Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

10 กันยายน 2556 ช่วงแสงที่มาจากจอแท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ตโฟน (สามารถทำให้อ้วนได้) ผลวิจัยรายงานระบุ!! ผลให้เกิดอาการซึมเศร้า ทำสมองนำไปสู่ความหิว


ประเด็นหลัก


จากงานวิจัยในวารสารนูโรไซเอินซ์ ระบุว่า การได้รับคลื่นแสงสีฟ้าซึ่งเป็นช่วงแสงที่มาจากจอแท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ตโฟน อาจส่งผลให้เกิดอาการซึมเศร้า คงเป็นอีกการค้นพบหนึ่งที่ตอกย้ำกับคนยุคดิจิตอลว่า ไม่ควรเอาอุปกรณ์อัจฉริยะเหล่านี้เข้านอนด้วย เพราะส่งผลร้ายต่อสุขภาพ

ทั้งนี้การนอนไม่เพียงพอยังส่งผลให้เป็นโรคอ้วนได้ เนื่องจากทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสมองซึ่งนำไปสู่ความหิว จากการค้นพบของทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยใช้ครื่องสร้างภาพเหมือนจริงด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ MRI (Magnetic Resonance Imaging) เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในสมอง ขณะที่ถูกรบกวนการนอนหลับ



______________________________________




แสงแท็บเล็ตทำตาค้าง เตือนนอนน้อยก่อโรคอ้วน


ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

จากงานวิจัยในวารสารนูโรไซเอินซ์ ระบุว่า การได้รับคลื่นแสงสีฟ้าซึ่งเป็นช่วงแสงที่มาจากจอแท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ตโฟน อาจส่งผลให้เกิดอาการซึมเศร้า คงเป็นอีกการค้นพบหนึ่งที่ตอกย้ำกับคนยุคดิจิตอลว่า ไม่ควรเอาอุปกรณ์อัจฉริยะเหล่านี้เข้านอนด้วย เพราะส่งผลร้ายต่อสุขภาพ

แรนดี เนลสัน ศาสตราจารย์ด้านประสาทวิทยาและจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า อุปกรณ์ทันสมัยต่างๆ มักปล่อยแสงที่มากเกินไปในตอนกลางคืนโดยเฉพาะคลื่นแสงสีฟ้า จากการทดลองกับหนูแฮมสเตอร์พบว่า แสงดังกล่าวส่งผลต่อระบบประสาททำให้นอนไม่หลับ และซึมเศร้า

หากจะหาทางออก นักวิจัยแนะว่า ให้ใช้แสงสีแดงในตอนกลางคืน เพราะคลื่นแสงสีแดงไม่ทำร้ายสุขภาพ ส่วนวิธีแก้ปัญหาที่ได้รับความสนใจเวลานี้ คือ แอพพลิเคชั่นชื่อ "F.lux" ซึ่งช่วยลดแสงหน้าจอให้อ่อนลงและเข้าสู่โทนสีแดงอมส้มที่ดีต่อสายตาโดยอัตโนมัติ โดยแอพพลิเคชั่นตัวนี้ให้ผู้ใช้ได้ดาวน์โหลดฟรี และได้รับการตอบรับที่ดี มีผู้โหลดไปใช้งานจำนวนมาก

ทั้งนี้การนอนไม่เพียงพอยังส่งผลให้เป็นโรคอ้วนได้ เนื่องจากทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสมองซึ่งนำไปสู่ความหิว จากการค้นพบของทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยใช้ครื่องสร้างภาพเหมือนจริงด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ MRI (Magnetic Resonance Imaging) เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในสมอง ขณะที่ถูกรบกวนการนอนหลับ

จากการให้อาสาสมัคร 23 คน สแกนสมองคนละ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกหลังจากการนอนหลับที่เพียงพอ และอีกครั้งหลังจากคืนที่ถูกรบกวนการนอน พบว่า หลังจากถูกรบกวนการนอน ผู้ร่วมทดสอบมีความอยากอาหารที่มีแคลอรีสูงกว่าปกติ

การค้นพบนี้บ่งชี้ว่า หากต้องการควบคุมน้ำหนัก ร่างกายจำเป็นต้องได้นอนหลับอย่างเพียงพอ เพื่อให้กลไกสมองสามารถเลือกหาอาหารได้ถูกต้องเหมาะสม


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1378782803

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.