03 กันยายน 2556 อัลคาเทล-ลูเซ่น บุกตลาดไทย!! 3 บริการ 1. IP Routing and Transport // 2. กลุ่มผลิตภัณฑ์ Wireless Ultra Broadband // 3. กลุ่มผลิตภัณฑ์ Fixed Ultra Broadband //
ประเด็นหลัก
สำหรับในประเทศไทย อัลคาเทล-ลูเซ่น ได้ปรับเข้าสู่รูปแบบดังกล่าวแล้วเช่นกัน โดยจะเน้นสร้างความเชี่ยวชาญและความแข็งแกร่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก 4 กลุ่มที่ได้มีการทำตลาดไปแล้ว และที่ผ่านมาได้มีการสร้างความรู้และความเชี่ยวชาญให้พันธมิตรที่เป็นช่องทางขายเพื่อนำไปเสนอแก่ลูกค้าแล้ว โดย 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย
1. IP Routing and Transport ที่ได้มีการนำเสนอโซลูชันกลุ่มนี้ให้แก่ผู้ให้บริการทุกรายในประเทศไทยอยู่แล้ว โดยจะเน้นโซลูชันที่รองรับประสิทธิภาพความเร็วสูงที่ระดับ 100 G และ 400 G ที่จะช่วยให้ผู้ให้บริการแก้ไขปัญหาทราฟฟิกสูงของเครือข่าย 3G/LTE 2100 และการขยายตัวของเครือข่ายบรอดแบนด์ตามสายได้
2. กลุ่มผลิตภัณฑ์ Wireless Ultra Broadband ที่ผ่านมาได้มีการนำเสนอโซลูชัน Small Cells ให้ผู้ให้บริการยักษ์ใหญ่ 3 รายในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการเหล่านั้นพัฒนาเรื่องคุณภาพของบริการและขยายขอบข่ายสัญญาณไปในที่ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว และยังมีความพร้อมที่จะสนับสนุนผู้ให้บริการสร้างเครือข่าย LTE ทรงประสิทธิภาพและมีความเร็วสูงต่อไปในอนาคต
3. กลุ่มผลิตภัณฑ์ Fixed Ultra Broadband สำหรับประเทศไทยนั้นได้มีการนำเสนอเทคโนโลยี VDLS Vectoring ที่สามารถช่วยให้ผู้ให้บริการใช้เครือข่ายทองแดงที่มีอยู่ได้อย่างคุ้มค่า สามารถปรับให้มีความเร็วสูงได้ถึง 100 Mbps และ 4. กลุ่มผลิตภัณฑ์ IP Platforms เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ “Carrier Cloud” ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตลาดผู้ให้บริการคลาวด์นี้ อัลคาเทล-ลูเซ่น ได้นำเสนอ Cloudband สำหรับในส่วนทรานส์ปอร์ต เพื่อยกระดับโครงข่ายปัจจุบันให้มีศักยภาพให้บริการคลาวด์ให้สูงขึ้น ปลอดภัยขึ้น น่าเชื่อถือขึ้น
______________________________________
อัลคาเทล-ลูเซ่น เล็งตลาดไอพี/อัลตราบรอดแบนด์
นายเซบาสเตียน โลฮอง ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลคาเทล-ลูเซ่น (ประเทศไทย)
อัลคาเทล-ลูเซ่น เล็งเห็นโอกาสตลาดไอพีและอัลตราบรอดแบนด์มีแนวโน้มรุ่ง อัดงบวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีไอพีสำหรับ Core Networking จากปัจจุบัน 8% ในปีนี้เป็น 85% ในปี 2015 เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่นำเสนอตลาด ตั้งเป้าหมายที่จะประหยัดต้นทุนปฏิบัติการและต้นทุนการขายถึง 1 พันล้านยูโรระหว่างปี 2013-2015 เผยในไทยได้ปรับเข้าสู่รูปแบบดังกล่าวแล้ว พร้อมส่ง 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลักลุยตลาด
นายเซบาสเตียน โลฮอง ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลคาเทล-ลูเซ่น (ประเทศไทย) กล่าวว่า อัลคาเทล-ลูเซ่นมองเห็นแนวโน้มการเติบโตของโครงข่ายไอพีและอัลตราบรอดแบนด์แอ็กเซสที่เป็นทั้งเครือข่ายแบบไร้สายและแบบผสม อันเป็นผลมาจากพฤติกรรมของผู้ใช้งานและความต้องการของตลาดโทรคมนาคมทั่วโลก จึงได้ทำการปรับรูปแบบตำแหน่งทางการตลาดใหม่ หรือ The Shift Plan ด้วยการหันมาให้ความสำคัญต่อการนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ไอพีคลาวด์ และอัลตราบรอดแบนด์มาทำตลาด จากเดิมที่อัลคาเทล-ลูเซ่น วางตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์โทรคมนาคมทั่วไป
ทั้งนี้ ในอนาคตไอพีจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงการสื่อสารและแอปพลิเคชันทั้งหมดของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ไม่ว่าจะเป็นที่เครือข่ายของผู้ให้บริการ, แอปพลิเคชันขององค์กรและแอปพลิเคชันด้านผู้ใช้งาน การปรับตัวในครั้งนี้จะช่วยตอบสนองการรับ-ส่งข้อมูลขนาดใหญ่ที่เครือข่ายเดิมๆ ถูกออกแบบมารองรับบริการด้านเสียงเป็นหลัก ยังไม่สามารถรองรับได้
The Shift Plan คือการปรับเปลี่ยนการจัดการบริหารองค์กรที่เน้น Core Networking segment (IP routing, IP transport, IP platforms และบริการที่เกี่ยวข้องอื่นๆ), ธุรกิจ Access segment (Wireless and fixed access) และธุรกิจอื่นๆ ที่สามารถสร้างรายได้โดยเน้นที่ Ultra-Broadband Access รวมถึงผลิตภัณฑ์ WDM, 100G, IMS และ Customer experience product lines, เทคโนโลยีไฟเบอร์ “FTTx” สำหรับที่อยู่อาศัย ธุรกิจ, เทคโนโลยี Vectoring, 4G LTE mobile wireless access และสมอลเซลส์อีกด้วย
“ในอนาคตอันใกล้นี้จะมีการลงทุนเพิ่มใน IP, optics, Software, FTTx และ LTE รวมทั้งจะมีผู้ให้บริการที่มิใช่ด้านโทรคมนาคมเกิดขึ้นและใช้อุปกรณ์ระดับผู้ให้บริการมากขึ้น ดังนั้นอัลคาเทล-ลูเซ่นจะเพิ่มงบประมาณด้านวิจัยและพัฒนาในเทคโนโลยี IP routing, transport & broadband access จาก 8% ในระยะเวลานี้ และเพิ่มเป็น 85% ในปี 2015 รวมทั้งจะเร่งพัฒนาและยกระดับการทำงานกับพันธมิตร ความร่วมมือกันพัฒนาโครงการต่างๆ ร่วมกันให้มากขึ้น”
นายเซบาสเตียน โลฮอง กล่าวว่า ทางด้านการบริหารองค์กรภายใต้ ‘The Shift Plan’ นั้น อัลคาเทล-ลูเซ่นจะปรับวิธีการทำงาน จากเดิมที่เป็นลักษณะแบ่งแยกหน่วยงานกัน ซึ่งทำให้มีหน่วยงานซ้ำซ้อน ทำให้มีประสิทธิภาพต่ำ ให้เป็นโครงสร้างที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพ โดยตั้งเป้าหมายที่จะประหยัดต้นทุนปฏิบัติการและต้นทุนการขายได้มากถึง 1 พันล้านยูโรระหว่างปี 2013-2015
นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนองค์กรดังกล่าวจะทำไปพร้อมๆ กับการเร่งสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้เร็วขึ้น โดยจะเพิ่มการลงทุนในศูนย์วิจัยเบลแล็ปส์ให้มีศักยภาพผลิตโซลูชันใหม่ๆ และใช้สิทธิบัตรที่มีมากกว่า 30,000 สิทธิบัตร และแอปพลิเคชันมากกว่า 16,000 แอปเพื่อสนองความต้องการด้านโทรคมนาคมของลูกค้าและองค์กรขนาดใหญ่ได้มากขึ้น
สำหรับในประเทศไทย อัลคาเทล-ลูเซ่น ได้ปรับเข้าสู่รูปแบบดังกล่าวแล้วเช่นกัน โดยจะเน้นสร้างความเชี่ยวชาญและความแข็งแกร่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก 4 กลุ่มที่ได้มีการทำตลาดไปแล้ว และที่ผ่านมาได้มีการสร้างความรู้และความเชี่ยวชาญให้พันธมิตรที่เป็นช่องทางขายเพื่อนำไปเสนอแก่ลูกค้าแล้ว โดย 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย
1. IP Routing and Transport ที่ได้มีการนำเสนอโซลูชันกลุ่มนี้ให้แก่ผู้ให้บริการทุกรายในประเทศไทยอยู่แล้ว โดยจะเน้นโซลูชันที่รองรับประสิทธิภาพความเร็วสูงที่ระดับ 100 G และ 400 G ที่จะช่วยให้ผู้ให้บริการแก้ไขปัญหาทราฟฟิกสูงของเครือข่าย 3G/LTE 2100 และการขยายตัวของเครือข่ายบรอดแบนด์ตามสายได้
2. กลุ่มผลิตภัณฑ์ Wireless Ultra Broadband ที่ผ่านมาได้มีการนำเสนอโซลูชัน Small Cells ให้ผู้ให้บริการยักษ์ใหญ่ 3 รายในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการเหล่านั้นพัฒนาเรื่องคุณภาพของบริการและขยายขอบข่ายสัญญาณไปในที่ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว และยังมีความพร้อมที่จะสนับสนุนผู้ให้บริการสร้างเครือข่าย LTE ทรงประสิทธิภาพและมีความเร็วสูงต่อไปในอนาคต
3. กลุ่มผลิตภัณฑ์ Fixed Ultra Broadband สำหรับประเทศไทยนั้นได้มีการนำเสนอเทคโนโลยี VDLS Vectoring ที่สามารถช่วยให้ผู้ให้บริการใช้เครือข่ายทองแดงที่มีอยู่ได้อย่างคุ้มค่า สามารถปรับให้มีความเร็วสูงได้ถึง 100 Mbps และ 4. กลุ่มผลิตภัณฑ์ IP Platforms เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ “Carrier Cloud” ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตลาดผู้ให้บริการคลาวด์นี้ อัลคาเทล-ลูเซ่น ได้นำเสนอ Cloudband สำหรับในส่วนทรานส์ปอร์ต เพื่อยกระดับโครงข่ายปัจจุบันให้มีศักยภาพให้บริการคลาวด์ให้สูงขึ้น ปลอดภัยขึ้น น่าเชื่อถือขึ้น
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9560000110581
สำหรับในประเทศไทย อัลคาเทล-ลูเซ่น ได้ปรับเข้าสู่รูปแบบดังกล่าวแล้วเช่นกัน โดยจะเน้นสร้างความเชี่ยวชาญและความแข็งแกร่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก 4 กลุ่มที่ได้มีการทำตลาดไปแล้ว และที่ผ่านมาได้มีการสร้างความรู้และความเชี่ยวชาญให้พันธมิตรที่เป็นช่องทางขายเพื่อนำไปเสนอแก่ลูกค้าแล้ว โดย 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย
1. IP Routing and Transport ที่ได้มีการนำเสนอโซลูชันกลุ่มนี้ให้แก่ผู้ให้บริการทุกรายในประเทศไทยอยู่แล้ว โดยจะเน้นโซลูชันที่รองรับประสิทธิภาพความเร็วสูงที่ระดับ 100 G และ 400 G ที่จะช่วยให้ผู้ให้บริการแก้ไขปัญหาทราฟฟิกสูงของเครือข่าย 3G/LTE 2100 และการขยายตัวของเครือข่ายบรอดแบนด์ตามสายได้
2. กลุ่มผลิตภัณฑ์ Wireless Ultra Broadband ที่ผ่านมาได้มีการนำเสนอโซลูชัน Small Cells ให้ผู้ให้บริการยักษ์ใหญ่ 3 รายในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการเหล่านั้นพัฒนาเรื่องคุณภาพของบริการและขยายขอบข่ายสัญญาณไปในที่ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว และยังมีความพร้อมที่จะสนับสนุนผู้ให้บริการสร้างเครือข่าย LTE ทรงประสิทธิภาพและมีความเร็วสูงต่อไปในอนาคต
3. กลุ่มผลิตภัณฑ์ Fixed Ultra Broadband สำหรับประเทศไทยนั้นได้มีการนำเสนอเทคโนโลยี VDLS Vectoring ที่สามารถช่วยให้ผู้ให้บริการใช้เครือข่ายทองแดงที่มีอยู่ได้อย่างคุ้มค่า สามารถปรับให้มีความเร็วสูงได้ถึง 100 Mbps และ 4. กลุ่มผลิตภัณฑ์ IP Platforms เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ “Carrier Cloud” ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตลาดผู้ให้บริการคลาวด์นี้ อัลคาเทล-ลูเซ่น ได้นำเสนอ Cloudband สำหรับในส่วนทรานส์ปอร์ต เพื่อยกระดับโครงข่ายปัจจุบันให้มีศักยภาพให้บริการคลาวด์ให้สูงขึ้น ปลอดภัยขึ้น น่าเชื่อถือขึ้น
______________________________________
อัลคาเทล-ลูเซ่น เล็งตลาดไอพี/อัลตราบรอดแบนด์
นายเซบาสเตียน โลฮอง ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลคาเทล-ลูเซ่น (ประเทศไทย)
อัลคาเทล-ลูเซ่น เล็งเห็นโอกาสตลาดไอพีและอัลตราบรอดแบนด์มีแนวโน้มรุ่ง อัดงบวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีไอพีสำหรับ Core Networking จากปัจจุบัน 8% ในปีนี้เป็น 85% ในปี 2015 เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่นำเสนอตลาด ตั้งเป้าหมายที่จะประหยัดต้นทุนปฏิบัติการและต้นทุนการขายถึง 1 พันล้านยูโรระหว่างปี 2013-2015 เผยในไทยได้ปรับเข้าสู่รูปแบบดังกล่าวแล้ว พร้อมส่ง 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลักลุยตลาด
นายเซบาสเตียน โลฮอง ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลคาเทล-ลูเซ่น (ประเทศไทย) กล่าวว่า อัลคาเทล-ลูเซ่นมองเห็นแนวโน้มการเติบโตของโครงข่ายไอพีและอัลตราบรอดแบนด์แอ็กเซสที่เป็นทั้งเครือข่ายแบบไร้สายและแบบผสม อันเป็นผลมาจากพฤติกรรมของผู้ใช้งานและความต้องการของตลาดโทรคมนาคมทั่วโลก จึงได้ทำการปรับรูปแบบตำแหน่งทางการตลาดใหม่ หรือ The Shift Plan ด้วยการหันมาให้ความสำคัญต่อการนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ไอพีคลาวด์ และอัลตราบรอดแบนด์มาทำตลาด จากเดิมที่อัลคาเทล-ลูเซ่น วางตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์โทรคมนาคมทั่วไป
ทั้งนี้ ในอนาคตไอพีจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงการสื่อสารและแอปพลิเคชันทั้งหมดของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ไม่ว่าจะเป็นที่เครือข่ายของผู้ให้บริการ, แอปพลิเคชันขององค์กรและแอปพลิเคชันด้านผู้ใช้งาน การปรับตัวในครั้งนี้จะช่วยตอบสนองการรับ-ส่งข้อมูลขนาดใหญ่ที่เครือข่ายเดิมๆ ถูกออกแบบมารองรับบริการด้านเสียงเป็นหลัก ยังไม่สามารถรองรับได้
The Shift Plan คือการปรับเปลี่ยนการจัดการบริหารองค์กรที่เน้น Core Networking segment (IP routing, IP transport, IP platforms และบริการที่เกี่ยวข้องอื่นๆ), ธุรกิจ Access segment (Wireless and fixed access) และธุรกิจอื่นๆ ที่สามารถสร้างรายได้โดยเน้นที่ Ultra-Broadband Access รวมถึงผลิตภัณฑ์ WDM, 100G, IMS และ Customer experience product lines, เทคโนโลยีไฟเบอร์ “FTTx” สำหรับที่อยู่อาศัย ธุรกิจ, เทคโนโลยี Vectoring, 4G LTE mobile wireless access และสมอลเซลส์อีกด้วย
“ในอนาคตอันใกล้นี้จะมีการลงทุนเพิ่มใน IP, optics, Software, FTTx และ LTE รวมทั้งจะมีผู้ให้บริการที่มิใช่ด้านโทรคมนาคมเกิดขึ้นและใช้อุปกรณ์ระดับผู้ให้บริการมากขึ้น ดังนั้นอัลคาเทล-ลูเซ่นจะเพิ่มงบประมาณด้านวิจัยและพัฒนาในเทคโนโลยี IP routing, transport & broadband access จาก 8% ในระยะเวลานี้ และเพิ่มเป็น 85% ในปี 2015 รวมทั้งจะเร่งพัฒนาและยกระดับการทำงานกับพันธมิตร ความร่วมมือกันพัฒนาโครงการต่างๆ ร่วมกันให้มากขึ้น”
นายเซบาสเตียน โลฮอง กล่าวว่า ทางด้านการบริหารองค์กรภายใต้ ‘The Shift Plan’ นั้น อัลคาเทล-ลูเซ่นจะปรับวิธีการทำงาน จากเดิมที่เป็นลักษณะแบ่งแยกหน่วยงานกัน ซึ่งทำให้มีหน่วยงานซ้ำซ้อน ทำให้มีประสิทธิภาพต่ำ ให้เป็นโครงสร้างที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพ โดยตั้งเป้าหมายที่จะประหยัดต้นทุนปฏิบัติการและต้นทุนการขายได้มากถึง 1 พันล้านยูโรระหว่างปี 2013-2015
นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนองค์กรดังกล่าวจะทำไปพร้อมๆ กับการเร่งสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้เร็วขึ้น โดยจะเพิ่มการลงทุนในศูนย์วิจัยเบลแล็ปส์ให้มีศักยภาพผลิตโซลูชันใหม่ๆ และใช้สิทธิบัตรที่มีมากกว่า 30,000 สิทธิบัตร และแอปพลิเคชันมากกว่า 16,000 แอปเพื่อสนองความต้องการด้านโทรคมนาคมของลูกค้าและองค์กรขนาดใหญ่ได้มากขึ้น
สำหรับในประเทศไทย อัลคาเทล-ลูเซ่น ได้ปรับเข้าสู่รูปแบบดังกล่าวแล้วเช่นกัน โดยจะเน้นสร้างความเชี่ยวชาญและความแข็งแกร่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก 4 กลุ่มที่ได้มีการทำตลาดไปแล้ว และที่ผ่านมาได้มีการสร้างความรู้และความเชี่ยวชาญให้พันธมิตรที่เป็นช่องทางขายเพื่อนำไปเสนอแก่ลูกค้าแล้ว โดย 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย
1. IP Routing and Transport ที่ได้มีการนำเสนอโซลูชันกลุ่มนี้ให้แก่ผู้ให้บริการทุกรายในประเทศไทยอยู่แล้ว โดยจะเน้นโซลูชันที่รองรับประสิทธิภาพความเร็วสูงที่ระดับ 100 G และ 400 G ที่จะช่วยให้ผู้ให้บริการแก้ไขปัญหาทราฟฟิกสูงของเครือข่าย 3G/LTE 2100 และการขยายตัวของเครือข่ายบรอดแบนด์ตามสายได้
2. กลุ่มผลิตภัณฑ์ Wireless Ultra Broadband ที่ผ่านมาได้มีการนำเสนอโซลูชัน Small Cells ให้ผู้ให้บริการยักษ์ใหญ่ 3 รายในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการเหล่านั้นพัฒนาเรื่องคุณภาพของบริการและขยายขอบข่ายสัญญาณไปในที่ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว และยังมีความพร้อมที่จะสนับสนุนผู้ให้บริการสร้างเครือข่าย LTE ทรงประสิทธิภาพและมีความเร็วสูงต่อไปในอนาคต
3. กลุ่มผลิตภัณฑ์ Fixed Ultra Broadband สำหรับประเทศไทยนั้นได้มีการนำเสนอเทคโนโลยี VDLS Vectoring ที่สามารถช่วยให้ผู้ให้บริการใช้เครือข่ายทองแดงที่มีอยู่ได้อย่างคุ้มค่า สามารถปรับให้มีความเร็วสูงได้ถึง 100 Mbps และ 4. กลุ่มผลิตภัณฑ์ IP Platforms เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ “Carrier Cloud” ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตลาดผู้ให้บริการคลาวด์นี้ อัลคาเทล-ลูเซ่น ได้นำเสนอ Cloudband สำหรับในส่วนทรานส์ปอร์ต เพื่อยกระดับโครงข่ายปัจจุบันให้มีศักยภาพให้บริการคลาวด์ให้สูงขึ้น ปลอดภัยขึ้น น่าเชื่อถือขึ้น
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9560000110581
ไม่มีความคิดเห็น: