28 กรกฎาคม 2556 (สงครามราคา3Gเริ่มเร็วกว่าที่คิด) DTAC คาดการณ์ผิด เกมนี้น่าจะเริ่มไตรมาส4เชื่อเป็นการหาลูกค้าใหม่มากกว่า // AIS เร่งจุดไฟ ปีหน้าราคาจะลดมากกว่านี้
ประเด็นหลัก
______________________________________
ASTV ผู้จัดการ 27 กรกฎาคม 2556
________________________________________________
โชยกลิ่นสงครามราคา 3G(Cyber Weekend)
การทำตลาดในช่วงที่การแข่งขันรุนแรง การลดราคาสินค้าหรือบริการ เป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับลูกค้าที่เห็นราคาถูกแล้วใจอ่อน แต่ส่วนใหญ่การลดราคานั้นจะมาในช่วงที่สินค้าออกสู่ตลาดได้สักระยะหนึ่งแล้ว หรือเป็นการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ของแบรนด์ที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก สำหรับวงการมือถือในอดีตเคยมีการเล่นสงครามราคาอย่างรุนแรงเพื่อแย่งชิงฐานลูกค้าที่เรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใคร เพราะการลดราคาในช่วงนั้นยังมีลูกค้าอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่เคยใช้บริการให้แย่งชิงกัน จนช่วงหลังสงครามราคาเริ่มเบาบางลงหลังตลาดเริ่มอิ่มตัว
มาถึงยุคของการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การใช้เครือข่ายใหม่อย่าง 3G 2100 เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการตลาดอย่างมากมาย แต่ไม่ใช่เพราะการวางเครือข่ายใหม่ที่จะทำให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้รวดเร็วขึ้นเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากตัวผู้บริโภคเองที่ได้มีแนวทางการใช้งานที่ไม่ได้เน้นด้านเสียงอีกต่อไป มีอัตราการเติบโตของการใช้งานโซเซียลมีเดียมากขึ้น เช่นเดียวกับอุปกรณ์การใช้งานสื่อสารที่สามารถรองรับการใช้งานได้หลากหลาย ดังนั้นนอกจากเครือข่ายจะเปลี่ยนแล้ว รูปแบบของโปรโมชันจึงต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย
สงครามราคาเริ่มปรากฏให้เห็นเค้าลางหลังเครือข่ายใหม่เริ่มให้บริการไม่นาน ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากการต้องเริ่มต้นใหม่ของค่ายยักษ์ใหญ่อย่างเอไอเอส ที่ต้องการผลักดันลูกค้าให้เข้าสู่บริการใหม่เพิ่มมากขึ้น จึงต้องเร่งการวางเครือข่ายไปพร้อมๆ กับการดึงให้ลูกค้าเข้ามาใช้ และได้หยุดการพัฒนาเครือข่ายเดิมที่มีจุดเด่นทางด้านเสียงลง เพราะมองเห็นแนวโน้มว่าลูกค้ายุคใหม่ใช้โซเซียลมีเดียมากขึ้น เช่นเดียวกับทรูที่ได้มีการผลักดันให้ลูกค้าเข้าสู่เครือข่ายใหม่เช่นกัน เนื่องจากสัมปทานเดิมกำลังจะหมดลง
****ดีแทคกรี๊ดสงครามราคามาเร็ว แต่พร้อมสู้ไม่ยอมให้ใครถูกกว่า
ปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด ดีแทค กล่าวว่า สงครามราคาที่เกิดขึ้นไม่คิดว่าจะมาเร็วขนาดนี้ เพราะส่วนตัวแล้วคิดว่าน่าจะมาในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ แต่สงครามราคาในรอบนี้ไม่น่ากลัวเหมือนเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว เพราะยุคนั้นเป็นยุคที่ลูกค้ายังใช้งานโทรศัพท์มือถือไม่ถึง 50% ของจำนวนประชากร ดังนั้นการใช้สงครามราคาในช่วงเวลาดังกล่าวจะช่วยดึงให้ลูกค้ารายใหม่ๆ เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น
แต่ปัจจุบันสงครามราคาที่เกิดขึ้น มีกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่ได้ใช้งานโทรศัพท์มือถือเหลืออยู่ไม่มากนัก จึงเป็นสงครามที่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ดังนั้นดีแทคจึงจะหันมาดูแลลูกค้าเดิมให้มากขึ้น แต่หากสงครามราคาเกิดขึ้นอย่างรุนแรงดีแทคก็พร้อมที่จะเข้าร่วมสงครามดังกล่าวเช่นกัน เพราะรู้แล้วว่าการลดราคาแต่ละสเต็ปเป็นอย่างไรซึ่งดีแทคผ่านมาหมดแล้ว จึงวางกลยุทธ์ได้อย่างถูกต้องและสามารถนำเสนอราคาได้อย่างน่าสนใจ
'ราคาอาจจะลดลงเป็นจังหวะหรือเลือกที่จะลงในบางจุด บางทีดีแทคอาจจะไม่ลดราคาลงแต่ให้บริการเพิ่มขึ้น คุ้มค่าขึ้น และจะไม่ยอมให้ใครมีราคาถูกกว่าเราแน่นอน ไม่ปล่อยให้มีการลดราคาของค่ายอื่นโดยที่เราไม่แข่ง ซึ่งขณะนี้ทุกค่ายต่างลดราคาลงไปแล้วประมาณ 15% ตามกฏของกสทช. จึงเชื่อได้ว่านับจากนี้อาจจะไม่มีการใช้ราคาที่ต่ำกว่าเป็นจุดขายเหมือนในอดีต แต่จะเน้นราคาเดิมที่เพิ่มการใช้งานดาต้าให้มากขึ้น ซึ่งทั้งหมดจะดูว่าลูกค้าต้องการอะไรแล้วจึงนำมาเสนอ'
ปัจจุบันยอดใช้บริการโทรศัพท์มือถือของลูกค้าไม่สามารถเติบโตได้อีกมากนัก ดังนั้นการแข่งขันทางด้านราคาจึงเป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น และกลยุทธ์หนึ่งที่ทุกโอเปอเรเตอร์ต่างนำขึ้นมาใช้คือการรักษาฐานลูกค้าที่มีอยู่ด้วยการเสริมบริการใหม่ๆ การเพิ่มเติมความสะดวกสบาย หรือแม้แต่การจับมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างบริการร่วมกัน โดยตั้งเป้าหมายที่จะทำให้ผู้ใช้บริการรู้สึกว่าใช้แล้วคุ้มค่ามากขึ้น ถือเป็นกำแพงที่สร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่หันไปใช้ของค่ายอื่น
****เอไอเอสชี้ราคาลดกว่า 15% แน่ แต่ต้องเพิ่มบริการพิเศษ
ฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขาย เอไอเอส กล่าวว่า สงครามราคาเกิดอย่างแน่นอน และจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น แต่อาจจะไม่ใช่ทางด้านราคาเป็นหลัก โดยการแข่งขันจะมุ่งเน้นในเรื่องของการที่จะส่งมอบบริการและสิทธิพิเศษในรูปแบบที่แตกต่างไปแก่ลูกค้ามากกว่า รวมถึงรูปแบบการออกแพกเกจต่างๆจะมีความหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าได้มากขึ้น เช่นมีคอนเทนต์ ต่างๆตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน แพกเกจเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ และที่สำคัญเป็นราคาที่แข่งขันได้มากขึ้น
ปัจจุบันแพกเกจ 3G ใหม่ของเอไอเอส คุ้มค่ามากขึ้นและทำให้ลูกค้ามีทางเลือกจากการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นในราคาเดิม เมื่อเทียบกับแพกเกจ 3G เดิม ทำให้ราคาต่อหน่วยที่ลูกค้าต้องจ่ายถูกลง โดยเฉลี่ย 15% ตามที่กสทช.กำหนด หรือเลือกแพกเกจราคาเหมาจ่ายที่ลดลง โดยได้รับปริมาณการใช้งานเท่าเดิม ซึ่งก็ทำให้ราคาต่อหน่วยลดลงเช่นกัน
การแข่งขันรูปแบบใหม่นี้ลูกค้าจะได้รับปริมาณการใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาที่ปรับลดลง ทำให้ลูกค้าได้รับการใช้งานเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เมื่อเปรียบเทียบในราคาที่เท่ากันจากเดิมแพกเกจเดิม เช่น แพกเกจเหมาจ่าย 599 บาท บน 3G เดิม ได้รับสิทธิ์ โทร. ทุกเครือข่าย 150 นาที ใช้งานอินเทอร์เน็ต 1GB ที่ความเร็วสูงสุด 21Mbps และหลังจาก 1GB ลูกค้ายังสามารถใช้งานเน็ตต่อเนื่องได้แบบไม่จำกัด ด้วยความเร็วที่ลดลง
โดยลูกค้าสามารถเลือกโปรโมชั่นบน 3G ใหม่ ที่ราคาเท่าเดิม คือ เหมาจ่าย 599 บาท ได้รับสิทธิ์ โทร.ทุกเครือข่าย 300 นาที ใช้งาน เน็ต 1.5GB ที่ความเร็วสูงสุด 42 Mbps และหลังจาก 1.5 GB ลูกค้ายังสามารถใช้งานเน็ตต่อเนื่องได้แบบไม่จำกัด ด้วยความเร็วที่ลดลง เช่นเดียวกับอัตราค่าโทร.ต่อหน่วยที่โดยเฉลี่ยจะลดลง มากกว่า 15% เมื่อเทียบกับแพกเกจก่อน 3G 2100 และเป็นไปตามที่ กสทช. กำหนด
สำหรับแนวโน้มราคาแพกเกจปีหน้า มีแนวโน้มว่าจะปรับลดลงมากกว่า 15% ตามที่กสทช.กำหนด เนื่องจากการแข่งขันมีแนวโน้มที่รุนแรงมากขึ้น แต่เอไอเอสมั่นใจว่าท้ายที่สุดแล้วคุณภาพและการบริการที่ดีกว่า รวมถึงรูปแบบการให้บริการที่โดดเด่น และหลากหลายจะเป็นตัวช่วยสร้างแตกต่างและจะเป็นตัวเลือกแรกๆในการเลือกใช้บริการ นอกจากนี้ลูกค้าจะเริ่มหันมองในส่วนของสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับมากกว่าด้วย
'สำหรับราคาของเอไอเอสนั้นเรามองว่าลูกค้าได้ใช้งานอย่างคุ้มค่าสมกับราคา เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง คำนึงถึงการให้บริการและคุณภาพของเครือข่ายด้วย และจุดขายที่มากกว่าราคาที่ เอไอเอสให้ความสำคัญ เห็นจะเป็นเรื่องความแตกต่างของแบรนด์ ,เครือข่ายคุณภาพ และความแตกต่างด้านคอนเทนต์ อย่างแอปพลิเคชันต่างๆ จากเอไอเอส อย่างAIS iCloud, Google Free Zone รวมถึงงานบริการลูกค้าที่มากยิ่งกว่า เช่น สิทธิพิเศษส่วนลดต่างๆ'
****เทียบแพกเกจเครือข่ายใหม่มีให้เลือก 3 แบบ โทร.ต่ำสุด 29 สต.
สำหรับโปรโมชันใหม่ในคลื่นความถี่ใหม่นั้น ทุกค่ายต่างมีให้เลือกเป็นแพกเกจที่แยกออกเป็น ซิมที่เน้นการโทร. ซิมที่เน้นการใช้อินเทอร์เน็ต และซิมที่เน้นทั้งโทร.ทั้งเน็ต โดยแพกเกจส่วนใหญ่จะมีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ผู้บริโภคต้องเรียนรู้แนบท้าย ซึ่งหากพิจารณาให้ดีแล้วจะพบว่าโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 รายต่างมุ่งเน้นให้หันมาใช้งานดาต้ากันมากขึ้น เพราะโปรโมชันสำหรับการโทร.เพียงอย่างเดียวนั้นจะมีให้เลือกเพียง 1 โปรโมชันเท่านั้น ที่เหลือจะเป็นแบบผสมกันมากขึ้น
โดยดีแทคมีอัตราค่าโทร.เริ่มต้นต่ำสุดด้วย ซิมโทรสนุกเบอร์ดีแทค มีราคาอยู่ที่ 29 สตางค์ แต่ 2 นาทีแรกนาทีละ 99 สตางค์ สำหรับการโทร.ในเครือข่ายดีแทค ส่วนนอกเครือข่ายดีแทคหากใช้ซิมนี้จะตกนาทีละ 99 สตางค์ และซิมแฮปปี้โทรสนุกทุกเครือข่ายนาทีละ 35 สตางค์ แต่จะต้องเสียอัตราเริ่มต้นการโทร.นาทีแรกที่ 1.50 บาท ส่ง SMS ข้อความละ 3 บาท MMS ข้อความละ 5 บาท อินเทอร์เน็ตนาทีละ 1 บาท
เอไอเอส ลูกค้าใหม่เริ่มต้นที่โปรติดลมบนซึ่งเป็นโปรหลัก โทร.ช่วง 5.00-17.00 น. นาทีละ 49 สต.นอกช่วงเวลานาทีละ 99 สตางค์ทุกเครือข่าย จากนั้นเมื่อใช้งานครบ 30 วัน สามารถเปลี่ยนเป็นการใช้งานได้หลายแบบ อาทิโปร Maxโทร.นาน สุดคุ้ม โทร. 3 นาทีแรก 2.10 บาทนาทีต่อไปนาทีละ 30 สตางค์ SMS ข้อความละ 3 บาท MMS ข้อความละ 6 บาท อินเทอร์เน็ตเมกกะไบต์ละ 1.50 บาท
ทรูมูฟเอช ราคาต่ำสุดอยู่ที่ซิมหวานกลางวัน ราคาโทร.ช่วง 5.00-17.00 น. นาทีละ 49 สต.นอกช่วงเวลานาทีละ 99 สต.ทุกเครือข่าย ซิมหวานทั้งวันทั้งคืน นาทีละ 75 สตางค์ ทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง แต่หากจะส่งข้อความสั้น (SMS) ข้อความละ 2 บาท MMSครั้งละ 5 บาท เล่น 3G+/EDGE/GPRS กิโลไบต์ละ 0.001 บาท Wi-Fi ที่ความเร็วสูงสุด 100 Mbps. นาทีละ 1 บาท
****ราคาไม่ใช่ปัจจัยสำคัญแต่สุดท้ายความคุ้มค่าคือจุดขาย
ไม่ใช่เฉพาะทางด้านราคาเท่านั้นที่แข่งกันดุ แต่ยังรวมไปถึงบริการเสริมต่างๆ ที่แต่ละค่ายต่างมีความได้เปรียบเสียเปรียบกันในคนละด้าน แต่อย่างน้อยหากเทียบกับแพกเกจแบบเดิมแล้วเรียกได้ว่า ถึงไม่ได้ต้องการใช้ก็มีให้ใช้ อย่างเช่นผู้ที่ใช้โปรโมชัน '3G รักทุกค่าย' ของเอไอเอสจะได้รับเน็ต 20 เมกกะไบต์ ตั้งแต่เดือนแรกที่ใช้และในเดือนต่อไป จนกว่าลูกค้าจะเปลี่ยนเป็นโปรโมชันอื่น
ดีแทคเมื่อใช้ 'ซิมแฮปปี้ โทรสนุกทุกค่าย' 'ซิมแฮปปี้โทรสนุกเบอร์ดีแทค' หลังจากเปิดใช้บริการ จะได้รับสิทธิ์ใช้งานเน็ตฟรี นาน 3 เดือน วันละ 5 นาที และหากลูกค้าเลือกใช้โทร.สมาร์ทโฟนและจ่ายค่าบริการ 19 บาทต่อวัน จะได้รับการใช้งานโซเซียลอาทิ วอทแอป เฟซบุ๊ก และไลน์ ไม่จำกัด และแถมเน็ตให้อีก 15 MB และหากเติมเงินครั้งละ 100 บาทขึ้นไปจะได้รับเน็ตฟรี 50 MB ฟรี
สำหรับทรูมูฟเอช เมื่อลูกค้าเติมเงินขั้นต่ำ 50 บาทต่อเดือน สามารถเลือกเล่นฟรี Line Facebook Gmail และ myLife อย่างใดอย่างหนึ่ง
สงครามราคาอาจเป็นแค่จุดเริ่มต้น สำหรับ 3G 2100 ในการเร่งสร้างฐานลูกค้าและสร้างรายได้ แต่การรักษาลูกค้าเก่าก็ยังเป็นแนวทางสำคัญที่สร้างการเติบโตที่ยั่งยืน การเล่นสงครามราคาเสียงอาจไม่ได้ใจผู้บริโภคในยุคที่ประชากรมือถือไทยเลยจุดอิ่มตัวไปแล้ว ค่ายมือถือจำเป็นต้องก้าวสู่ยุคใหม่ของผู้บริโภคที่แทบทุกคนจะต้องออนไลน์ ต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น เร็วขึ้น การตอบสนองด้วยบริการใหม่ๆ ที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและตอบโจทย์การใช้งานลูกค้าได้มากถึงมากที่สุด อาจจำเป็นกว่าการเล่นแค่สงครามราคาก็เป็นได้
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000091423
ไม่มีความคิดเห็น: