Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

03 พฤศจิกายน 2556 RTB ระบุกับ ฐานเศรษฐกิจ ว่า าพรวมตลาดอุปกรณ์เสริมสำหรับสมาร์ทโฟนปีนี้ยังมีการเติบโตอยู่ประมาณ 10-15% (ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากร้านค้ารายย่อยที่จำหน่ายสินค้าไอทีปิดตัวลงไปเป็นจำนวนมาก)


ประเด็นหลัก

ดร.บรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี  จำกัด  ผู้จำหน่ายอุปกรณ์เสริมสำหรับสมาร์ทโฟนรายใหญ่  เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า  ภาพรวมตลาดอุปกรณ์เสริมสำหรับสมาร์ทโฟนปีนี้ยังมีการเติบโตอยู่ประมาณ 10-15%  อย่างไรก็ตามเป็นการเติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ตั้งแต่ต้นปีคือ 30-35%  ทั้งนี้เป็นผลมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และตลาดไอที ที่มีร้านค้ารายย่อยปิดตัวลงไป


   สำหรับในส่วนของช่องทางจำหน่ายปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก  โดยเดิมบริษัทจำหน่ายผ่านร้านค้ารายย่อย 70%  แต่ปีนี้มีสัดส่วนไม่ถึง 20% เนื่องจากร้านค้ารายย่อยที่จำหน่ายสินค้าไอทีปิดตัวลงไปเป็นจำนวนมาก    ซึ่งบริษัทจะมุ่งเน้นการจำหน่ายผ่านทางช่องทางเชนสโตร์มือถือ อาทิ  เจมาร์ท และทีจีโฟน    และร้านค้าไอที ที่มีการปรับตัวมาขายสมาร์ทโฟน และแท็บเลตมากขึ้น  บานาน่าไอที, ซีเอสซี ,  เจไอบี  และแอดไวซ์  ร่วมถึงร้านไอสตูดิโอ ที่จำหน่ายแอปเปิล  


______________________________________



ตลาดอุปกรณ์เสริมโตถดถอย



 อาร์ทีบีชี้ตลาดอุปกรณ์เสริมปีนี้เติบโตต่ำกว่าคาดการณ์  หลังเศรษฐกิจพ่นพิษตลาดไอที  เผยทิศทางมุ่งเสริมตลาดของเล่นเทคโนโลยี  หรือ  แกตเจตแบบสวมใส่  เจาะกลุ่มคนใช้ไอโฟน-ซัมซุงกาแลคซี่  พร้อมนำอุปกรณ์เสริมราคาประหยัด ขยายกลุ่มสมาร์ทโฟนต่ำกว่าหมื่น

alt    ดร.บรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี  จำกัด  ผู้จำหน่ายอุปกรณ์เสริมสำหรับสมาร์ทโฟนรายใหญ่  เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า  ภาพรวมตลาดอุปกรณ์เสริมสำหรับสมาร์ทโฟนปีนี้ยังมีการเติบโตอยู่ประมาณ 10-15%  อย่างไรก็ตามเป็นการเติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ตั้งแต่ต้นปีคือ 30-35%  ทั้งนี้เป็นผลมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และตลาดไอที ที่มีร้านค้ารายย่อยปิดตัวลงไป
    สำหรับทิศทางของบริษัทนั้นคงมองแนวโน้มตลาดออกเป็น 2 กลุ่ม ที่มีส่วนแบ่งการตลาดชัดเจน  กลุ่มแรกคือกลุ่มสมาร์ทโฟนไฮเอนด์   ทั้งไอโฟน  และซัมซุง กาแลคซี่    โดยในกลุ่มดังกล่าวจะมุ่งเน้นการนำอุปกรณ์ประเภทของเล่นเทคโนโลยี หรือ แกตเจต ที่เป็นแบบสวมใส่  (Wearable Device)  ที่ใช้งานร่วมกับ ไอโฟน  และซัมซุง กาแลคซี่  เข้ามาทำตลาดมากขึ้น  อาทิ   จอว์โปน อัพ  นาฬิกาสมาร์ทวอยซ์  ที่ใช้วัดปริมาณพลังงาน และส่งข้อมูลไปยังไอโฟน  หรือ ซัมซุง กาแลคซี่ นอกจากนี้ ยังมีลำโพง รุ่นมินิแซมบ็อกซ์  ที่มีขนาดบางลงเข้ามาเสริมการทำตลาด   ส่วนของหูฟังนั้นขณะนี้หูฟัง "บีทส์"  รุ่น สตูดิโอ  กระแสการตอบรับจากตลาดค่อนข้างดี   ซึ่งก็จะมีสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดต่อเนื่อง
    ส่วนกลุ่มที่ 2 ที่มองว่ามีการเติบโตสูง คือ กลุ่มอุปกรณ์เสริม สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระดับ B  หรือต่ำกว่าหมื่นบาท   ซึ่งขณะนี้สมาร์ทโฟน ราคาต่ำกว่าหมื่นบาท มีคุณสมบัติการทำงานใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนไฮเอนด์  ทั้งความสามารถในการใช้งานโซเชียลมีเดีย  หรือ แอพพลิเคชันต่างๆ  โดยสินค้าที่คาดว่าจะเป็นที่นิยมในกลุ่มลูกค้าดังกล่าว คือ แบตเตอรี่สำรอง   หรือ พาวเวอร์แบงก์ , ลำโพงไร้สายและเคส  ที่มีราคาประมาณพันกว่าบาท
    สำหรับในส่วนของช่องทางจำหน่ายปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก  โดยเดิมบริษัทจำหน่ายผ่านร้านค้ารายย่อย 70%  แต่ปีนี้มีสัดส่วนไม่ถึง 20% เนื่องจากร้านค้ารายย่อยที่จำหน่ายสินค้าไอทีปิดตัวลงไปเป็นจำนวนมาก    ซึ่งบริษัทจะมุ่งเน้นการจำหน่ายผ่านทางช่องทางเชนสโตร์มือถือ อาทิ  เจมาร์ท และทีจีโฟน    และร้านค้าไอที ที่มีการปรับตัวมาขายสมาร์ทโฟน และแท็บเลตมากขึ้น  บานาน่าไอที, ซีเอสซี ,  เจไอบี  และแอดไวซ์  ร่วมถึงร้านไอสตูดิโอ ที่จำหน่ายแอปเปิล  
    ดร.บรรพต  กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับไอโฟน 5S และ 5C ใหม่ ที่ออกมานั้นช่วยกระตุ้นตลาดอุปกรณ์เสริมช่วงนี้ได้ระดับหนึ่ง  แต่อาจไม่สูงเท่ากับไอโฟน 4S ที่ออกมาก่อนหน้านี้    เนื่องจากกระแสความนิยมอาจลดลง  ขณะที่ฐานผู้ใช้ไอโฟนในไทยใหญ่มากขึ้น  อย่างไรก็ตามอุปกรณ์เสริมที่มาใช้กับผู้ซื้อไอโฟน 5S และ 5 C จะมีสีสันมากขึ้น ไม่ใช่สีขาวหรือดำ เหมือนที่ผ่านมา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=204720:2013-10-29-06-54-
43&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.