30 ตุลาคม 2556 (เกาะติดประมูลDigital TV) คุณแดง เปิดใจ ไม่มีใครซื้อหุ้นหมื่นล้าน!!! เหตุคำตอบทางธุรกิจ มีเจตนาไม่สุจริต ประสงค์ที่จะหาข้อมูลความลับไปให้สถานีโทรทัศน์คู่แข่ง
ประเด็นหลัก
เมื่อบริษัทแสดงเจตนาจะเข้าร่วมประมูลขอรับใบอนุญาต บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุจำกัด ได้มอบหมายให้ทนายความมีหนังสือถึงบริษัท คุณแดง และคุณไพโรจน์ ให้ขายหุ้นในบริษัทกรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ออกไปให้เหลือน้อยกว่า 10% แต่เมื่อคุณสุรางค์ แสดงความจำนง ขอโอกาสให้ผู้สนใจซื้อหุ้นเข้าทำการตรวจสอบกิจการเพื่อกำหนดราคาซื้อขาย ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติในการทาธุรกิจ ในการซื้อขายหุ้นที่มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท ก็ได้รับการปฏิเสธ โดยอ้างว่า มีเจตนาไม่สุจริต ประสงค์ที่จะหาข้อมูลความลับไปให้สถานีโทรทัศน์คู่แข่ง
______________________________________
"คุณแดง"เปิดใจ ทำไมยอมถอย ไม่ส่ง"จันทร์ 25"ประมูลทีวีดิจิทัลแข่งช่อง 7
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ"รายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) วันนี้ (29ต.ค.2556) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้มีการยื่นซองเพื่อเข้าประมูลช่องรายการโทรทัศน์ระบบดิจิทัลว่า นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ที่ปรึกษากฎหมาย บริษัท จันทร์ 25 จำกัด ซึ่งเป็น 1 ในผู้ที่ซื้อซองประมูลทีวีดิจิทัลช่อง HD ด้วย ได้เดินทางมายัง สำนักงาน กสทช. พร้อมกับยื่นเอกสารชี้แจงกรณีการเข้าประมูลทีวีดิจิทัล
โดยในจดหมายดังกล่าว (ตามรูป) ระบุว่า นางสุรางค์ เปรมปรีดิ์ หรือคุณแดง มีความต้องการเข้าประมูลทีวีดิจิทัล เนื่องจากมีความพร้อมทั้งด้านเงินทุน และอุปกรณ์ต่างๆ แต่ด้วยอุปสรรของกฎการประมูลในครั้งนี้ที่กำหนดว่า ไม่ให้ผู้เข้าประมูลถือหุ้นในบริษัทที่เข้าประมูลด้วยกันเกิน 10% แต่คุณแดงถือหุ้นในช่อง 7 มากกว่านั้น ถ้าเข้าประมูลจะทำให้ทั้งสองฝ่ายโดนปรับตกคุณสมบัติทันที
ดังนั้นจึงตัดสินใจไม่ยื่นประมูล เพราะเมื่อพิจารณาถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับช่อง 7 และพนักงานที่มีความจงรักภักดีกับคุณแดงและครองครับที่สร้างสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ขึ้นมา และเพื่อทำให้ธุรกิจของทั้งสองฝ่ายยังคงดำเนินต่อไปได้
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1383040529
_________________________________
ดรามาประมูลทีวีดิจิตอล? “คุณแดง” ถอนตัว
“แดง สุรางค์” ยกเลิกส่ง “จันทร์ 25” เข้าร่วมประชุมทีวีดิจิตอล เผยยอมถอยเพราะไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบต่อ “ช่อง 7” ที่ก่อตั้งโดยพี่ชายตนเอง และยังมีหลายคนที่นับถือ เหตุอาจถูกตัดสิทธิ์ทั้งสองฝ่าย แต่ไม่วายแขวะผู้บริหารชุดปัจจุบัน
ต้องบอกว่าคึกคักกันทีเดียวภายหลังจากที่ กสทช.ได้เปิดให้บริษัทเอกชนยื่นคำขอรับใบอนุญาตเพื่อเข้าประมูลทีวีดิจิจอลในช่วงวันวานที่ผ่านมาเป็นวันแรก ก่อนจะทำการปิดรับประมูลในวันนี้ ซึ่งปรากฏว่าได้มีหลายบริษัทยื่นซองเข้าประมูลในส่วนของทีวีช่องต่างๆ ทั้ง ช่องเด็ก, ช่องข่าว, ช่องทั่วไป (เอสดี) และช่องทั่วไป (เอชดี) มากมาย อาทิ จูเนียร์ ไทยรัฐทีวี หรือทริปเปิลวีบรอดคาสท์, บีอีซี-มัลติมีเดีย (ช่อง 3), เนชั่น, บ.บางกอกมีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง, บ.สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด, บ.โมโน บรอดคาซท์ จำกัด, บ.ไทยนิวเน็ตเวอร์ค (ทีเอ็นเอ็น) จำกด ฯลฯ
ทั้งนี้ที่จับตามองกันมากในการประมูลครั้งนี้ ก็คือในส่วนของทางช่อง 7 เองที่ต้องการยื่นซองประมูลในครั้งนี้ด้วย แต่ติดเงื่อนไขตรงที่หนึ่งในผู้ถือหุ้นอย่าง “คุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์” ซึ่งมีหุ้นอยู่ถึง 20% และเป็นผู้บริหาร บ.จันทร์ 25 จำกัด โดยที่เจ้าตัวเองก็เตรียมที่จะให้บริษัท จันทร์ 25 ของตนเองนั้นเข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่าทางด้านของคุณแดงเองในนามของบริษัท จันทร์ 25 ก็ได้ตัดสินใจที่จะไม่ยื่นซองการประมูลในครั้งนี้แล้ว โดยเรื่องนี้ นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ที่ปรึกษากฎหมาย บริษัท จันทร์ 25 ได้เป็นผู้เปิดเผยถึงสาเหตุว่า เป็นเพราะหลักเกณฑ์ที่ถูกกำหนดไว้ว่าหากทั้งช่อง 7 และจันทร์ 25 เข้าประมูลพร้อมกันก็จะถูกตัดสิทธิ์ทั้งสองฝ่าย ซึ่งทางคุณแดงได้พิจารณาเห็นว่าเรื่องดังกล่าวอาจจะเกิดผลกระทบกับช่อง 7 ที่มีพนักงานที่ตนเองรู้จักมักคุ้นและยังนับหน้าถือตากันอยู่ รวมถึงเป็นช่องที่ก่อตั้งมาโดยพี่ชายของตนเอง ดังนั้นจึงได้ตัดสินใจถอนตัวออกไป
โดยในรายละเอียดของจดหมายการชี้แจงนั้นได้ระบุไว้ว่า...
บริษัทมีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมประมูลและเตรียมความพร้อมเพื่อการเข้าร่วมประมูลมาตลอด เพราะตั้งแต่คุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์ ผู้บริหารของบริษัทไม่ได้รับการต่อสัญญาว่าจ้างเป็นกรรมการผู้จัดการของช่อง 7 และต้องออกจากการเป็นกรรมการบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ พร้อมกับคุณไพโรจน์ เปรมปรีดิ์ เมื่อต้นปี 2555 ทั้งๆ ที่ถือหุ้นอยู่รวมกันประมาณ 21% เนื่องจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ไม่ประสงค์ให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารอีกต่อไป คุณสุรางค์ ยังคงดำเนินธุรกิจในวงการโทรทัศน์ตลอดมา นำบริษัท จันทร์ 25 จำกัด มาเป็นหลักในการจัดสร้างละคร และรายการ ซึ่งเป็นงานที่ผูกพันและถนัด โดยบริษัทได้เตรียมบุคลากรและสถานที่ปรับเปลี่ยนโรงเรียนเรวดีเดิม เป็นสตูดิโอ และห้องบันทึกรายการ เตรียมความพร้อมของทีมงาน จัดหาเงินทุนเพื่อเข้าร่วมประมูลตามประกาศของ กสทช.
อย่างไรก็ดี กสทช.เพิ่งประกาศรายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกผู้เข้าร่วมประมูล เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2556 โดยกำหนดลักษณะของผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันไว้ ก่อให้เกิดปัญหาในประเด็นการมีผลประโยชน์ร่วมกัน เนื่องจากการถือหุ้นของคุณสรางค์ และคุณไพโรจน์ในบริษัท กรุงเทพและวิทยุ จำกัด ทั้งๆ ที่ปัจจุบัน บุคคลทั้งสอง ไม่มีสิทธิมีเสียงในการบริหารงาน ไม่มีตำแหน่งกรรมการ ไม่มีส่วนในการดำเนินการ และไม่มีทางที่จะได้คะแนนเสียงข้างมากเพียงพอที่จะกำหนดนโยบาย การจ่ายเงินปันผลหรือกำหนดผลประโยชน์จากกิจการแต่อย่างใด
เมื่อบริษัทแสดงเจตนาจะเข้าร่วมประมูลขอรับใบอนุญาต บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุจำกัด ได้มอบหมายให้ทนายความมีหนังสือถึงบริษัท คุณแดง และคุณไพโรจน์ ให้ขายหุ้นในบริษัทกรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ออกไปให้เหลือน้อยกว่า 10% แต่เมื่อคุณสุรางค์ แสดงความจำนง ขอโอกาสให้ผู้สนใจซื้อหุ้นเข้าทำการตรวจสอบกิจการเพื่อกำหนดราคาซื้อขาย ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติในการทาธุรกิจ ในการซื้อขายหุ้นที่มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท ก็ได้รับการปฏิเสธ โดยอ้างว่า มีเจตนาไม่สุจริต ประสงค์ที่จะหาข้อมูลความลับไปให้สถานีโทรทัศน์คู่แข่ง
ต่อมาได้มีการเสนอให้คุณสุรางค์ ปรับเปลี่ยนอัตราส่วนจันทร์ 25 ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาการถือหุ้นแทนกัน อันขัดต่อกฎหมาย คุณสุรางค์จึงไม่อาจดำเนินการได้ และบริษัท จันทร์ 25 และคุณสุรางค์ ยังมีความประสงค์ที่จะเข้าร่วมประมูลขอรับใบอนุญาตและได้เตรียมเอกสารและเงินประกันไว้ครบถ้วนแล้ว แต่จากอุปสรรคของข้อกฎหมายดังกล่าว ประกอบกับการที่บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ได้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตเข้ามาแล้ว
การที่ กสทช.ยืนยันว่า จะตัดสิทธิ์บริษัททั้งสอง หากต่างก็ยื่นคำขอรับใบอนุญาตเข้ามาด้วยกันทั้งสองบริษัท เมื่อพิจารณาโดยรอบด้าน ถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด และพนักงานที่มีความจงรักภักดี และร่วมกับคุณสุรางค์ คุณแม่ และพี่ชายทั้งสอง ก่อตั้ง และร่วมกันสร้างสถานีจนมาเป็นสถานีโทรทัศน์ ชั้นนำในปัจจุบัน บริษัท จันทร์ 25 จำกัด จึงตัดสินใจ ไม่เข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัท และคุณสุรางค์ ยังยืนยันว่า มีความประสงค์ที่จะทำธุรกิจในวงการโทรทัศน์ต่อไป รวมทั้งจะใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นติดตามการดำเนินงาน และการปฏิบัติต่อพนักงานของบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด
http://www.manager.co.th/vdo/vdoviewbrowse.aspx
เมื่อบริษัทแสดงเจตนาจะเข้าร่วมประมูลขอรับใบอนุญาต บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุจำกัด ได้มอบหมายให้ทนายความมีหนังสือถึงบริษัท คุณแดง และคุณไพโรจน์ ให้ขายหุ้นในบริษัทกรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ออกไปให้เหลือน้อยกว่า 10% แต่เมื่อคุณสุรางค์ แสดงความจำนง ขอโอกาสให้ผู้สนใจซื้อหุ้นเข้าทำการตรวจสอบกิจการเพื่อกำหนดราคาซื้อขาย ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติในการทาธุรกิจ ในการซื้อขายหุ้นที่มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท ก็ได้รับการปฏิเสธ โดยอ้างว่า มีเจตนาไม่สุจริต ประสงค์ที่จะหาข้อมูลความลับไปให้สถานีโทรทัศน์คู่แข่ง
______________________________________
"คุณแดง"เปิดใจ ทำไมยอมถอย ไม่ส่ง"จันทร์ 25"ประมูลทีวีดิจิทัลแข่งช่อง 7
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ"รายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) วันนี้ (29ต.ค.2556) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้มีการยื่นซองเพื่อเข้าประมูลช่องรายการโทรทัศน์ระบบดิจิทัลว่า นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ที่ปรึกษากฎหมาย บริษัท จันทร์ 25 จำกัด ซึ่งเป็น 1 ในผู้ที่ซื้อซองประมูลทีวีดิจิทัลช่อง HD ด้วย ได้เดินทางมายัง สำนักงาน กสทช. พร้อมกับยื่นเอกสารชี้แจงกรณีการเข้าประมูลทีวีดิจิทัล
โดยในจดหมายดังกล่าว (ตามรูป) ระบุว่า นางสุรางค์ เปรมปรีดิ์ หรือคุณแดง มีความต้องการเข้าประมูลทีวีดิจิทัล เนื่องจากมีความพร้อมทั้งด้านเงินทุน และอุปกรณ์ต่างๆ แต่ด้วยอุปสรรของกฎการประมูลในครั้งนี้ที่กำหนดว่า ไม่ให้ผู้เข้าประมูลถือหุ้นในบริษัทที่เข้าประมูลด้วยกันเกิน 10% แต่คุณแดงถือหุ้นในช่อง 7 มากกว่านั้น ถ้าเข้าประมูลจะทำให้ทั้งสองฝ่ายโดนปรับตกคุณสมบัติทันที
ดังนั้นจึงตัดสินใจไม่ยื่นประมูล เพราะเมื่อพิจารณาถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับช่อง 7 และพนักงานที่มีความจงรักภักดีกับคุณแดงและครองครับที่สร้างสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ขึ้นมา และเพื่อทำให้ธุรกิจของทั้งสองฝ่ายยังคงดำเนินต่อไปได้
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1383040529
_________________________________
ดรามาประมูลทีวีดิจิตอล? “คุณแดง” ถอนตัว
“แดง สุรางค์” ยกเลิกส่ง “จันทร์ 25” เข้าร่วมประชุมทีวีดิจิตอล เผยยอมถอยเพราะไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบต่อ “ช่อง 7” ที่ก่อตั้งโดยพี่ชายตนเอง และยังมีหลายคนที่นับถือ เหตุอาจถูกตัดสิทธิ์ทั้งสองฝ่าย แต่ไม่วายแขวะผู้บริหารชุดปัจจุบัน
ต้องบอกว่าคึกคักกันทีเดียวภายหลังจากที่ กสทช.ได้เปิดให้บริษัทเอกชนยื่นคำขอรับใบอนุญาตเพื่อเข้าประมูลทีวีดิจิจอลในช่วงวันวานที่ผ่านมาเป็นวันแรก ก่อนจะทำการปิดรับประมูลในวันนี้ ซึ่งปรากฏว่าได้มีหลายบริษัทยื่นซองเข้าประมูลในส่วนของทีวีช่องต่างๆ ทั้ง ช่องเด็ก, ช่องข่าว, ช่องทั่วไป (เอสดี) และช่องทั่วไป (เอชดี) มากมาย อาทิ จูเนียร์ ไทยรัฐทีวี หรือทริปเปิลวีบรอดคาสท์, บีอีซี-มัลติมีเดีย (ช่อง 3), เนชั่น, บ.บางกอกมีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง, บ.สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด, บ.โมโน บรอดคาซท์ จำกัด, บ.ไทยนิวเน็ตเวอร์ค (ทีเอ็นเอ็น) จำกด ฯลฯ
ทั้งนี้ที่จับตามองกันมากในการประมูลครั้งนี้ ก็คือในส่วนของทางช่อง 7 เองที่ต้องการยื่นซองประมูลในครั้งนี้ด้วย แต่ติดเงื่อนไขตรงที่หนึ่งในผู้ถือหุ้นอย่าง “คุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์” ซึ่งมีหุ้นอยู่ถึง 20% และเป็นผู้บริหาร บ.จันทร์ 25 จำกัด โดยที่เจ้าตัวเองก็เตรียมที่จะให้บริษัท จันทร์ 25 ของตนเองนั้นเข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่าทางด้านของคุณแดงเองในนามของบริษัท จันทร์ 25 ก็ได้ตัดสินใจที่จะไม่ยื่นซองการประมูลในครั้งนี้แล้ว โดยเรื่องนี้ นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ที่ปรึกษากฎหมาย บริษัท จันทร์ 25 ได้เป็นผู้เปิดเผยถึงสาเหตุว่า เป็นเพราะหลักเกณฑ์ที่ถูกกำหนดไว้ว่าหากทั้งช่อง 7 และจันทร์ 25 เข้าประมูลพร้อมกันก็จะถูกตัดสิทธิ์ทั้งสองฝ่าย ซึ่งทางคุณแดงได้พิจารณาเห็นว่าเรื่องดังกล่าวอาจจะเกิดผลกระทบกับช่อง 7 ที่มีพนักงานที่ตนเองรู้จักมักคุ้นและยังนับหน้าถือตากันอยู่ รวมถึงเป็นช่องที่ก่อตั้งมาโดยพี่ชายของตนเอง ดังนั้นจึงได้ตัดสินใจถอนตัวออกไป
โดยในรายละเอียดของจดหมายการชี้แจงนั้นได้ระบุไว้ว่า...
บริษัทมีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมประมูลและเตรียมความพร้อมเพื่อการเข้าร่วมประมูลมาตลอด เพราะตั้งแต่คุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์ ผู้บริหารของบริษัทไม่ได้รับการต่อสัญญาว่าจ้างเป็นกรรมการผู้จัดการของช่อง 7 และต้องออกจากการเป็นกรรมการบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ พร้อมกับคุณไพโรจน์ เปรมปรีดิ์ เมื่อต้นปี 2555 ทั้งๆ ที่ถือหุ้นอยู่รวมกันประมาณ 21% เนื่องจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ไม่ประสงค์ให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารอีกต่อไป คุณสุรางค์ ยังคงดำเนินธุรกิจในวงการโทรทัศน์ตลอดมา นำบริษัท จันทร์ 25 จำกัด มาเป็นหลักในการจัดสร้างละคร และรายการ ซึ่งเป็นงานที่ผูกพันและถนัด โดยบริษัทได้เตรียมบุคลากรและสถานที่ปรับเปลี่ยนโรงเรียนเรวดีเดิม เป็นสตูดิโอ และห้องบันทึกรายการ เตรียมความพร้อมของทีมงาน จัดหาเงินทุนเพื่อเข้าร่วมประมูลตามประกาศของ กสทช.
อย่างไรก็ดี กสทช.เพิ่งประกาศรายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกผู้เข้าร่วมประมูล เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2556 โดยกำหนดลักษณะของผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันไว้ ก่อให้เกิดปัญหาในประเด็นการมีผลประโยชน์ร่วมกัน เนื่องจากการถือหุ้นของคุณสรางค์ และคุณไพโรจน์ในบริษัท กรุงเทพและวิทยุ จำกัด ทั้งๆ ที่ปัจจุบัน บุคคลทั้งสอง ไม่มีสิทธิมีเสียงในการบริหารงาน ไม่มีตำแหน่งกรรมการ ไม่มีส่วนในการดำเนินการ และไม่มีทางที่จะได้คะแนนเสียงข้างมากเพียงพอที่จะกำหนดนโยบาย การจ่ายเงินปันผลหรือกำหนดผลประโยชน์จากกิจการแต่อย่างใด
เมื่อบริษัทแสดงเจตนาจะเข้าร่วมประมูลขอรับใบอนุญาต บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุจำกัด ได้มอบหมายให้ทนายความมีหนังสือถึงบริษัท คุณแดง และคุณไพโรจน์ ให้ขายหุ้นในบริษัทกรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ออกไปให้เหลือน้อยกว่า 10% แต่เมื่อคุณสุรางค์ แสดงความจำนง ขอโอกาสให้ผู้สนใจซื้อหุ้นเข้าทำการตรวจสอบกิจการเพื่อกำหนดราคาซื้อขาย ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติในการทาธุรกิจ ในการซื้อขายหุ้นที่มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท ก็ได้รับการปฏิเสธ โดยอ้างว่า มีเจตนาไม่สุจริต ประสงค์ที่จะหาข้อมูลความลับไปให้สถานีโทรทัศน์คู่แข่ง
ต่อมาได้มีการเสนอให้คุณสุรางค์ ปรับเปลี่ยนอัตราส่วนจันทร์ 25 ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาการถือหุ้นแทนกัน อันขัดต่อกฎหมาย คุณสุรางค์จึงไม่อาจดำเนินการได้ และบริษัท จันทร์ 25 และคุณสุรางค์ ยังมีความประสงค์ที่จะเข้าร่วมประมูลขอรับใบอนุญาตและได้เตรียมเอกสารและเงินประกันไว้ครบถ้วนแล้ว แต่จากอุปสรรคของข้อกฎหมายดังกล่าว ประกอบกับการที่บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ได้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตเข้ามาแล้ว
การที่ กสทช.ยืนยันว่า จะตัดสิทธิ์บริษัททั้งสอง หากต่างก็ยื่นคำขอรับใบอนุญาตเข้ามาด้วยกันทั้งสองบริษัท เมื่อพิจารณาโดยรอบด้าน ถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด และพนักงานที่มีความจงรักภักดี และร่วมกับคุณสุรางค์ คุณแม่ และพี่ชายทั้งสอง ก่อตั้ง และร่วมกันสร้างสถานีจนมาเป็นสถานีโทรทัศน์ ชั้นนำในปัจจุบัน บริษัท จันทร์ 25 จำกัด จึงตัดสินใจ ไม่เข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัท และคุณสุรางค์ ยังยืนยันว่า มีความประสงค์ที่จะทำธุรกิจในวงการโทรทัศน์ต่อไป รวมทั้งจะใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นติดตามการดำเนินงาน และการปฏิบัติต่อพนักงานของบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด
http://www.manager.co.th/vdo/vdoviewbrowse.aspx
ไม่มีความคิดเห็น: