13 สิงหาคม 2556 RS พยายามขาย ลาลีกา สเปน ซีซั่น 2 ทุกช่องทาง!! ทั้งจับมือ TRUE และ PSI ออกอากาศคู่พิเศษ // ขายลูกค้าDTACเพียง 99 บาทต่อเดือน // TOTราคาพิเศษ

ประเด็นหลัก


 ด้าน นางสาวพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.อาร์เอส เปิดเผยว่า สำหรับลาลีกา สเปน ซีซั่น 2 คาดว่าจะทำการตลาดได้ครบทุกช่องทางมากกว่าเดิม จากในซีซั่นที่ 1 รายได้หลักจะมาจากการขายกล่องซันบล็อกเป็นส่วนใหญ่ โดยคาดการณ์ว่าจะมีลูกค้าที่ยังไม่มีกล่องซันบล็อกในซีซั่นแรกหันมาซื้อกล่องมากขึ้น ซึ่งคาดว่าลูกค้ากลุ่มเดิมกว่า 3 แสนราย ในช่วงซีซั่นแรก คิดเป็นประมาณ 80% หรือ 2 แสนกว่าคน จะหันมาสมัครสมาชิกดูลาลีกา สเปนทั้งฤดูกาล เพียง 99 บาทต่อเดือน มากขึ้น
    ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้มีการจับมือกับพันธมิตร อาทิ ทรูวิชั่น ที่ได้ซับ-ไลเซนส์ในการเลือกบางแมตช์การแข่งขันไปออกอากาศทางทรูสปอร์ต อีกส่วนหนึ่งคือ พีเอสไอ ที่ได้ผลิตกล่อง โอทู ดิจิตอล ออกมา ซึ่งมีเป้าหมายในการขายกล่อง 1 ล้านกล่อง ขณะที่ช่อง 7 ก็จะมีการถ่ายทอดการแข่งขันทั้งหมด 12 แมตช์ รวมถึงยังได้ขยายการรับชมไปยัง
แพลตฟอร์มไอพีทีวี บริษัทลูกของ ทศท คอร์ปอเรชั่นส์ และยังได้จับมือกับดีแทค (DTAC) มอบโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้าที่สมัครดูลาลีกา สเปน ทั้งฤดูกาลเพียง 99 บาทต่อเดือน รับค่าโทร.ฟรีเบอร์ดีแทค มูลค่า 900 บาท อีกด้วย
    โดยหลังจากมีการขยายฐานกล่องซันบล็อกที่คาดว่าจะมีลูกค้าในซีซั่น 2 เพิ่มขึ้นเป็นอีก 2 แสนราย จากซีซั่น 1 เดิมมีอยู่ 3 แสน รวมเป็น 5 แสนราย พร้อมกับการจับมือกับพันธมิตรต่างๆ แล้วนั้น จะสามารถทำให้รายได้ในซีซั่น 2 นี้ เพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่าตัว หรือประมาณ 800 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากการบริหารลิขสิทธิ์ประมาณ 65% รายได้จากการขายกล่องอีกประมาณ 25% และรายได้จากการโฆษณาอีกประมาณ 10%
    อย่างไรก็ตาม ในช่วงซีซั่นที่ 3 น้ำหนักของรายได้จะอยู่ในส่วนของโฆษณาและการบริหารลิขสิทธิ์ โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้จะแบ่งเป็น รายได้ที่มาจากการบริหารลิขสิทธิ์ 85% และรายได้จากการโฆษณาอีก 15%.

______________________________________




กสทช.ออกใบอนุญาตให้CTH อาร์เอสหวังลาลีกาหนุนขายกล่อง



กสทช.อนุมัติโครงข่ายระดับชาติเพิ่ม 2 ราย ซีทีเอส และ พาโนรามา ฟากอาร์เอส ส่งกล่องซันบล็อกเอาใจแฟนลาลีกาฯ คาดรายได้เพิ่มขึ้น 4 เท่าตัว หวังขยายฐานลูกค้าเพิ่มอีก 2 แสนราย
    พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. กล่าวว่า บอร์ด กสท.ได้มีการอนุญาตโครงข่ายในกิจการไม่ใช้คลื่นความถี่ทั้งหมด 7 ใบอนุญาต แบ่งเป็น ระดับชาติ 2 ใบอนุญาต คือ บมจ.เอเซีย จอยท์ พาโนราม่า และ บมจ.ซีทีเอช และระดับท้องถิ่น 5 ใบอนุญาต
    ทั้งนี้ บอร์ด กสท.ยังเร่งผู้ประกอบการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล 4 ราย ได้แก่ ช่อง 5 ช่อง 9 ช่อง 11 และไทยพีบีเอส ให้ยื่นเสนอราคาค่าโครงข่ายฯ โดยเร็วที่สุด โดยบอร์ด กสท. คาดว่าจะสามารถประกาศราคาโครงข่ายฯ ได้ ก่อนเปิดประมูลทีวีดิจิตอล 30 วัน
    พร้อมกันนี้ สำนักงาน กสทช.จะเริ่มประกาศออกหนังสือเพื่อเชิญชวนให้ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ดิจิตอล ประเภทที่ 3 ที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการกระจายข้อมูลข่าวสาร เพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างรัฐบาลกับประชาชน และรัฐสภากับประชาชน ภายในเดือน ส.ค. และสามารถยื่นเอกสารได้ต้นเดือน ต.ค.นี้ และคาดว่าจะออกใบอนุญาตได้ภายในเดือนเดียวกัน
    ด้าน นางสาวพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.อาร์เอส เปิดเผยว่า สำหรับลาลีกา สเปน ซีซั่น 2 คาดว่าจะทำการตลาดได้ครบทุกช่องทางมากกว่าเดิม จากในซีซั่นที่ 1 รายได้หลักจะมาจากการขายกล่องซันบล็อกเป็นส่วนใหญ่ โดยคาดการณ์ว่าจะมีลูกค้าที่ยังไม่มีกล่องซันบล็อกในซีซั่นแรกหันมาซื้อกล่องมากขึ้น ซึ่งคาดว่าลูกค้ากลุ่มเดิมกว่า 3 แสนราย ในช่วงซีซั่นแรก คิดเป็นประมาณ 80% หรือ 2 แสนกว่าคน จะหันมาสมัครสมาชิกดูลาลีกา สเปนทั้งฤดูกาล เพียง 99 บาทต่อเดือน มากขึ้น
    ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังได้มีการจับมือกับพันธมิตร อาทิ ทรูวิชั่น ที่ได้ซับ-ไลเซนส์ในการเลือกบางแมตช์การแข่งขันไปออกอากาศทางทรูสปอร์ต อีกส่วนหนึ่งคือ พีเอสไอ ที่ได้ผลิตกล่อง โอทู ดิจิตอล ออกมา ซึ่งมีเป้าหมายในการขายกล่อง 1 ล้านกล่อง ขณะที่ช่อง 7 ก็จะมีการถ่ายทอดการแข่งขันทั้งหมด 12 แมตช์ รวมถึงยังได้ขยายการรับชมไปยัง
แพลตฟอร์มไอพีทีวี บริษัทลูกของ ทศท คอร์ปอเรชั่นส์ และยังได้จับมือกับดีแทค (DTAC) มอบโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้าที่สมัครดูลาลีกา สเปน ทั้งฤดูกาลเพียง 99 บาทต่อเดือน รับค่าโทร.ฟรีเบอร์ดีแทค มูลค่า 900 บาท อีกด้วย
    โดยหลังจากมีการขยายฐานกล่องซันบล็อกที่คาดว่าจะมีลูกค้าในซีซั่น 2 เพิ่มขึ้นเป็นอีก 2 แสนราย จากซีซั่น 1 เดิมมีอยู่ 3 แสน รวมเป็น 5 แสนราย พร้อมกับการจับมือกับพันธมิตรต่างๆ แล้วนั้น จะสามารถทำให้รายได้ในซีซั่น 2 นี้ เพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่าตัว หรือประมาณ 800 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากการบริหารลิขสิทธิ์ประมาณ 65% รายได้จากการขายกล่องอีกประมาณ 25% และรายได้จากการโฆษณาอีกประมาณ 10%
    อย่างไรก็ตาม ในช่วงซีซั่นที่ 3 น้ำหนักของรายได้จะอยู่ในส่วนของโฆษณาและการบริหารลิขสิทธิ์ โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้จะแบ่งเป็น รายได้ที่มาจากการบริหารลิขสิทธิ์ 85% และรายได้จากการโฆษณาอีก 15%.

http://www.thaipost.net/news/140813/77754