16 ตุลาคม 2556 กสทช.5 ปี ลงทุนบริการทั่วถึงวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ายซองประกวดราคา 2 จังหวัดนำร่อง ที่ "พิษณุโลก-หนองคาย" 18 พ.ย.นี้
ประเด็นหลัก
ด้าน พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. เปิดเผยว่า วันที่ 16 ต.ค.นี้จะพิจารณารายชื่อโครงการที่สมควรได้รับการสนับสนุนอีกครั้ง หลังจากเคยนำรายชื่อเสนอให้บอร์ด กสทช.พิจารณามาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ให้ส่งข้อมูลมาให้ครบถ้วน หากยังได้ข้อมูลไม่ชัดเจนก็อาจเลือกอนุมัติเป็นรายโครงการไปก่อน เนื่องจากช้ามามากแล้ว
______________________________________
กสทช.กดปุ่มลงทุน"USO"2หมื่นล. หนองคาย-พิษณุโลกนำร่องขายซองประมูล18พ.ย.
"กสทช." กดปุ่มแผน 5 ปี ลงทุนบริการทั่วถึงวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ดีเดย์ขายซองประกวดราคา 2 จังหวัดนำร่อง ที่ "พิษณุโลก-หนองคาย" 18 พ.ย.นี้ พร้อมปูพรมลงทุนครบทั่วประเทศในปีหน้า ทั้งเตรียมปรับลดอัตราค่าธรรมเนียม USO ลงต่ำกว่า 3.75%
พลเอกสุกิจ ขมะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ดูแลโครงการขยายการให้บริการโทรคมนาคมทั่วถึง เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม ได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.
ที่ผ่านมา จากนี้จะเริ่มดำเนินการตามแผนการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานทั่วไป และบริการเพื่อสังคม (USO) ปี 2555-2559 ที่มีเป้าหมายขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ครอบคลุมประชากร 80% ในวงเงิน 2 หมื่นล้านบาทโดยในวันที่ 16 ต.ค.นี้ บอร์ด กสทช.จะพิจารณาร่างข้อกำหนดทางเทคนิค (TOR) และอนุมัติให้สำนักงาน กสทช. จัดประกวดราคาการติดตั้งโครงข่ายเพื่อให้บริการ USO รูปแบบใหม่ 2 จังหวัดนำร่อง คือ พิษณุโลก และหนองคาย จากนั้นจะมีการประกาศ TOR ขึ้นเว็บไซต์ และจัดประชุมเพื่อชี้แจง TOR ให้ผู้ที่สนใจโดยจะขายซองประกวดราคาในวันที่ 18 พ.ย. และให้เวลา 1 เดือนยื่นซอง คาดว่าจะได้ผู้ชนะไม่เกิน ม.ค.ปีหน้า
"การประกวดราคาโครงการนำร่อง 2 จังหวัดนี้จะเป็นตัวชี้วัด เพราะราคาที่ได้จะนำไปเป็นส่วนหนึ่งในการปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียม USO ที่ปัจจุบันผู้ประกอบการแต่ละรายต้องจ่ายทุก 6 เดือน 3.75% ของรายได้ โดยมีแนวคิดจะปรับลดลง เนื่องจากมีพื้นที่ที่ขาดแคลนบริการน้อยลง จากการขยายตัวของบริการบรอดแบนด์ และมีผู้ให้บริการรายใหม่ที่เข้าเกณฑ์ต้องจ่ายเงินสมทบเพิ่มขึ้น เช่น บริษัทที่ได้ไลเซนส์ 3G การลดค่าธรรมเนียมจึงช่วยจูงใจให้ทำธุรกิจได้ด้วย"
ดังนั้นการทบทวนแผน USO ทุก 2 ปีหน้าจะปรับเงิน USO แต่ละจังหวัดจากเดิม 250 ล้านบาท ให้ลดลงตามสภาพการขยายตัวของบริการ หรือใช้การเพิ่มเป้าหมาย USO ให้สูงขึ้นโดยใช้งบประมาณเท่าเดิม ซึ่งผลการประกวดราคาในโครงการนำร่องจะทำให้เห็นเงินที่ต้องใช้จริงในการขยายโครงข่าย
โครงการนำร่องนี้จะเปิดให้ยื่นซองประกวด 4 โครงการ ได้แก่ โครงการติดตั้งและบริหารโทรศัพท์สาธารณะในหมู่บ้าน จังหวัดพิษณุโลก มูลค่า 31 ล้านบาท จังหวัดหนองคาย 3.7 ล้านบาท โครงการขยายโครงข่ายใยแก้วนำแสงในตำบล
การเชื่อมโยงโครงข่ายการให้บริการบรอดแบนด์ไปยังสถานศึกษา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล รวมถึงการจัดตั้งศูนย์อินเทอร์เน็ตชุมชนประจำตำบล พร้อมสนับสนุนค่าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเป็นเวลา 3 ปี ในพิษณุโลก มูลค่า 283 ล้านบาท และที่หนองคาย 120 ล้านบาทใน TOR กำหนดให้ติดตั้งหมู่บ้านละ 2 ตู้ ตามพื้นที่ที่ กสทช.กำหนด และต้องมีค่าโทร.ถูกกว่ามือถือ ขณะที่การให้บริการบรอดแบนด์กำหนดให้หน่วยงานปลายทางต้องใช้ได้ในระดับ 30 Mbps. (ดาวน์โหลด) และ 5 Mbps. (อัพโหลด)
ส่วนคุณสมบัติผู้มีสิทธิยื่นซองประกวดราคาต้องเป็นผู้ที่มีใบอนุญาต เนื่องจากเป็นโครงการที่ต้องติดตั้งโครงข่ายให้เสร็จภายใน 1 ปี และได้สิทธิบริหารโครงข่ายเพื่อหารายได้เชิงพาณิชย์บนโครงข่ายเป็นเวลา 5 ปี หากมีความจุโครงข่ายเหลือจากการให้บริการ USO สำหรับการติดตั้งโครงข่ายตามแผนงาน USO ในจังหวัดที่เหลือ กสทช.ตั้งเป้าเปิดให้ยื่นซองประกวดราคาทั้งหมดในปีหน้า
"เหตุที่ประกวดราคาล่าช้า เนื่องจาก ป.ป.ช.ทำหนังสือเวียนแจ้งว่า การประกวดราคาของหน่วยงานรัฐต้องมีการกำหนดราคากลางให้ชัดเจน"
ขณะที่การจัดสรรเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กทปส.) หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อกองทุน USO หลังจากคณะกรรมการบริหารกองทุนได้เปิดให้หน่วยงานต่าง ๆ เสนอโครงการขอรับเงินสนับสนุน ตั้งแต่ 18 ม.ค.-28 ก.พ.ที่ผ่านมามีผู้ยื่นขอ 223 โครงการ รวมวงเงิน 2,635.45 ล้านบาท
ด้าน พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. เปิดเผยว่า วันที่ 16 ต.ค.นี้จะพิจารณารายชื่อโครงการที่สมควรได้รับการสนับสนุนอีกครั้ง หลังจากเคยนำรายชื่อเสนอให้บอร์ด กสทช.พิจารณามาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ให้ส่งข้อมูลมาให้ครบถ้วน หากยังได้ข้อมูลไม่ชัดเจนก็อาจเลือกอนุมัติเป็นรายโครงการไปก่อน เนื่องจากช้ามามากแล้ว
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1381769168
ไม่มีความคิดเห็น: