03 พฤศจิกายน 2556 Asiasoft ระบุ ตลาดเกมออนไลน์ของไทยในปีนี้จะมีมูลค่าประมาณ 4 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 10% ตลาดมีการเติบโตขึ้นมาจากแนวโน้มการเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนมากขึ้น

ประเด็นหลัก


  นายปราโมทย์ สุดจิตพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าตลาดเกมออนไลน์ของไทยในปีนี้จะมีมูลค่าประมาณ 4  พันล้านบาท เติบโตขึ้น 10% จากปีที่แล้ว ขณะที่ในปี 2557 คาดการณ์ว่าตลาดเกมออนไลน์น่าจะเติบโตอีกราว 5-10%   โดยปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดมีการเติบโตขึ้นมาจากแนวโน้มการเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนมากขึ้น      ซึ่งในเดือนธันวาคมนี้บริษัทจะเริ่มเปิดให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟน ดาวน์โหลดเกมแร็กนาร็อก เวอร์ชันโมบาย  ผ่านทั้งทางแอพสโตร์ ของแอปเปิล  และเพลย์ สโตร์ ของกูเกิล   และมีแผนจะให้บริการเกมในรูปแบบโมบายเพิ่มขึ้นในปี 2557
    นอกจากนี้ยังมองว่าการขยายตัวของกลุ่มผู้เล่นยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดเกมออนไลน์มีการเติบโตขึ้น   โดยขณะนี้กลุ่มผู้เล่นเกมไม่ได้อยู่เฉพาะกลุ่มเด็ก และวัยรุ่น   แต่ขยายฐานไปสู่คนทำงาน และผู้หญิงมากขึ้น     โดยเกมบนคอมพิวเตอร์ นั้นจะเลือกนำเกมออนไลน์ระดับโลกเข้ามาเปิดให้บริการ    เนื่องจากมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า

______________________________________



สมาร์ทโฟนดันเกมออนไลน์โต

 ตลาดสมาร์ทโฟน  หนุนตลาดเกมออนไลน์เติบโต  เอเชียซอฟท์ คาดตลาดปีนี้มูลค่า 4 พันล้าน  เติบโต10%   เตรียมเปิดดาวน์โหลดแร็กน่าร็อก โมบาย ธ.ค.นี้   พร้อมเกาะกระแสนิยมเกม "โมบ้า" เปิดเกม

ปราโมทย์ สุดจิตพรปราโมทย์ สุดจิตพร"สไตรฟ์" 6 ประเทศใน 6 ประเทศอาเซียน   ส่วนการีน่า ออนไลน์ เผยยอดเติบโต 300% เดินหน้าบุกตลาดเกมแนวแข่งขันต่อ  พร้อมเล็งต่อยอดสู่ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ ใน 3-5 ปี
    นายปราโมทย์ สุดจิตพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าตลาดเกมออนไลน์ของไทยในปีนี้จะมีมูลค่าประมาณ 4  พันล้านบาท เติบโตขึ้น 10% จากปีที่แล้ว ขณะที่ในปี 2557 คาดการณ์ว่าตลาดเกมออนไลน์น่าจะเติบโตอีกราว 5-10%   โดยปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดมีการเติบโตขึ้นมาจากแนวโน้มการเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนมากขึ้น      ซึ่งในเดือนธันวาคมนี้บริษัทจะเริ่มเปิดให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟน ดาวน์โหลดเกมแร็กนาร็อก เวอร์ชันโมบาย  ผ่านทั้งทางแอพสโตร์ ของแอปเปิล  และเพลย์ สโตร์ ของกูเกิล   และมีแผนจะให้บริการเกมในรูปแบบโมบายเพิ่มขึ้นในปี 2557
    นอกจากนี้ยังมองว่าการขยายตัวของกลุ่มผู้เล่นยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดเกมออนไลน์มีการเติบโตขึ้น   โดยขณะนี้กลุ่มผู้เล่นเกมไม่ได้อยู่เฉพาะกลุ่มเด็ก และวัยรุ่น   แต่ขยายฐานไปสู่คนทำงาน และผู้หญิงมากขึ้น     โดยเกมบนคอมพิวเตอร์ นั้นจะเลือกนำเกมออนไลน์ระดับโลกเข้ามาเปิดให้บริการ    เนื่องจากมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า
    สำหรับแนวโน้มความนิยมเกมออนไลน์ในไทยขณะนี้ คือ เกมประเภท โมบ้า (MoBA: Multiplayer Online Battle Arena) ซึ่งเป็นเกมแอกชันผสมกับเกมวางแผน จึงได้ร่วมกับ บริษัท เอสทูเกมฯ (S2Games) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาเกมระดับโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกา และ บริษัท วายวาย อิงค์ (YY Inc.) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดให้บริการเกม สไตรฟ์ (STRIFE) ใน 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วย ไทย มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ โดยได้นำแพลตฟอร์มของวายวาย มาใส่ไว้ในเกมเพื่อให้เป็นคอมมิวนิตีสำหรับคนเล่นเกม จากปัจจุบันที่วายวายมีฐานจำนวนผู้ใช้งานสูงถึง 530 ล้านไอดี
    "บริษัทตั้งเป้าหมายให้เกมสไตรฟ์ เป็นเกมโมบ้ายอดนิยมอันดับ 1 ในภูมิภาคนี้ ภายใน 6 เดือน ด้วยจำนวนผู้เล่น 5 แสนถึง 1 ล้านไอดีเป็นอย่างต่ำ   โดยจะเริ่มเปิดให้เกมเมอร์ทดสอบระบบ หรือโครสเบต้าในเดือน พฤศจิกายนนี้ และมีกำหนดเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบในช่วงต้นปี 2557 พร้อมกับในทวีปอเมริกาเหนือ"
    ด้านนายสกลกรย์ สระกวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท การีน่า ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าตลาดเกมออนไลน์ มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีตลาดเกมออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนเข้ามาเป็นกลไกกระตุ้นตลาด ซึ่งถือเป็นตลาดใหม่ที่ผู้ให้บริการเกมออนไลน์เล็งเห็นถึงโอกาส และ Garena ก็เล็งเห็นเช่นเดียวกัน ในอนาคต Garena มีแนวความคิดจะนำเกมออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟน มาให้บริการเช่นเดียวกัน ซึ่งในปี 2556 บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 1.2พันล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 300% และคาดว่าในปี 2557 บริษัท จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 150 % เนื่องจากคอนเทนต์ของบริษัท เพิ่มมากขึ้น แต่ยังคงเน้นเกมแนวแข่งขันเหมือนเดิม
    "เป้าหมายทางธุรกิจของ Garena ในอีก 3-5 ปี เรามองธุรกิจเกมออนไลน์ เป็นธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์อย่างหนึ่ง ซึ่งเราขายคอนเทนต์ ดังนั้นไม่เพียงแต่ธุรกิจเกมออนไลน์ ที่เป็นธุรกิจหลักของเราแล้ว ในช่วงระยะ 3-5 ปีนี้ เราจะต่อยอดไปในด้านธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์มากขึ้น"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=204721:2013-10-29-06-56-57&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491