Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

05 สิงหาคม 2556 คลาดอุปกรณืเสริมแข่งดุ!!! คาดตลาดแบบติดแบรนด์ น่าจะมีมูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาท (ชี้ เคสไอแพดเสียภาษีประมาณ30% ขณะที่ของจีน ของหิ้วไม่เสียต้องเสียภาษี)


ประเด็นหลัก

นายสรศักดิ์ วงศ์ชินศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจนเนอเรชั่นเอสจำกัด เปิดเผยว่าตลาดอุปกรณ์เสริมสำหรับสมาร์ทโฟน และแท็บเลตปีน้ียังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าเฉพาะอุปกรณ์เสริมที่มีแบรนด์ น่าจะมีมูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาท ขณะที่อุปกรณ์เสริมจากจีน หรือพวกของหิ้ว น่าจะมีตัวเลขมากกว่าของนำเข้าถูกกฎหมาย3 เท่าตัว ซึ่งจากการหลั่งไหลเข้ามาของอุปกรณ์เสริมจีน ประกอบกับปีนี้ไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่เข้ามาสร้างกระแสนิยมในตลาด ทำให้ตลาดมีการแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะปีนี้ตลาดเคสสมาร์ทโฟนและแท็บเลตรุ่นยอดนิยมมีปริมาณของสินค้ามากกว่าความต้องการของตลาด และเกิดการแข่งขันกันดัมพ์ราคา ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นอุปกรณ์เสริมที่มีแบรนด์บางยี่ห้อที่ขณะนี้เริ่มหายไปจากตลาด
    “เคสไอแพด แบรนด์นำเข้าถูกต้องตามกฎหมายเสียภาษีประมาณ30% ขณะที่ของจีน ของหิ้วไม่เสียภาษีทำให้ต้นทุนหายไป 30-40% ทำให้แบรนด์เนมบางรายเริ่มถอยออกจากตลาด ซึ่งเราคงไม่ลงไปแข่งราคากับแบรนด์จีนในตลาดล่าง”

 
    ด้านนายพรรธสพล พันธ์เมธีสกุลรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีแมช คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของบริษัทช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานั้นการชะลอตัวของเศรษฐกิจมีผลกระทบต่อยอดขายของบริษัท และต้องปรับกลยุทธ์ด้านการตลาดของสินค้าประเภทอุปกรณ์เสริม หรือแอ็กเซสซอรี โดยมุ่งการเพิ่มในส่วนของลวดลายลิขสิทธิ์ และปรับลดราคาสินค้าลง 50% ของราคาเดิมเพื่อสู้สินค้าที่มีราคาถูกจากประเทศจีน

    นายพรรธสพล กล่าวต่ออีกว่าจากกลยุทธ์การลดราคาสินค้าลงมาทำให้บริษัทจำเป็นต้องเพิ่มยอดจำหน่ายมากขึ้น 2 เท่า เพื่อให้สามารถคงรายได้เดิม โดยสินค้าแอ็กเซสซอรีสมาร์ทโฟนและแท็บเลตมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นสูงมากในปีที่แล้ว ซึ่งแท็บเลตเติบโต 400%และ สมาร์ทโฟนเติบโต 200% โดยขณะนี้ VOX มีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนทั้งสิ้น 10,000 ราย และในต่างประเทศผ่านตัวแทนจำหน่าย 20 รายรวมไปถึงมีการทำตลาดผ่านช่องทางอื่นๆ อาทิ ห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ตตลอดจนการรับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่างๆ อีกด้วย



















______________________________________




อุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟนแข่งดุ



 ตลาดอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟนแท็บเลตปีนี้แข่งดุ “เจนเนอเรชั่นเอส”เผยตลาดแบรนด์เนมปีนี้มูลค่า 1 พันล้านบาท ด้านของหิ้วจีน มูลค่ามากกว่า3 เท่า ระบุตลาดเคสปีนี้ชะลอตัว หลังไม่มีเทคโนโลยีใหม่เข้ามา ขณะที่เคสจีนล้นตลาด ส่วนซีแมทกัดฟันดัมพ์ราคาVOX สู้

    นายสรศักดิ์ วงศ์ชินศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจนเนอเรชั่นเอสจำกัด เปิดเผยว่าตลาดอุปกรณ์เสริมสำหรับสมาร์ทโฟน และแท็บเลตปีน้ียังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าเฉพาะอุปกรณ์เสริมที่มีแบรนด์ น่าจะมีมูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาท ขณะที่อุปกรณ์เสริมจากจีน หรือพวกของหิ้ว น่าจะมีตัวเลขมากกว่าของนำเข้าถูกกฎหมาย3 เท่าตัว ซึ่งจากการหลั่งไหลเข้ามาของอุปกรณ์เสริมจีน ประกอบกับปีนี้ไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่เข้ามาสร้างกระแสนิยมในตลาด ทำให้ตลาดมีการแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะปีนี้ตลาดเคสสมาร์ทโฟนและแท็บเลตรุ่นยอดนิยมมีปริมาณของสินค้ามากกว่าความต้องการของตลาด และเกิดการแข่งขันกันดัมพ์ราคา ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นอุปกรณ์เสริมที่มีแบรนด์บางยี่ห้อที่ขณะนี้เริ่มหายไปจากตลาด
    “เคสไอแพด แบรนด์นำเข้าถูกต้องตามกฎหมายเสียภาษีประมาณ30% ขณะที่ของจีน ของหิ้วไม่เสียภาษีทำให้ต้นทุนหายไป 30-40% ทำให้แบรนด์เนมบางรายเริ่มถอยออกจากตลาด ซึ่งเราคงไม่ลงไปแข่งราคากับแบรนด์จีนในตลาดล่าง”
    ทั้งนี้บริษัทจะมุ่งทำตลาดอุปกรณ์เสริมในตลาดกลางและบนเป็นหลักโดย 6 เดือนที่ผ่านมารายได้ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งปีนี้ทั้งปีวางเป้าหมายรายได้ไว้ 100 ล้านบาท จากเดิมปีที่ผ่านมาเข้ามาทำตลาดเป็นปีแรกมีรายได้ 50 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่ารายได้ประมาณ 40% จะมาจากอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟนและแท็บเลต ทั้งเคสและฟิล์มกันรอย แบรนด์ gosh จากสิงคโปร์ ส่วนอีก 40% มาจากหูฟังเซนไซเซอร์ จากเยอรมนี ส่วนที่เหลือมาจากปากกาวาดภาพไอแพด แบรนด์Adonit และอุปกรณ์เสริมแบรนด์โมชิฟิล์มกันรอย 3 เอ็ม
    โดยกลยุทธ์การขยายตลาดกลางและบนนั้น จะมุ่งทำตลาดอุปกรณ์เสริมสำหรับสมาร์ทโฟนยอดนิยม “ซัมซุง”และแอปเปิลเป็นหลัก ซึ่งการทำตลาดจะขายผ่านร้านไอสตูดิโอ เจมาร์ท ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ทั้งเพาเวอร์มอลล์เพาเวอร์บาย รวมไปถึงลูกตู้โทรศัพท์มือถือ ที่ขายสินค้ามีแบรนด์น่าเชื่อถือ
    ด้านนายพรรธสพล พันธ์เมธีสกุลรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีแมช คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของบริษัทช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานั้นการชะลอตัวของเศรษฐกิจมีผลกระทบต่อยอดขายของบริษัท และต้องปรับกลยุทธ์ด้านการตลาดของสินค้าประเภทอุปกรณ์เสริม หรือแอ็กเซสซอรี โดยมุ่งการเพิ่มในส่วนของลวดลายลิขสิทธิ์ และปรับลดราคาสินค้าลง 50% ของราคาเดิมเพื่อสู้สินค้าที่มีราคาถูกจากประเทศจีน
    โดยมุ่งชูกลยุทธ์ต่างจากแบรนด์จีนด้วยการเป็นสินค้าที่ถูกลิขสิทธิ์ มีคุณภาพดี และมีราคาแพงกว่าสินค้าของจีนไม่มาก หรือประมาณ 20-30%ทำให้กลุ่มผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อน้อยได้มากขึ้น นอกจากนี้จะมุ่งการออกแบบลวดลายใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาดทุก 2-3 เดือน
    นายพรรธสพล กล่าวต่ออีกว่าจากกลยุทธ์การลดราคาสินค้าลงมาทำให้บริษัทจำเป็นต้องเพิ่มยอดจำหน่ายมากขึ้น 2 เท่า เพื่อให้สามารถคงรายได้เดิม โดยสินค้าแอ็กเซสซอรีสมาร์ทโฟนและแท็บเลตมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นสูงมากในปีที่แล้ว ซึ่งแท็บเลตเติบโต 400%และ สมาร์ทโฟนเติบโต 200% โดยขณะนี้ VOX มีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนทั้งสิ้น 10,000 ราย และในต่างประเทศผ่านตัวแทนจำหน่าย 20 รายรวมไปถึงมีการทำตลาดผ่านช่องทางอื่นๆ อาทิ ห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ตตลอดจนการรับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่างๆ อีกด้วย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=193512:2013-08-02-09-51-27&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.