24 กรกฎาคม 2556 เคเบิลทั่วประเทศ จับมือ ทรูวิชั่นส์-ทริปเปิ้ลที, เน็กซ์สเต็ป, แสนสุขเน็ตเวิร์กและอาร์เอส (คลอดซูเปอร์แพ็ก 140 ช่อง) ราคาไม่เพิ่ม ชน CTH
ประเด็นหลัก
ล่าสุดสมัชชาฯเป็นแกนกลางให้กับเครือข่ายในการจับมือร่วมกับ 5 ค่ายคอนเทนต์ชั้นน้ำคือ ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) , บริษัท ทริปเปิลที เน็ตเวิร์ค จำกัด , บริษัท เน็กซ์สเตป จำกัด , บริษัท แสนสุขเน็ตเวิร์ค จำกัด และ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ในกาเรปิดตัวแพกเกจใหม่ชื่อว่า “ซูเปอร์แพ็ก” จำนวน 140 ช่อง แบ่งเป็นรายการเรตติ้งสูง 61 ช่อง และจากฟรีทูแอร์อีก 79 ช่อง ซึ่งขณะนี้เริ่มเครือขายสมัชชาที่สนใจติดต่อซื้อแพกเกจได้แล้ว และชำระค่าแพกเกจกับทางเจ้าของคอนเท้นต์โดยตรง
“เรามั่นใจว่าแพกเกจนี้จองเราสู้ได้หมด ไม่วาจะเป้นใคร มคบทุกอย่าง ดดยพาะการเปิดโอกาสให้เราสามรถเอกซือ้ได้อีกด้วย และเจของคอนเท้นต์รายให๋ไทยก็มีทรูวิชั่นส์ แกรมมั่ อาร์เอส เป็นต้น ก็มาอยู่กับเราหมด อนาคตก็จะมีเพิ่มเข้ามาอีก ตอนนี้มีผู้ประกอบการไหลเข้ามาอยู่ร่วมกับสมัชาชาฯของเรามากขึ้น ก่อนหน้านี้เราไม่มีพรีเมียร์ลีกเราก็ไม่กลัว และแม้ว่าทรูวิชั่นส์จะไม่มีพรีเมียร์ลีกเราก็ไม่กลัว เพราะลูกค้าของเราไม่ใช่ลูกค้าที่ดูพรีเมียร์ลีกเท่านั้น“ นายณัฐชัยกล่าว
ทั้งนี้อยู่ระหว่างการสรุปราคาแพกเกจกับทางพันธมิตรเหล่านี้อยู่ แต่ค่าสมาชิกคาดว่าก็จะอยู่ในระดับเดิมระหว่าง 300-350 บาทต่อเดือน ไม่ได้เพิ่มขึ้น คาดว่าแพกเกจนี้จะช่วยทำให้ฐานของจำนวนผู้ชมเครือข่ายเคเบิลของสมัชาชาฯเพิ่ม 10% จากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 6 แสนกว่าราย จากจำนวนผู้ดูเคเบิลทีวีทั่วประเทศไทยที่มีประมาณ 1.2 ล้านรายเท่านั้น ไม่ถึง 3 ล้านกว่ารายตามที่เคยมีผู้ให้ข้อมูลออกมา
______________________________________
เคเบิลทุ่มหมื่นล้านปรับสู่ดิจิตอล ทรูวิชั่นส์ดึงกลุ่มภูธรชนซีทีเอช
“เอโอซี” ชี้ เคเบิลทั่วประเทศต้องทุ่มงบไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท สำหรับก้าวข้ามผ่านสู่ยุคดิจิตอล พร้อมเป็นตัวกลางผนึก 5 พันธมิตรคอนเท้นต์ยักษ์ “ทรูวิชั่นส์-ทริปเปิ้ลที, เน็กซ์สเต็ป, แสนสุขเน็ตเวิร์กและอาร์เอส” ดึงคอนเท้นต์ยอดนิยมจัดเป็น “ซูเปอร์แพ็ก”140 ช่อง ชนซีทีเอช
นายณัฐชัย อักษรดิษฐ์ รองประธานกลุ่มสมัชชาเครือข่ายผู้ประกอบการเคเบิลทีวีอย่างยั่งยืน หรือ เอโอซี (AOC/ Assembly of Cable Operators) องค์กรที่มีผู้ประกอบการเคเบิลทีวีเป็นเครือข่ายทั่วประเทศมากกว่า 203 ราย เปิดเผยว่า ในช่วงการเปลี่ยนถ่ายระบบการแพร่สัญญาณภาพจากอะนาล็อกไปสู่ระบบดิจิตอลนั้นคาดว่าผู้ประกอบการเคเบิลโดยรวมในไทยคาดว่าต้องใช้งบประมาณลงทุนรวมไม้ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งการลงทุนด้านหัวดูดรับสัญญาณ กล่องเซ็ทท็อปบ็อกซ์ และระบบอื่นๆ ในส่วนของ สมัชชาฯ มีเครือข่ายรวมกว่า 203 ราย ซึ่งพบว่ามีการลงทุนปรับสู่ดิจิตอลแล้ว 10 กว่าราย
“คาดว่าในปีหน้าคงจะได้เห็นผู้ประกอบการปรับโมเดลเป็นดิจิตอลอันใหม่แลว เพราพูดง่ายๆ ถ้าใครไม่ปรับตัว ไม่เป็นดิจิตอล ก็เหมอืนกับว่าปีนี้ก็เป็นศพ ส่วนปีหน้าก็เผาเลย”
การปรับสู่ระบบดิจิตอลดังกล่าวถือเป็นเจตน์จำนงสำคัญของสมัชชาฯที่ตั้งขึ้นมาเมื่อประมาณต้นปีนี้โดยมีผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่น 203 รายหรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ประกอบการทั่วประเทศเข้าร่วมด้วย พร้อมกับการตั้งโครงการ “พัฒนาระบบการออกอากาศสู่ดิจิตอล และทางเลือกช่องทางรายการคุณภาพจากกลุ่มพันธมิตรคอนเทนต์ชั้นน้ำ”
ล่าสุดสมัชชาฯเป็นแกนกลางให้กับเครือข่ายในการจับมือร่วมกับ 5 ค่ายคอนเทนต์ชั้นน้ำคือ ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) , บริษัท ทริปเปิลที เน็ตเวิร์ค จำกัด , บริษัท เน็กซ์สเตป จำกัด , บริษัท แสนสุขเน็ตเวิร์ค จำกัด และ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ในกาเรปิดตัวแพกเกจใหม่ชื่อว่า “ซูเปอร์แพ็ก” จำนวน 140 ช่อง แบ่งเป็นรายการเรตติ้งสูง 61 ช่อง และจากฟรีทูแอร์อีก 79 ช่อง ซึ่งขณะนี้เริ่มเครือขายสมัชชาที่สนใจติดต่อซื้อแพกเกจได้แล้ว และชำระค่าแพกเกจกับทางเจ้าของคอนเท้นต์โดยตรง
“เรามั่นใจว่าแพกเกจนี้จองเราสู้ได้หมด ไม่วาจะเป้นใคร มคบทุกอย่าง ดดยพาะการเปิดโอกาสให้เราสามรถเอกซือ้ได้อีกด้วย และเจของคอนเท้นต์รายให๋ไทยก็มีทรูวิชั่นส์ แกรมมั่ อาร์เอส เป็นต้น ก็มาอยู่กับเราหมด อนาคตก็จะมีเพิ่มเข้ามาอีก ตอนนี้มีผู้ประกอบการไหลเข้ามาอยู่ร่วมกับสมัชาชาฯของเรามากขึ้น ก่อนหน้านี้เราไม่มีพรีเมียร์ลีกเราก็ไม่กลัว และแม้ว่าทรูวิชั่นส์จะไม่มีพรีเมียร์ลีกเราก็ไม่กลัว เพราะลูกค้าของเราไม่ใช่ลูกค้าที่ดูพรีเมียร์ลีกเท่านั้น“ นายณัฐชัยกล่าว
ทั้งนี้อยู่ระหว่างการสรุปราคาแพกเกจกับทางพันธมิตรเหล่านี้อยู่ แต่ค่าสมาชิกคาดว่าก็จะอยู่ในระดับเดิมระหว่าง 300-350 บาทต่อเดือน ไม่ได้เพิ่มขึ้น คาดว่าแพกเกจนี้จะช่วยทำให้ฐานของจำนวนผู้ชมเครือข่ายเคเบิลของสมัชาชาฯเพิ่ม 10% จากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 6 แสนกว่าราย จากจำนวนผู้ดูเคเบิลทีวีทั่วประเทศไทยที่มีประมาณ 1.2 ล้านรายเท่านั้น ไม่ถึง 3 ล้านกว่ารายตามที่เคยมีผู้ให้ข้อมูลออกมา
นายณัฐชัยกล่าวด้วยว่า การร่วมมือกันครั้งนี้เป็นข้อตกลงที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่น มีอำนาจบริหารควบคุมธุรกิจของตัวเองต่อไปได้อย่างเต็มที่ สามารถดำเนินการฐานข้อมูลสมาชิก การเปิดและปิดสัญญาณ การออกบิล ของตัวเองได้ และรักษาฐาข้อมูลตัวเองเป็นความลับได้ด้วย ออกใบแจ้งและเก็บค่าบริการของตัวเองได้โดยตรง
นอกจากนั้นสมัชชาฯอยู่ระหว่างจัดตั้งสหกรณ์ขึ้นมาเพื่อให้เป็นหน่วยงานกลาง
ในการพัฒนาคอนเท้นต์ การพัฒนาโอทีทีหรือโอเวอร์เดอะท็อป การพัฒนาเครือข่ายเน็ตเวิร์กต่างๆ เพื่อรองรับการเป็นระบบดิจิตอลสมบูรณ์แบบอีกด้วย ซึ่งในประเทศที่พัฒาแล้ว รายได้ที่มาจากสมาชิกหรือซับสไคร์เบอร์มีเพียง 30% เท่านั้น ส่วนอีก 70% มาจากโฮมชอปปิง และอื่นๆที่ต่อยอดออกมา แต่ที่เมืองไทย 70% ยังคงเป็นรายได้หลักที่ทมาจากสมาชิกคนดู อย่างไรก็ตามการพัฒนาจุดนั้นได้จะต้องรอให้ผู้ประกอบการสามารถแจกกล่องเซ็ทท็อปบ็อกซ์ฟรีให้กับสมาชิกก่อน ซึ่งทางสมัชชาฯเองก็ตระเตรียมไว้แล้วประมาณ 6.00,000 กล่องขั้นต่ำ ราคาต้นทุนประมาณ 1,200 บาทต่อกล่อง
http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000090894
ไม่มีความคิดเห็น: