23 พฤษภาคม 2556 TOT กริ๊ดแตก++ กำไรเพิ่ม16.5% ทำยอดขาดทุนลดลง 6.5% หรือคิดเป็น 141 ลบ. (เตรียมเซ็นใหม่MVNOสามารถโยนฝ่ายบริหารทบทวนเรื่องฟิกไลน์ ส่วนรายได้หักทุกอย่างแล้ว เอกชน43%TOT40%)
ประเด็นหลัก
นายอุดม พัวสกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ทีโอที เปิดเผยหลังประชุมบอร์ดทีโอที ว่า รายได้รวมของทีโอทีในไตรมาสแรกของปี 56 นั้น อยู่ที่ประมาณ 7,315 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 6,823 ล้านบาท โดยในส่วนของกำไรนั้นเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกของปี 55 ถึง 16.5% หรือคิดเป็น 560.7 ล้านบาท ในกรณีที่ไม่รวมส่วนแบ่งรายได้ขาดทุนลดลง 6.5% หรือคิดเป็น 141 ล้านบาท โดยขาดทุนสุทธิทั้งหมด 2,037 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้ากรณีการเซ็นสัญญา MVNO (Mobile Virtual Network Operator) กับบริษัทเอกชน คือ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) ซึ่งในขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานชุดใหม่ขึ้นมาแทนชุดเก่าเรียบร้อยแล้ว โดยที่ประชุมคณะทำงานได้มีการหารือในเรื่องส่วนแบ่งรายได้ที่ยังตกลงไม่ลงตัว และเรื่องคาร์พาซิตี้
ทั้งนี้ คาดว่าภายในเดือน มิ.ย.นี้สัญญาดังกล่าวจะเข้าบอร์ดทีโอทีเพื่อพิจารณาผ่านความเห็นชอบ จากนั้นก็สามารถเดินหน้าร่างสัญญา และภายในเดือน ก.ค.นี้ ส่วนปัญหาที่มีการหารือกันในที่ประชุม คือ ประเด็นเรื่องการปรับเปลี่ยนสัดส่วนเรื่องผลประโยชน์ ซึ่งเมื่อหักทุกอย่างแล้ว เอกชนจะได้รับส่วนแบ่ง 43% ขณะที่ทีโอทีได้ 40% เท่านั้น
______________________________________
'โล่งอก'ทีโอทีมีกำไรQ1เพิ่มขึ้น16%
ทีโอทีเผยรายได้ไตรมาสแรก กำไรเพิ่มขึ้น 16.5% คาด MVNO กับ บมจ.สามารถจะเข้าบอร์ด มิ.ย.นี้ โยนฝ่ายบริหารทบทวนเรื่องฟิกไลน์ หวังบันเดิ้ลเพิ่มมูลค่า
นายอุดม พัวสกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ทีโอที เปิดเผยหลังประชุมบอร์ดทีโอที ว่า รายได้รวมของทีโอทีในไตรมาสแรกของปี 56 นั้น อยู่ที่ประมาณ 7,315 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 6,823 ล้านบาท โดยในส่วนของกำไรนั้นเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกของปี 55 ถึง 16.5% หรือคิดเป็น 560.7 ล้านบาท ในกรณีที่ไม่รวมส่วนแบ่งรายได้ขาดทุนลดลง 6.5% หรือคิดเป็น 141 ล้านบาท โดยขาดทุนสุทธิทั้งหมด 2,037 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้ากรณีการเซ็นสัญญา MVNO (Mobile Virtual Network Operator) กับบริษัทเอกชน คือ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) ซึ่งในขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานชุดใหม่ขึ้นมาแทนชุดเก่าเรียบร้อยแล้ว โดยที่ประชุมคณะทำงานได้มีการหารือในเรื่องส่วนแบ่งรายได้ที่ยังตกลงไม่ลงตัว และเรื่องคาร์พาซิตี้
ทั้งนี้ คาดว่าภายในเดือน มิ.ย.นี้สัญญาดังกล่าวจะเข้าบอร์ดทีโอทีเพื่อพิจารณาผ่านความเห็นชอบ จากนั้นก็สามารถเดินหน้าร่างสัญญา และภายในเดือน ก.ค.นี้ ส่วนปัญหาที่มีการหารือกันในที่ประชุม คือ ประเด็นเรื่องการปรับเปลี่ยนสัดส่วนเรื่องผลประโยชน์ ซึ่งเมื่อหักทุกอย่างแล้ว เอกชนจะได้รับส่วนแบ่ง 43% ขณะที่ทีโอทีได้ 40% เท่านั้น
ส่วนความคืบหน้ากรณี 3G เฟส 1 นายอุดมกล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการติดตั้งสถานีฐานไปแล้วจำนวน 5,230 สถานี ล่าสุดเหลือการติดตั้งอีก 803 สถานี ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งปัจจุบันมีสถานีฐานที่พร้อมให้บริการแล้ว 4,221 สถานี ส่วนลูกค้า 3G ทีโอที ในตอนนี้มีผู้ใช้งานแล้วจำนวน 269,739 ราย.
http://www.thaipost.net/news/240513/73982
ไม่มีความคิดเห็น: