Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

05 พฤศจิกายน 2556 APP เรียกแท็กซี่บุกไทย!!! Grab Taxi (มาเลเซีย) กับมือทุนไทย ร่วมทุนและจัดตั้งบริษัทดังกล่าวโดยมีทุนจดทะเบียน 15 ล้านบาท (มั่นใจเรื่องความปลอดภัย)


ประเด็นหลัก

***ตั้งบริษัทร่วมทุน
    นายปัญญา วอนเผื่อน ผู้จัดการทั่วไป ประจำประเทศไทย ของ บริษัท แกร็บแท็กซี่ ประเทศไทย จำกัด  บอกกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้ผู้ก่อตั้งคือ นายแอนโทนี่ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาแอพพลิเคชัน "Grab Taxi"  กับ นางสาวจุฑาศรี คูวินิชกุล กรรมการผู้จัดการ ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนร่วมสถาบันเดียวกัน Harvard Business School  หลังจากผู้พัฒนาแอพพลิเคชันมาเที่ยวประเทศไทยต้องการเข้ามาร่วมลงทุนเพื่อขยายแอพพลิเคชัน "Grab Taxi" หลังจากนั้นก็ตัดสินใจร่วมทุนและจัดตั้งบริษัทดังกล่าวโดยมีทุนจดทะเบียน 15 ล้านบาท
    สำหรับ Grab Taxi ในประเทศมาเลเซีย และ ฟิลิปปินส์ นั้นมียอดการดาวน์โหลด 4 แสนครั้ง และ เป็นแอพแรกที่มีระบบ Track My Ride คือ ระบบการแชร์ข้อมูลการเดินทางเพื่อความปลอดภัย


______________________________________



ตลาดแอพบูม 'Grab Taxi'มาเลเซียบุกไทย


 ถึงตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า แอพพลิเคชัน กำลังเป็นธุรกิจดาวรุ่งดวงใหม่ไปเสียแล้ว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน "แอพติ๊กเกอร์" ที่บรรดาเหล่าศิลปินดารานำมาโพสต์ลงใน IG โด่งดังเพียงข้ามคืนเลยทีเดียว ว่ากันว่าตอนนี้ตลาดแอพพลิเคชันมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท

alt    แม้ตอนนี้ในประเทศไทยบรรดาเด็กยุคโซเชียลเน็ตเวิร์กพยายามใช้ช่องทางของยูทูบ ในการสื่อสารเข้าถึงบุคคลมีหลายคนดังชั่วข้ามคืนเลยทีเดียว และ มีหลายคนกำลังมีความคิดและความใฝ่ฝันเป็น"มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก" ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก
    อย่างไรก็ตามในขณะนี้แอพพลิเคชันสัญชาติมาเลเซียได้เข้ามาเริ่มทดลองเปิดตลาดในประเทศไทยแล้ว โดยแอพพลิเคชันนี้กำลังถูกกล่าวถึงนั้นคือ "Grab Taxi" ที่ได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยแล้ว
***ตั้งบริษัทร่วมทุน
    นายปัญญา วอนเผื่อน ผู้จัดการทั่วไป ประจำประเทศไทย ของ บริษัท แกร็บแท็กซี่ ประเทศไทย จำกัด  บอกกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้ผู้ก่อตั้งคือ นายแอนโทนี่ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาแอพพลิเคชัน "Grab Taxi"  กับ นางสาวจุฑาศรี คูวินิชกุล กรรมการผู้จัดการ ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนร่วมสถาบันเดียวกัน Harvard Business School  หลังจากผู้พัฒนาแอพพลิเคชันมาเที่ยวประเทศไทยต้องการเข้ามาร่วมลงทุนเพื่อขยายแอพพลิเคชัน "Grab Taxi" หลังจากนั้นก็ตัดสินใจร่วมทุนและจัดตั้งบริษัทดังกล่าวโดยมีทุนจดทะเบียน 15 ล้านบาท
    สำหรับ Grab Taxi ในประเทศมาเลเซีย และ ฟิลิปปินส์ นั้นมียอดการดาวน์โหลด 4 แสนครั้ง และ เป็นแอพแรกที่มีระบบ Track My Ride คือ ระบบการแชร์ข้อมูลการเดินทางเพื่อความปลอดภัย
*** เริ่มเปิดแอพทดลอง
    อย่างไรก็ตาม นายปัญญา บอกต่ออีกว่า สำหรับ "GRAB TAXI" ขณะนี้ในเบื้องต้นได้เปิดให้ทดลองใช้งานแล้วเป็นระยะเวลา 2 เดือน และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้หรืออย่างช้าต้นเดือนธันวาคม 2556 โดยจะเชิญนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในการเปิดตัว "Grab  Taxi"
    สำหรับในเบื้องต้นขณะนี้มีพนักงานขับรถแท็กซี่ยื่นขอจดทะเบียนในแต่ละวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบสมาร์ทโฟน ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 ราคาประมาณ 2 พันบาทก็สามารถดาวน์โหลดแอพไปทดลองใช้งาน
alt***ยังไม่สรุปโมเดลส่วนแบ่ง
    สำหรับเรื่องของส่วนแบ่งรายได้นั้นมีด้วยกัน 2 ส่วน คือ ส่วนแรกหักรายได้จากพนักงานขับรถ และ ส่วนที่ 2 หักรายได้จากผู้โดยสาร ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้สรุปรูปแบบอย่างเป็นทางการ
    "แต่เป้าหมายของ Grab Taxi นั้นต้องการให้พนักงานขับรถแท็กซี่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ซึ่งเรามีแผนอยากช่วยเหลือสังคมเพราะคุณแอนโทนี่ ผู้ก่อตั้งเป็นครอบครัวคนขับรถแท็กซี่"
    นอกจากนี้นายปัญญา ยังบอกต่ออีกว่า ขณะนี้ได้มีการติดต่อเพื่อขยายการให้บริการไปยังปั๊ม เอ็นจีวี ของ ปตท. (บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)) , ห้างเซ็นทรัลพระราม 3 , สนามบินสุวรรณภูมิ และ สนามบินดอนเมือง เป็นต้น
** การันตีความปลอดภัย ให้พลขับลงทะเบียน
    ในเรื่องของความปลอดภัยนั้น ปัญญา บอกว่า พนักงานขับรถแท็กซี่ที่มีความสนใจเข้า นำหลักฐาน อาทิ รูปภาพ บัตรประชาชน มาลงทะเบียนรวมถึงการจดเลขทะเบียนรถทุกครั้ง ซึ่งหลังจากมีผู้โดยสารเรียกจะมีการบันทึกไว้ในระบบทุกครั้ง
    "เมื่อผู้โดยสารสำรองแท็กซี่ได้แล้วเครื่องก็จะปรากฏรายละเอียดประวัติคนขับ ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และ ทะเบียนรถ ซึ่งผู้โดยสารสามารถแชร์ข้อมูลให้กับครอบครัวและเพื่อนสนิทได้ เพื่อสร้างความปลอดภัย"
*** ต้องการให้บริการเป็น Land of Smile
    นายปัญญา ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับเป้าหมายของ Grab Taxi นั้นต้องการเป็นแอพพลิเคชันแท็กซี่ที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก  ซึ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยในประเทศมาเลเซีย บริการ Grab Taxi  ได้รับความปลอดภัยมากที่สุด และ การให้บริการ Grab Taxi ไม่ได้จำกัดเฉพาะประเทศไทยเท่านั้นแต่สามารถเรียกใช้งานได้เมื่ออยู่ในประเทศมาเลเซีย และ ฟิลิปปินส์
    "ส่วนในประเทศไทยนั้นเราอยากเป็นบริษัทที่ช่วยเหลือแท็กซี่ให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ส่วนผู้โดยสารนั้นต้องการความปลอดภัยและต้องการบริการของแท็กซี่ถูกกล่าวขานว่าเป็นบริการ Land Of Smile"
    แม้ช่วงแรกที่เปิดให้ทดลองอาจจะมีปัญหาทางด้านเทคนิคบ้าง ติดต่อไปแล้วไม่มารับ โดยเฉพาะช่วงฝนตกนั้น แท็กซี่ จะปฏิเสธผู้โดยสารมาตลอด และ ที่สำคัญการติดต่อผ่านทาง Grab Taxi  ยืนยันการเรียกรถภายใน 1 นาทีเท่านั้น
    หลังจากนี้ต้องพิสูจน์กันต่อไปว่าแอพ "Grab Taxi" จะได้รับการตอบรับจากผู้โดยสารหรือไม่น่าสนใจ เพราะในโลกยุคโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้นใช้การติดต่อสื่อสารผ่านมือถือสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว แต่ปัญหาเรื่องความปลอดภัยแม้จะมีการการันตีก็ตามจะทำได้จริงหรือไม่
    สุดท้ายศูนย์บริการแท็กซี่ต่าง ๆ จะปรับตัวหรือไม่เพราะเรื่องของเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ไปแล้ว !!!

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=204722:-grab-taxi&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.