27 มีนาคม 2556 (สารีโต้กลับAIS++ไม่ใช่คิดปิดบังงุบงิบ++)จะเสนอเงื่อนไขบริการ ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ (3ค่ายพร้อมใจเสนอเก็บค่าเลขวันละ1บาท(หากไม่ใช้เกิน30วัน)
ประเด็นหลัก
นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ประธานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคมกล่าวว่า จากกรณีที่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส มีหนังสือถึง กรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ในกรณีที่ คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคมได้เปิดเผยข้อมูลต่อสื่อมวลชน เรื่อง (ร่าง) หลักเกณฑ์การกระทำที่เป็นการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม โดยระบุว่า กรณีที่บริษัทฯได้ขอให้ กทค.อนุมัติให้สามารถเรียกเก็บค่าบริหารเลขหมายวันละ 1 บาทกับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบชำระค่าบริการล่วงหน้าว่า เป็นการกระทำที่เข้าข่ายเอาเปรียบผู้ใช้บริการนั้น สืบเนื่องจากคณะอนุกรรมการฯได้รับหนังสือจาก กสทช. เพื่อขอให้คณะอนุกรรมการฯให้ความเห็นต่อเรื่องนี้เพื่อประกอบในการพิจารณาข้อเสนอของบริษัทฯ
“บริษัทชำระค่ารักษาเลขหมายให้กับกสทช.เพียง 2 บาทต่อเดือน แต่กลับคิดเรียกเก็บจากผู้บริโภคถึง 30 บาทต่อเดือน คณะอนุกรรมการฯจึงพิจารณาแล้วว่า การกระทำดังกล่าวจึงอาจเข้าข่ายเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค และอนุกรรมการฯก็มีหน้าที่ในการให้ความเห็น และเปิดเผยข้อมูลเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค อีกทั้ง ตามประกาศ กทช. เรื่อง มาตรฐานของสัญญา 2549 ข้อ 11 ก็ระบุไว้ชัดเจนว่า การให้บริการโทรคมนาคมแบบชำระค่าบริการล่วงหน้านั้น การกำหนดเงื่อนไขการให้บริการได้นั้น ควรจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้บริโภคด้วย แต่บริษัทกลับคิดปิดบังเงื่อนไขดังกล่าวซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง” นางสาวสารี กล่าว
_______________________________________
ประธานอนุฯ ยันเงื่อนไขบริการ ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ
ประธานอนุฯ คุ้มครองผู้บริโภคฯ ยืนยัน บริษัทต้องเปิดเผยเงื่อนไขการให้บริการต่อสาธารณะ และรับฟังความเห็นจากผู้บริโภค ไม่ใช่คิดปิดบังงุบงิบ ระบุระเบียบโทรคมนาคมที่บริษัทนำมาอ้างนั้นถูกยกเลิกไปแล้ว…
นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ประธานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคมกล่าวว่า จากกรณีที่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส มีหนังสือถึง กรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ในกรณีที่ คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคมได้เปิดเผยข้อมูลต่อสื่อมวลชน เรื่อง (ร่าง) หลักเกณฑ์การกระทำที่เป็นการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม โดยระบุว่า กรณีที่บริษัทฯได้ขอให้ กทค.อนุมัติให้สามารถเรียกเก็บค่าบริหารเลขหมายวันละ 1 บาทกับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบชำระค่าบริการล่วงหน้าว่า เป็นการกระทำที่เข้าข่ายเอาเปรียบผู้ใช้บริการนั้น สืบเนื่องจากคณะอนุกรรมการฯได้รับหนังสือจาก กสทช. เพื่อขอให้คณะอนุกรรมการฯให้ความเห็นต่อเรื่องนี้เพื่อประกอบในการพิจารณาข้อเสนอของบริษัทฯ
นอกจากนี้ การแต่งตั้งจาก กสทช. ตามมาตรา 31 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯปี 2553 โดยมีอำนาจหน้าที่ 9 ประการ และหนึ่งในนั้นการนำเสนอข้อมูลข่าวสารเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองผู้บริโภค รวมถึงการให้ความเห็นและคำปรึกษา รวมถึงเสนอแนะแนวทางเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม คณะอนุกรรมการฯจึงได้ทำหน้าที่ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายและแต่งตั้งไว้เท่านั้น ส่วนกรณีที่ บริษัทฯอ้างว่า ภารกิจจากการที่คณะอนุกรรมการฯ เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวนั้น ขัดต่อระเบียบคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติว่าด้วยข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2550 รวมถึงระเบียบคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติว่าด้วยมาตรการเปิดเผยข้อมูลสารสนเทศ พ.ศ. 2548 นั้น จึงขอเรียนให้ทราบว่า ระเบียบดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไปแล้วตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.2556 ลงนามโดย พลอากาศเอก ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการบังคับใช้กฎหมาย ภายใต้พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นฯ 2553
“บริษัทชำระค่ารักษาเลขหมายให้กับกสทช.เพียง 2 บาทต่อเดือน แต่กลับคิดเรียกเก็บจากผู้บริโภคถึง 30 บาทต่อเดือน คณะอนุกรรมการฯจึงพิจารณาแล้วว่า การกระทำดังกล่าวจึงอาจเข้าข่ายเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค และอนุกรรมการฯก็มีหน้าที่ในการให้ความเห็น และเปิดเผยข้อมูลเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค อีกทั้ง ตามประกาศ กทช. เรื่อง มาตรฐานของสัญญา 2549 ข้อ 11 ก็ระบุไว้ชัดเจนว่า การให้บริการโทรคมนาคมแบบชำระค่าบริการล่วงหน้านั้น การกำหนดเงื่อนไขการให้บริการได้นั้น ควรจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้บริโภคด้วย แต่บริษัทกลับคิดปิดบังเงื่อนไขดังกล่าวซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง” นางสาวสารี กล่าว
http://www.thairath.co.th/content/tech/335201
ไม่มีความคิดเห็น: