวงการคลังว่าด้วยการหักรายรับจ่ายขาดและการถอนคืนเงินรายรับ พ.ศ. 2550 ภายใน 15 วันนับตั้งแต่ได้รับหนังสือแจ้ง นั้นสำนักงาน กสทช. ขอเรียนว่า สืบเนื่องจากวันที่ 3 ธันวาคม 2555 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำเสนอเรื่องพร้อมความเห็นและคำขอให้ศาลกำหนดมาตรการ หรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ตรวจการแผ่นดินไว้พิจารณา และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ โดยวินิจฉัยว่าผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ใช่ผู้มีสิทธิเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลปกครอง ตามมาตรา 245 (2) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 14 (2) แห่งพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2552 และมาตรา 43 แห่งพ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองกลาง พ.ศ. 2542 และแม้ว่าผู้ตรวจการแผ่นดินจะได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองสูงสุดก็ตาม แต่ปัจจุบันการอุทธรณ์คำสั่งของผู้ตรวจการแผ่นดินอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดว่าจะรับคำอุทธรณ์ไว้พิจารณาหรือไม่ ซึ่งสำนักงาน กสทช. เห็นว่า การฟ้องคดีต่อศาลปกครองดังกล่าวยังมิได้พิจารณาถึงประเด็นวิธีการประมูลคลื่นความถี่และประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่าน 2.1 GHz พ.ศ. 2555 ว่าชอบหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่อย่างใด ดังนั้น สำนักงาน กสทช. จึงมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องนำเงินที่ได้จากการประมูลหลังจากหักค่าใช้จ่ายนำส่งกระทรวงการคลังตามมาตรา 45 แห่งพ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553


ทั้งนี้ การที่กระทรวงการคลังขอให้สำนักงาน กสทช. ถอนคืนเงินรายได้แผ่นดินจำนวน 20,842,969,963.43 บาท ตามข้อบังคับกระทรวงการคลังว่าด้วยการหักรายรับจ่ายขาดและการถอนคืนเงินรายรับ พ.ศ. 2550 ภายใน 15 วันนับตั้งแต่ได้รับหนังสือแจ้ง และให้สำนักงาน กสทช. นำเงินจำนวนดังกล่าวฝากกระทรวงการคลังนั้น เนื่องจากสำนักงานฯ เห็นว่าการส่งคืนรายได้จากการประมูลคลื่นความถี่ดังกล่าวเป็นการดำเนินการที่ชอบด้วยกฎหมายประกอบกับกระทรวงการคลังได้ส่งเงินดังกล่าวเข้าบัญชีเงินคงคลังที่ 1 ไปแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่สำนักงานฯ จะขอถอนคืนเงินรายได้ และขณะนี้ก็ยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลปกครองว่าการนำส่งรายได้แผ่นดินเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย


นอกจากนี้ ข้อบังคับของกระทรวงการคลังว่าด้วยการหักรายรับจ่ายขาดและการถอนคืนเงินรายรับ พ.ศ. 2550 ในเรื่องของการถอนคืนรายได้เป็นหน้าที่ของส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ เห็นว่า รายได้ที่ไม่ควรนำส่งเป็นเงินรายได้ของแผ่นดิน จึงจะดำเนินการขอถอนคืนจากกระทรวงการคลัง ตามข้อบังคับของกระทรวงการคลังดังกล่าว

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1360574549&grpid=03&catid=03


____________________________________



คลังสั่งรับคืนเงินประมูล 3 จี กสทช.เมินอ้างคดียังคาศาล

กสทช. ยืนยันไม่ถอนเงินรายได้ประมูล 3จี ที่นำส่งเข้าคลังไปแล้ว 2 หมื่นกว่าล้านบาท ชี้ทำทุกอย่างถูกต้องตาม ม.45 พ.ร.บ.กสทช. เล็งร่อนหนังสือโต้คลังไม่เกิน 12 ก.พ.นี้...

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กล่าวว่า หลังจากเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังมีหนังสือถึงสำนักงาน กสทช. เรื่องให้นำส่งรายได้ 50% จากการประมูลคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ หรือ 3 จี จำนวน 20,842,969,963.43 บาท เป็นรายได้แผ่นดิน เข้าไปเมื่อวันที่ 15 พ.ย.2555 และให้ถอนเงินออกมานั้น สำนักงาน กสทช. ขอยืนยันว่า จะไม่มีการถอนเงินออกมา โดยจะทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงการคลังภายใน 1-2 วันนี้

ทั้งนี้ เนื่องจากกระบวนการประมูลเป็นไปตามมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. 2553 หรือ พ.ร.บ.กสทช. และหลังจากสำนักงานผู้ตรวจราชการแผ่นดินได้ร้องขอให้อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุด และยังอยู่ระหว่างพิจารณาตามขั้นตอนกฎหมาย อย่างไรก็ตาม กสทช. จะคืนเงินดังกล่าวให้กระทรวงการคลังก็ต่อเมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำวินิจฉัยให้ กสทช.ต้องคืนให้ผู้ประมูล โดยสำนักงาน กสทช.ขอให้กระทรวงการคลังส่งเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยคืนให้ กสทช. เพื่อคืนให้กับผู้ประมูลต่อไป

“สำนักงาน กสทช. ยืนยันว่าจะไม่ถอนเงินรายได้จากการประมูล 3จี ออกมาเด็ดขาด เนื่องจากขณะนี้การประมูลคลื่นความถี่ฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุด” นายฐากร กล่าว

เลขาธิการ กสทช. กล่าวต่อว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่ของ สำนักงาน กสทช. แต่ยังไม่ได้มีการหารือร่วมกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ที่เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงเรื่องการประมูล 3 จี เนื่องจากเงินจำนวนดังกล่าวได้อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงาน กสทช.แล้ว และสำนักงาน กสทช. ก็มีฝ่ายกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญดูแลอยู่ และยังถือเป็นครั้งแรกของวงการโทรคมนาคมที่กระทรวงการคลังทำหนังสือให้หน่วยงานไปขอคืนเงินที่ส่งไปแล้ว

ต่อข้อถามถึงความกังวลเรื่องที่มาของเงินดังกล่าวและเหตุที่กระทรวงการคลังส่งหนังสือมานั้น นายฐากรกล่าวว่า ไม่มีความกังวลแต่อย่างใด และยืนยันว่าดำเนินการทุกอย่างมาอย่างถูกต้อง ขณะที่ฝ่ายกฎหมายของสำนักงาน กสทช. ระบุว่า เงินที่สำนักงานฯ นำส่งเข้ากระทรวงการคลังแล้วจะถอนออกมาไม่ได้ ยกเว้นมีกฎหมายออกมา แต่ต้องมีขั้นตอนให้ถอนในปีงบประมาณนั้นๆ ถ้าเห็นว่าเงินที่นำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดินและต้องส่งคืน

http://www.thairath.co.th/content/tech/325966

_________________________________________

รองปลัดคลังส่งหนังสือ กสทช. ถอนเงิน3จีคืน

โดย : ปานฉัตร สินสุข


น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงส่งหนังสือด่วนถึง กสทช. ให้ถอนเงินรายได้ประมูล 3จีคืน

น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิ้น ปฏิบัติราชการแทนนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ได้ส่งหนังสือด่วนมายังสำนักงานคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ขอให้ กสทช. ถอนเงินรายได้จากการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ภายใน 15 วัน ตามข้อบังคับกระทรวงการคลังว่าด้วยการหักรายรับรายจ่ายขาด และการถอนคืนเงินรายรับ พ.ศ.2550

เงินดังกล่าวสำนักงานกสทช.นำส่งเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2555 จำนวนเงิน 22,269 ล้านบาท เพราะเห็นว่าเรื่องดังกล่าว ยังไม่ชัดเจนในประเด็นการฟ้องร้องและอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลปกครองสูงสุด

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช.กล่าวว สำนักงาน กสทช. จะทำหนังสือแจ้งกลับปลัดกระทรวงการคลังภายใน 1- วันนี้ ว่าจะไม่ถอนเงินจำนวนดังกล่าวออกจากบัญชีคงคลังที่ 1 ซึ่งถือเป็นเงินรายได้แผ่นดินอย่างเด็ดขาด เนื่องจาก กสทช. ได้ส่งเงินถูกต้องตามกระบวนการของกฎหมายแล้ว ตามกระบวนการประมูลในมาตรา 45 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ กำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมพ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) และเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ทางกระทรวงการคลังก็ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเข้าเป็นรายได้แผ่นดินไปแล้ว ดังนั้น ถือว่ากระบวนการนำส่งเงินชอบด้วยกฎหมายแล้ว


http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130211/489863/%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0
%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B
8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%
B7%E0%B8%AD-%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B8%8A.-
%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%993%E0%B8%88%E0
%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%99.html


___________________________________________

กสทช.โต้ไม่ถอนเงินประมูล 3 จีออกจากคลัง
เวลา 13:02 น.

กสทช.ตอบกลับ กระทรวงการคลัง โต้ไม่ถอนคืนเงินรายได้จากประมูล 3 จี เด็ดขาด ชี้ปฎิบัติตาม พรบ. กสทช. เดินหน้าส่งหนังสือชี้แจงภายใน 1-2 วัน
วันนี้(11ก.พ.)ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช.เปิดเผยภายหลังกสทช.ได้รับหนังสือด่วนที่สุด เมื่อวันที่ 8 ก.พ.56 จากน.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ที่ขอให้กสทช.ถอนคืนรายได้จากการประมูลคลื่นความถี่ 2.1 กิ๊กกะเฮิรตซ์ หรือใบอนุญาต 3 จี ที่ได้ส่งให้กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.55 จำนวนเงิน 20, 842,963 . 43 บาท ซึ่งเป็นวงเงิน 50 % ของรายได้ประมูลทั้งหมด โดยในหนังสือระบุว่า การประมูล3จี สำนักงานกสทช.อยู่ในระหว่างการพิจารณาวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุด และผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยื่นอุธรณ์คำสั่งศาลปกครอง จึงยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นรายได้ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานกสทช.ซึ่งจะต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินตามม.45 ตามพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมพ.ศ.2553 (พรบ.กสทช.)  โดยขอให้สำนักงานนำเงินดังกล่าวฝากกระทรวงการคลังจนกว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องกรรมสิทธิ์ของเงิน

นายฐากร กล่าวต่อว่า สำนักงานกสทช.จะทำหนังสือตอบกลับไปยังกระทรวงการคลังภายใน 1- 2 วัน ว่า จะไม่มีการถอนเงินที่ได้จากการประมูล3 จี ที่นำส่งเป็นรายได้แผ่นดินออกจากบัญชีคงคลังที่ 1 อย่างแน่นอน เนื่องจากกสทช.ได้ส่งเงินตามกระบวนการกฎหมาย ม.45 พรบ. กสทช.  และการนำส่งเงินรายได้เข้าแผ่นดิก็ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 55 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่พิจารณาคำร้องของผู้ตรวจการจึงทำให้มีผลบังคับใช้ต่อไป จนกว่าจะมีคำสั่งใดๆออกมาจากศาลปกครองกลาง ในกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นอุธรณ์คำสั่งศาลปกครอง ที่คาดว่าต้องใช้เวลานาน

“ กสทช.ยืนยันว่ากระบวนการประมูล 3 จี ถูกกฎหมาย ส่วนกรณีการขอให้หน่วยงานอิสระอย่างกสทช.ขอถอนเงินคืนรายได้แผ่นดินถือเป็นครั้งแรก ซึ่งมองว่าผู้ที่จะขอถอนเงินคืนได้ต้องเห็นว่า เงินนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย  ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงการคลังก็รับเงินไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากเห็นว่าเงินดังกล่าวไม่ชอบก็ไม่ควรรับไว้ตั้งแต่ต้น  จึงเห็นว่าจะไม่ดำเนินการถอนอย่างเด็ดขาด”

อย่างไรก็ตามการประมูล 3 จีเมื่อวันที่ 16 ต.ค.  55 มีผู้ชนะ 3 รายประกอบด้วย บริษัท แอดวานซ์ ไวเลส เน็ตเวิร์ค จำกัด , บริษัท ดีแทค เน็ตเวิร์ค จำกัด และบริษัท เรียลฟิวเจอร์ จำกัด ที่เตรียมเปิดให้บริการ 3 จี ได้ประมาณเดือนเม.ย.56

http://www.dailynews.co.th/technology/183888


________________________________________________

กสทช. เปิดศึกรองปลัดคลังอีกรอบ ยืนยันไม่ถอดเงินประมูล3G ออกจากบัญชีรายได้แผ่นดิน

นายฐากร  ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา สำนักงาน กสทช. ได้รับหนังสือจากกระทรวงการคลัง ลงนามโดย
น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิ้น ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงการคลัง  แจ้งให้สำนักงาน กสทช. ถอนเงินรายได้จากการประมูลให้ใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ 2.1GHz จำนวน 20,842,969,963.43 บาท(สองหมื่นแปดร้อยสี่สิบสองล้านเก้าแสนหกหมื่นเก้าพันเก้าร้อยหกสิบสามบาทสี่สิบสามสตางค์) ที่ได้ส่งเข้าเป็นรายได้แผ่นดินเมื่อวัน 13 ธ.ค. 2555 ภายใน 15 วันนับแต่ได้รับหนังสือ แล้วให้นำเงินจำนวนดังกล่าวฝากบัญชีกระทรวงการคลังแทนจนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องกรรมสิทธิ์ของเงินจำนวนนี้
โดยกระทรวงการคลังได้อ้างว่า เนื่องจากขณะนี้มีผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุด และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาตามกฎหมายจึงทำให้กระทรวงการคลังอาจจะต้องคืนเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยให้สำนักงาน กสทช. คืนกับผู้เข้าร่วมประมูลต่อไป
“ทางสำนักงาน กสทช. จะทำหนังสือแจ้งกลับไปที่ปลัดกระทรวงการคลังว่า จะไม่ถอนเงินจำนวนดังกล่าวออกจากบัญชีคงคลังที่ 1 เด็ดขาด  เนื่องจากเห็นว่า กสทช. ได้ส่งเงินถูกต้องตามกระบวนการของกฎหมายแล้ว และเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ทางกระทรวงการคลังก็ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเข้าเป็นรายได้แผ่นดินไปแล้ว  ขณะที่กรณีการยื่นอุทธรณ์ของผู้ตรวจการแผ่นดิน เมื่อยังอยู่ในกระบวนการอุทธรณ์ คำสั่งของศาลปกครองกลางที่ยกคำร้องจึงยังมีผลบังคับใช้อยู่ และยังไม่แน่ใจว่ากระบวนการอุทธรณ์จะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน  ทางสำนักงาน กสทช. จึงจะไม่ถอนเงินจำนวนดังกล่าวออกตามคำแนะนำของกระทรวงการคลังเด็ดขาด”

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1360560341&grpid=&catid=06&subcatid=0600

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.