Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

3 กรกฎาคม 2556 CATเดินหน้าTOTอยู่กับที่!! ล่าสุด ICT จี้TOTปีหน้าขาดทุนทันที 4,500 ล้านบาท ( ซ๊อกโลก!! 3G เฟส 2 ที่จะของบ 30000 ล้านบาทไร้ความคืบหน้าในการกู้ส่วนเฟส 1 อ้างติดตั้งเสร็จ สิงหาคมนี้ )



ประเด็นหลัก



    นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ กระทรวงไอซีที กล่าวหลังเข้ารับฟังแผนการดำเนินงานของทีโอที ว่า ทีโอทีต้องดำเนินการใน 5 แผนธุรกิจหลัก เพื่อให้ทีโอทีอยู่รอดและมีรายได้หลังหมดสัญญาสัมปทาน ได้แก่ 1. การให้บริการ 3 จี คลื่นความถี่ 1900 เมกะเฮิรตซ์ 2. การให้บริการฟิกไลท์ และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 3. ธุรกิจที่ไม่หวังรายได้แต่ตอบโจทย์นโยบายรัฐบาล เช่นบริการคลาวด์ฯ 4. การบริหารทรัพย์สินทีโอทีให้เกิดประโยชน์ ทั้งอาคารและพื้นที่ต่างๆ และ 5. ให้ความสำคัญกับความขัดแย้งในคดีความต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม



   สำหรับโครงการที่ทีโอทีจะต้องเร่งทำรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อเสนอของบประมาณจาก ครม.นั้นประกอบด้วย 4 โครงการหลัก ได้แก่ 1. โครงการ 3G เฟส 1 ที่คาดว่าจะสามารถติดตั้งได้ครบ 5,320 สถานีฐานภายในเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งปัจจุบันติดตั้งไปแล้ว4,800 สถานีฐาน และมีลูกค้าแล้ว 3.1 แสนราย รวมไปถึงความคืบหน้า 3G เฟส 2 ที่จะของบ 3 หมื่นล้านบาทในการขยายสถานีฐานเพิ่มอีกราว 9 พันสถานีฐาน ซึ่งเบื้องต้นยังไม่มีความคืบหน้าว่าจะใช้วิธีการกู้ยืมหรือการร่วมทุนในการทำเฟส 2 โดยทีโอทียังวางเป้าหมายว่าจะมีส่วนแบ่งในตลาดมือถือ 10% ในปี 2558 จากปัจจุบันมีผู้ใช้มือถือทั้งหมด 80 ล้านเลขหมาย
   
       “เบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ก.ค. 2556 นี้ว่าทีโอที 3G เฟส 2 จะใช้การดำเนินการรูปแบบใด จะกู้หรือร่วมทุน ส่วนรายละเอียดของโครงการต่างๆ คงต้องใช้เวลาในการหารือหลังจากนั้น”
   
       2. โครงการปรับปรุงโครงข่ายจากสายทองแดง ADSL มาเป็นไฟเบอร์ออปติก หรือ FTTx เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจาก 10 Mbps เป็น 30 Mbps และเคเบิลใยแก้วใต้น้ำเพื่อขยายการเชื่อมต่อต่างประเทศ โดยจะเปลี่ยนจากการเช่าเป็นลงทุนเอง ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ต้นทุนลดลง
   
       นอกจากนี้ทีโอทียังตั้งเป้าในปี 2558 จะมีลูกค้าบรอดแบนด์เพิ่มเป็น 2 ล้านราย จากปัจจุบันทีโอทีมีลูกค้าบรอดแบนด์อยู่ที่ 1.3 ล้านราย และสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 1.4 ล้านราย
   





       “หากทีโอทียังล่าช้าอยู่และไม่ดำเนินการอะไรสักอย่างเลย ในปี 2557 ทีโอทีจะขาดทุนทันที 4,500 ล้านบาท แต่หากทีโอทีสามารถดำเนินการตามแผนพลิกฟื้นได้จะส่งผลให้ทีโอทีไม่ขาดทุนแถมยังมีกำไรถึง 400 ล้านบาทในปี 2557 ด้วย”






______________________________________





หวั่นทีโอทีขาดทุนหนักปี57 อนุดิษฐ์ไล่บี้ทำงานให้เข้าเป้า

 "อนุดิษฐ์" จี้ ทีโอที เร่งสรุปแผนงานให้ชัดเจน หวั่นขาดทุน 4.5 พันล้านในปี 57 ชี้ หากดำเนินงานตามเป้าจะพลิกเป็นกำไรที่ 400 ล้านบาทในปี 57 ทันที
    นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ กระทรวงไอซีที กล่าวหลังเข้ารับฟังแผนการดำเนินงานของทีโอที ว่า ทีโอทีต้องดำเนินการใน 5 แผนธุรกิจหลัก เพื่อให้ทีโอทีอยู่รอดและมีรายได้หลังหมดสัญญาสัมปทาน ได้แก่ 1. การให้บริการ 3 จี คลื่นความถี่ 1900 เมกะเฮิรตซ์ 2. การให้บริการฟิกไลท์ และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 3. ธุรกิจที่ไม่หวังรายได้แต่ตอบโจทย์นโยบายรัฐบาล เช่นบริการคลาวด์ฯ 4. การบริหารทรัพย์สินทีโอทีให้เกิดประโยชน์ ทั้งอาคารและพื้นที่ต่างๆ และ 5. ให้ความสำคัญกับความขัดแย้งในคดีความต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม
    ทั้งนี้ ทีโอทีจะต้องเร่งดำเนินการติดตั้งโครงข่าย 3 จี เฟส 1 ให้แล้วเสร็จตามกำหนดคือเดือน ส.ค.นี้ และภายในเดือน ก.ค.นี้ จะต้องสรุปบิสสิเนสโมเดลว่าทีโอทีจะลงทุนเองหรือจะร่วมลงทุนกับพันธมิตร เพื่อให้เป้าหมายลูกค้าส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 10% ของตลาดรวมให้ได้หลังติดตั้งโครงข่ายเฟส 2 สำเร็จ
    ในส่วนของการขยายบรอดแบนด์ ทีโอทีจะต้องเพิ่มพื้นที่ให้บริการลูกค้าที่ 2 ล้านพอร์ต เพื่อครอบคลุมพื้นที่ 80% ในปี 2558 โดยทีโอทีได้เสนอแผนผ่านคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ไปแล้ว ซึ่งงบประมาณทั้ง 2 โครงการถือว่าหลายหมื่นล้าน โดยทีโอทีจะต้องเร่งดำเนินการเสนอแผนงานที่ชัดเจนต่อกระทรวงไอซีที เพื่อขออนุมัติงบประมาณตามขั้นตอนราชการโดยเร็วที่สุด
    อย่างไรก็ตาม หากทีโอทีดำเนินการตามแผนทั้งหมดได้ในเร็วๆ นี้ จะทำให้ ปี 2557 ทีโอทีมีกำไรหลังหมดสัมปทานในปี 2556 ที่ 400 ล้านบาท ที่มาจากการดำเนินธุรกิจเดิมของทีโอที อาทิ การพัฒนาการให้บริการโทรศัพท์บ้านโดยเสริมบริการมัลติมีเดีย จากปกติที่รับรายได้จากโทรศัพท์บ้านแค่ 107 บาท ในจำนวนลูกค้า 1.4 ล้านเลขหมาย เพื่อลูกค้าจะใช้งานบริการเสริมอื่นๆ อีกจำนวนมาก, การให้บริการภาครัฐในระบบคลาวด์ฯ, ประมูลโครงการยูโซ่ กับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และการใช้บริการเคเบิลใต้น้ำ เป็นต้น ทั้งนี้ หากทีโอทีไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนงาน จะทำให้ทีโอทีต้องขาดทุนในปี 2557 ถึง 4.5 พันล้านบาท และจะกลายเป็นเสือหมอบทันที
    นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทีโอทีจะยังคงยึดแผนเดิมที่ทีโอทีเสนอ กนร.แต่สิ่งที่ทีโอทีต้องทำคือ เร่งสรุปแผนการดำเนินโครงการให้ชัดเจน พร้อมทั้งรายงานและประสานงานกับกระทรวงไอซีที เพราะทุกโครงการในการลงทุนจะใช้เงินมหาศาล จึงทำให้ขั้นตอนการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจอาจจะช้า ดังนั้น ตนจะเป็นตัวกลางโดยให้รองกรรมการทีโอทีทั้ง 5 ฝ่าย รายงานความคืบหน้าในแต่ละโครงการทุกอาทิตย์.

http://www.thaipost.net/news/040713/75920


_______________________________




"อนุดิษฐ์"กำชับทีโอทีทำแผนธุรกิจให้ชัดเจน


"อนุดิษฐ์" จี้ ทีโอที เร่งสรุปแผนงานให้ชัดเจน หวั่นขาดทุน 4.5 พันล้านในปี 57 หลังรายได้สัมปทานต้องส่งคืนรัฐในปี 56 ชี้ หาก แผนการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าจะทำให้ทีโอที พลิกมาเป็นกำไรที่ 400 ล้านบาทในปี 57 ทันที
"อนุดิษฐ์" จี้ ทีโอที เร่งสรุปแผนงานให้ชัดเจน หวั่นขาดทุน 4.5 พันล้านในปี 57 หลังรายได้สัมปทานต้องส่งคืนรัฐในปี 56 ชี้ หาก แผนการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าจะทำให้ทีโอที พลิกมาเป็นกำไรที่ 400 ล้านบาทในปี 57 ทันที

วันนี้ (3 ก.ค.) ที่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) แจ้งวัฒนะ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวหลังเข้ารับฟังแผนการดำเนินงานของ ทีโอที ว่า ทีโอทีต้องดำเนินการใน 5 แผนธุรกิจหลักเพื่อให้ทีโอทีอยู่รอดและมีรายได้หลังหมดรายได้สัมปทานมือถือที่ต้องส่งคืนรัฐ ตาม พ.ร.บ.กสทช.ได้แก่ 1.การให้บริการ 3 จี คลื่นความถี่ 1900 เมกะเฮิรตซ์ 2.การให้บริการฟิกไลท์ และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 3.ธุรกิจที่ไม่หวังรายได้แต่ตอบโจทย์นโยบายรัฐบาล เช่นบริการคลาวด์ฯ 4.การบริหารทรัพย์สินทีโอทีให้เกิดประโยชน์ทั้ง อาคาร และพื้นที่ต่างๆ และ 5.ให้ความสำคัญกับความขัดแย้งในคดีความต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม

อย่างไรก็ตาม ทีโอทีจะต้องเร่งดำเนินการติดตั้งโครงข่าย 3 จี เฟส 1 ให้แล้วเสร็จตามกำหนดคือเดือน ส.ค.นี้ และภายในเดือนนี้ จะต้องสรุปบิสเนสโมเดลว่าทีโอทีจะลงทุนเองหรือจะร่วมลงทุนกับพันธมิตร เพื่อให้เป้าหมายลูกค้าส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 10% ของตลาดรวมให้ได้หลังติดตั้งโครงข่ายเฟส 2 สำเร็จ ในขณะที่ การขยายบรอดแบนด์ทีโอทีจะต้องเพิ่มพื้นที่ให้บริการลูกค้าที่ 2 ล้านพอร์ต เพื่อครอบคลุมพื้นที่ 80% ในปี 2558 โดยทีโอทีได้เสนอแผนผ่านคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ไปแล้ว ซึ่งงบประมาณทั้ง 2 โครงการถือว่าหลายหมื่นล้าน โดย ทีโอที จะต้องเร่งดำเนินการเสนอแผนงานที่ชัดเจนต่อกระทรวงไอซีทีเพื่อขออนุมัติงบประมาณตามขั้นตอนราชการโดยเร็วที่สุด

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า หากทีโอทีดำเนินการตามแผนทั้งหมดได้ในเร็วๆ นี้ จะทำให้ ปี 2557 ทีโอทีมีกำไรหลังหมดสัมปทานในปี 2556 ที่ 400 ล้านบาท ที่มาจากการดำเนินธุรกิจเดิมของทีโอที อาทิ การพัฒนาการให้บริการโทรศัพท์บ้านโดยเสริมบริการมัลติมีเดีย จากปกติที่รับรายได้จากโทรศัพท์บ้านแค่ 107 บาท ในจำนวนลูกค้า 1.4 ล้านเลขหมาย เพื่อลูกค้าจะใช้งานบริการเสริมอื่นๆ อีกจำนวนมาก, การให้บริการภาครัฐในระบบคลาวด์ฯ,  ประมูลโครงการยูโซ่กับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และการใช้บริการเคเบิลใต้น้ำ เป็นต้น ทั้งนี้ หากทีโอทีไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนงานจะทำให้ทีโอทีต้องขาดทุนทันทีในปี 2557 ถึง 4.5 พันล้านบาท และจะกลายเป็นเสือหมอบทันที

"ทีโอทีจะยังคงยึดแผนเดิมที่ทีโอทีเสนอ กนร.แต่สิ่งที่ทีโอทีต้องทำคือเร่งสรุปแผนการดำเนินโครงการให้ชัดเจน พร้อมทั้งรายงานและประสานงานกับกระทรวงไอซีที เพราะทุกโครงการในการลงทุนจะใช้เงินมหาศาล จึงทำให้ขั้นตอนการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจอาจจะช้า ดังนั้น ตนจะเป็นตัวกลางโดยให้รองกรรมการทีโอทีทั้ง 5 ฝ่ายรายงานความคืบหน้าในแต่ละโครงการทุกอาทิตย์" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

http://www.dailynews.co.th/technology/216510


___________________________________________


“อนุดิษฐ์” บี้ทีโอทีส่งรายละเอียดแผนพลิกฟื้นกิจการด่วน


       รมว.ไอซีทีจี้ทีโอทีส่งรายละเอียดแผนกู้วิกฤตโดยด่วน หลัง กนร.ให้ความเห็นชอบ 4 โครงการหลัก เผยหากยังนิ่งปี 2557 ขาดทุนทันที 4,500 ล้านบาท
     
       น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวภายหลังการติดตามความคืบหน้าแผนยุทธศาสตร์พลิกฟื้นกิจการของบริษัททีโอที ระยะเวลา 5 ปี (2556-2560) ว่า ภายหลังจากแผนดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยให้ทีโอทีกลับมาจัดทำแผนงานและโครงการต่างๆ อย่างละเอียดอีกครั้งก่อนเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี แต่ทีโอทีกลับยังไม่มีการจัดทำรายละเอียดของแผนงานโครงการภายใต้แผนพลิกฟื้นธุรกิจแต่อย่างใด
     
       “หากทีโอทียังล่าช้าอยู่และไม่ดำเนินการอะไรสักอย่างเลย ในปี 2557 ทีโอทีจะขาดทุนทันที 4,500 ล้านบาท แต่หากทีโอทีสามารถดำเนินการตามแผนพลิกฟื้นได้จะส่งผลให้ทีโอทีไม่ขาดทุนแถมยังมีกำไรถึง 400 ล้านบาทในปี 2557 ด้วย”
     
       เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. 56 ทีโอทีจะไม่มีรายได้จากสัญญาสัมปทานอีกต่อไป เพราะตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ทีโอทีจะต้องนำรายได้จากสัญญาสัมปทานทั้งหมดราว 17,000-21,000 ล้านบาท ส่งเป็นรายได้ของแผ่นดินตามที่กฎหมายกำหนด
     
       สำหรับโครงการที่ทีโอทีจะต้องเร่งทำรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อเสนอของบประมาณจาก ครม.นั้นประกอบด้วย 4 โครงการหลัก ได้แก่ 1. โครงการ 3G เฟส 1 ที่คาดว่าจะสามารถติดตั้งได้ครบ 5,320 สถานีฐานภายในเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งปัจจุบันติดตั้งไปแล้ว4,800 สถานีฐาน และมีลูกค้าแล้ว 3.1 แสนราย รวมไปถึงความคืบหน้า 3G เฟส 2 ที่จะของบ 3 หมื่นล้านบาทในการขยายสถานีฐานเพิ่มอีกราว 9 พันสถานีฐาน ซึ่งเบื้องต้นยังไม่มีความคืบหน้าว่าจะใช้วิธีการกู้ยืมหรือการร่วมทุนในการทำเฟส 2 โดยทีโอทียังวางเป้าหมายว่าจะมีส่วนแบ่งในตลาดมือถือ 10% ในปี 2558 จากปัจจุบันมีผู้ใช้มือถือทั้งหมด 80 ล้านเลขหมาย
     
       “เบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ก.ค. 2556 นี้ว่าทีโอที 3G เฟส 2 จะใช้การดำเนินการรูปแบบใด จะกู้หรือร่วมทุน ส่วนรายละเอียดของโครงการต่างๆ คงต้องใช้เวลาในการหารือหลังจากนั้น”
     
       2. โครงการปรับปรุงโครงข่ายจากสายทองแดง ADSL มาเป็นไฟเบอร์ออปติก หรือ FTTx เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจาก 10 Mbps เป็น 30 Mbps และเคเบิลใยแก้วใต้น้ำเพื่อขยายการเชื่อมต่อต่างประเทศ โดยจะเปลี่ยนจากการเช่าเป็นลงทุนเอง ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ต้นทุนลดลง
     
       นอกจากนี้ทีโอทียังตั้งเป้าในปี 2558 จะมีลูกค้าบรอดแบนด์เพิ่มเป็น 2 ล้านราย จากปัจจุบันทีโอทีมีลูกค้าบรอดแบนด์อยู่ที่ 1.3 ล้านราย และสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 1.4 ล้านราย
     
       3. โครงการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อให้บริการลูกค้า SMEs เช่น บริการคลาวคอมพิวติ้ง และไอพีทีวี ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไม่ได้คาดหวังรายได้มากนัก และ 4. โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ เช่น ที่ดิน และอาคารสำนักงาน
     
       นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องการเร่งสะสางความขัดแย้งกับคู่สัญญาสัมปทาน และเตรียมความพร้อมที่จะสู้คดีทุกรูปแบบ เพราะหากทีโอทีแพ้คดีก็จะกระทบฐานะการเงินของทีโอทีทันที อีกทั้งทีโอทียังหวังจะชนะการประมูลในโครงการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง และบริการเพื่อสังคม (USO) ของ กสทช. ซึ่งจะนำร่องก่อน 2 จังหวัด คือจังหวัดหนองคาย และพิษณุโลก ซึ่งมีมูลค่ารวม 500 ล้านบาทด้วย
     
       แหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคมตั้งข้อสังเกตว่า รมว.ไอซีทีทำงานมาเกือบ 2 ปีแล้ว บอร์ดและกรรมการผู้จัดการใหญ่คนปัจจุบันก็ตั้งมากับมือ แต่งานในทีโอทีแทบจะไม่มีอะไรคืบหน้า บอร์ดก็ประชุมเดือนละครั้ง สไตล์การทำงานของประธานบอร์ดก็ดูเหมือนไม่สอดคล้องกับบริษัทโทรคมนาคมที่สมควรจะต้องขับเคลื่อนรวดเร็วอย่างทีโอที แต่สิ่งที่เล็ดรอดออกมากลับไม่ใช่เรื่องแผนธุรกิจ หรือกลยุทธ์การตลาด แต่กลับทำกันแต่เรื่องแต่งตั้ง โยกย้าย ทำแต่เรื่องโครงสร้างองค์กร วุ่นกันไปหมด ถึงขนาดเกิดเสียงลือให้ทั่วว่ามีคนตั้งโต๊ะมีคนสั่งการเรื่องแต่งตั้ง โยกย้าย ทับเท้ากันไปหมด
     
       “ท่านอนุดิษฐ์น่าจะลงมือทำอะไรให้รวดเร็วมากกว่านี้ อาจจะคิดหรือไตร่ตรองให้น้อยลงหน่อย และเร่งทำให้มากขึ้น เพราะทีโอทีวิกฤตมากแล้ว คนภายนอกรับรู้แต่ว่าอำนาจบริหารเบ็ดเสร็จอยู่ในมือแล้ว ทั้งตั้งบอร์ด ตั้งกรรมการผู้จัดการใหญ่ หากจัดการปัญหาไม่ได้ เดี๋ยวคนจะไปเชื่อพวกที่นินทาให้ร้ายว่าทำงานไม่เป็น หรือบริหารไม่ได้”

http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9560000081021

_______________________________


ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.