29 ตุลาคม 2556 APPLE ระบุ ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำกำไร 7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ภาพรวมแอปเปิลสามารถจำหน่ายไอแพด 14.1 ล้านเครื่องตลอด 3 เดือน ยังไม่นับ iPHONE5 S,C)

ประเด็นหลัก


 ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาแอปเปิลระบุว่าบริษัทสามารถทำกำไร 7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ บนรายได้รวม 3.75 หมื่นล้านเหรียญ ถือเป็นตัวเลขที่ลดลงจากกำไร 8.2 พันล้านเหรียญที่เคยทำได้ในช่วงไตรมาสเดียวกันของปี 2012 แม้ว่ารายได้รวมในช่วงเวลาดังกล่าวจะน้อยกว่า 3.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
   
       ตัวเลขกำไรของแอปเปิลที่ลดลงนี้กลายเป็นความกังวลของนักลงทุน แม้ว่าแอปเปิลจะเปิดตัวไอโฟนและไอแพดรุ่นใหม่เพื่อเตรียมพร้อมบุกตลาดช่วงคริสต์มาสปีนี้ โดยเฉพาะตลาดไอแพดรุ่นจิ๋ว “ไอแพด มินิ (iPad Mini)” ที่ทำกำไรให้แอปเปิลในอัตรามาร์จิ้นที่ลดลงกว่าไอแพดรุ่นหน้าจอใหญ่ จุดนี้การสำรวจพบว่าความนิยมของไอแพด มินิ ทำให้แอปเปิลทำรายได้จากธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายไอแพดลดลงถึง 13%
   
       ในภาพรวมแอปเปิลสามารถจำหน่ายไอแพด 14.1 ล้านเครื่องตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 14 ล้านเครื่องในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ ถือเป็นสัดส่วนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายแท็บเล็ต 184.4 เครื่องที่บริษัทวิจัยการ์ทเนอร์คาดว่าจะจัดส่งทั่วโลกได้ตลอดปี 2013 โดย 184.4 เครื่องนี้เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจาก 120 ล้านเครื่องในปี 2012

    น่าเสียดายที่ผลประกอบการเหล่านี้ของแอปเปิลยังไม่สะท้อนว่ากลยุทธ์การเปิดตัวสินค้าใหม่ของแอปเปิลนั้นได้ผลเพียงไร เนื่องจากปี 2013 ถือเป็นปีแรกที่แอปเปิลเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ 2 รุ่นพร้อมกัน (ไอโฟนพลาสติกรุ่นประหยัด iPhone 5C และไอโฟนรุ่นหลัก iPhone 5S) ต่างจากปีก่อนหน้าที่แอปเปิลมักเปิดไอโฟนเพื่อจำหน่ายเพียงรุ่นเดียว ซึ่งแม้ไอโฟนใหม่จะเริ่มวางจำหน่ายแล้วในปลายเดือนกันยายน แต่ไอโฟนทั้ง 2 รุ่นจะพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วโลกในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม ทำให้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินความสำเร็จของกลยุทธ์ใหม่จากแอปเปิลในไตรมาสที่ผ่านมา









______________________________________



แอปเปิลกำไรหดสวนทางไอโฟนยอดขายพุ่ง



ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิลกับไอแพดรุ่นใหม่ ล่าสุดยอมรับว่ายอดจำหน่ายไอแพดกลับคงที่ และคอมพิวเตอร์แมคอินทอชเริ่มถดถอย ส่งให้รายได้จากไอแพดและคอมพิวเตอร์แมคอินทอชมียอดตกต่ำกว่าเดิม

       แอปเปิล (Apple) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ปีการเงิน 2013 (กรกฎาคม-กันยายน 2013) ยอมรับกำไรสุทธิลดลงทั้งที่บริษัทสามารถจำหน่ายไอโฟนได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยอดจำหน่ายไอแพดกลับคงที่ และคอมพิวเตอร์แมคอินทอชเริ่มถดถอย ส่งให้รายได้จากไอแพดและคอมพิวเตอร์แมคอินทอชมียอดตกต่ำกว่าเดิม
     
       ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาแอปเปิลระบุว่าบริษัทสามารถทำกำไร 7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ บนรายได้รวม 3.75 หมื่นล้านเหรียญ ถือเป็นตัวเลขที่ลดลงจากกำไร 8.2 พันล้านเหรียญที่เคยทำได้ในช่วงไตรมาสเดียวกันของปี 2012 แม้ว่ารายได้รวมในช่วงเวลาดังกล่าวจะน้อยกว่า 3.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
     
       ตัวเลขกำไรของแอปเปิลที่ลดลงนี้กลายเป็นความกังวลของนักลงทุน แม้ว่าแอปเปิลจะเปิดตัวไอโฟนและไอแพดรุ่นใหม่เพื่อเตรียมพร้อมบุกตลาดช่วงคริสต์มาสปีนี้ โดยเฉพาะตลาดไอแพดรุ่นจิ๋ว “ไอแพด มินิ (iPad Mini)” ที่ทำกำไรให้แอปเปิลในอัตรามาร์จิ้นที่ลดลงกว่าไอแพดรุ่นหน้าจอใหญ่ จุดนี้การสำรวจพบว่าความนิยมของไอแพด มินิ ทำให้แอปเปิลทำรายได้จากธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายไอแพดลดลงถึง 13%
     
       ในภาพรวมแอปเปิลสามารถจำหน่ายไอแพด 14.1 ล้านเครื่องตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 14 ล้านเครื่องในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ ถือเป็นสัดส่วนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายแท็บเล็ต 184.4 เครื่องที่บริษัทวิจัยการ์ทเนอร์คาดว่าจะจัดส่งทั่วโลกได้ตลอดปี 2013 โดย 184.4 เครื่องนี้เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจาก 120 ล้านเครื่องในปี 2012
     
       ไม่เพียงไอแพด ตลาดที่น่ากังวลของแอปเปิลยังมีคอมพิวเตอร์แมคอินทอชซึ่งทำยอดขายลดลงถึง 3 แสนเครื่อง โดยแอปเปิลประกาศว่าสามารถจำหน่ายได้ 4.6 ล้านเครื่อง จากไตรมาสเดียวกันกับปีที่แล้วที่จำหน่ายได้ 4.9 ล้านเครื่อง
     
       มีเพียงไอโฟนเท่านั้นที่แอปเปิลสามารถเชิดหน้าชูตาในไตรมาสนี้ โดยแอปเปิลสามารถจำหน่ายไอโฟนได้มากกว่า 33.8 ล้านเครื่องในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนที่ผ่านมา จากที่เคยขายได้ 26.9 ล้านเครื่องในปีก่อนหน้านี้ ทั้งหมดนี้เป็นไปตามคำพยากรณ์ของสำนักวอลล์สตรีทที่คาดว่าแอปเปิลสามารถจำหน่ายไอโฟนได้ราว 29-38 ล้านเครื่อง
     
       น่าเสียดายที่ผลประกอบการเหล่านี้ของแอปเปิลยังไม่สะท้อนว่ากลยุทธ์การเปิดตัวสินค้าใหม่ของแอปเปิลนั้นได้ผลเพียงไร เนื่องจากปี 2013 ถือเป็นปีแรกที่แอปเปิลเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ 2 รุ่นพร้อมกัน (ไอโฟนพลาสติกรุ่นประหยัด iPhone 5C และไอโฟนรุ่นหลัก iPhone 5S) ต่างจากปีก่อนหน้าที่แอปเปิลมักเปิดไอโฟนเพื่อจำหน่ายเพียงรุ่นเดียว ซึ่งแม้ไอโฟนใหม่จะเริ่มวางจำหน่ายแล้วในปลายเดือนกันยายน แต่ไอโฟนทั้ง 2 รุ่นจะพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วโลกในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม ทำให้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินความสำเร็จของกลยุทธ์ใหม่จากแอปเปิลในไตรมาสที่ผ่านมา
     
       รายงานระบุว่า หากคำนวณรวบยอด 5 ไตรมาสที่ผ่านมาจะพบว่าแอปเปิลได้ปันผลให้ผู้ถือหุ้นมากกว่า 3.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นตัวเลขเงินปันผลที่สูงมากเมื่อเทียบกับบริษัทไอทีอื่น
     
       ทั้งหมดนี้ ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิลประกาศว่า บริษัทมีแผนพัฒนาสินค้าประเภทใหม่ โดยไม่ระบุว่าเป็นสินค้าที่ถูกลือในวงกว้างอย่างนาฬิกาอัจฉริยะหรืออุปกรณ์เสริมสำหรับโทรทัศน์หรือไม่ จุดนี้ซีอีโอแอปเปิลให้ข้อมูลว่าบริษัทเข้าควบรวมกิจการ 15 บริษัทในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งล้วนมีส่วนช่วยให้แอปเปิลเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต

http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000134989