Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

18 พฤศจิกายน 2556 (เกาะติดประมูลDigital TV) บลิส-เทล เตรียมวางจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลในเดือน ม.ค.ปีหน้า มีทั้งหมด 4 รุ่น ( แหล่งข่าวระบุ ความพร้อมเรื่องช่องทางการจัด สอดรับกับคูปองDigital TV ให้มากที่สุด)


ประเด็นหลัก

 นายจักรกฤษณ์ ธนวิรุฬห์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.บลิส-เทล เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทจะวางจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลในเดือน ม.ค.ปีหน้า มีทั้งหมด 4 รุ่น แต่ละรุ่นจะใช้แบรนด์สินค้าแตกต่างกันไป เพราะแต่ละรุ่นจะใช้กลยุทธ์ในการขายต่างกัน ทั้งการวางโพซิชั่นสินค้า และราคา รวมถึงการบริหารสต๊อก โดยยังขอไม่เปิดเผยชื่อแบรนด์ในขณะนี้ แต่กำหนดระดับราคาไว้คร่าว ๆ ว่า จะอยู่ระหว่าง 700-900 บาท

"คาด ว่าการแข่งขันในตลาดเซต-ท็อป-บ็อกซ์ ปีแรกจะค่อนข้างรุนแรง เพราะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการจำหน่าย ทั้งจากปัจจัยความต้องการของผู้บริโภคที่มีสูง และจากการแจกคูปองของ กสทช.จึงจะมีผู้เล่นเข้ามาแสวงหารายได้จากธุรกิจนี้ อาจได้เห็นราคากล่องถูกระดับ 400-500 บาทก็ได้ เพราะผู้ผลิตบางรายอาจตัดฟังก์ชั่นบางอย่างทิ้งไป เพื่อลดต้นทุน คาดว่าปีแรกอาจมีกว่า 10 ล้านครัวเรือน ที่ซื้อกล่องรับสัญญาณมาใช้ มีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1 หมื่นล้านบาท"

รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช.ได้อนุมัติมาตรฐานเครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์แบบไม่มีจอภาพแสดงผล หรือ Set-Top-Box "ทีวีดิจิทัล" ลอตแรก จำนวน 16 รุ่น จาก 9 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท เอแอลเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จำนวน 2 รุ่น 2.บริษัท โซเคน อิเลคทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 1 รุ่น 3.บริษัท โฮมแคสท์ (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 1 รุ่น 4.บริษัท ไทยแซทเทิลไลท์ เคเบิล จำกัด จำนวน 4 รุ่น 5.บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด จำนวน 1 รุ่น 6.บริษัท ท็อปฟิลด์ (ไทยแลนด์)จำกัด จำนวน 2 รุ่น 7.บริษัท เออี เทคโนโลยีจำกัด จำนวน 3 รุ่น 8.บริษัท ต้าถุง (ประเทศไทย ) จำกัด จำนวน 1 รุ่น และ 9.บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 รุ่น

แหล่ง ข่าวในวงการสื่อสารกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ด้วยว่า อีกเรื่องที่น่าจับตาคือการแจกคูปองส่วนลดของ กสทช.เพราะมีผลต่อการทำตลาดกล่องรับสัญญาณด้วยเช่นกัน ทำให้ผู้บริโภคจ่ายเงินน้อยลง จึงกระตุ้นให้เกิดการซื้อกล่องรับสัญญาณมาติดตั้ง ซึ่งบริษัทที่มีความพร้อมเรื่องช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมมากกว่า มีบริการหลังการขายที่ดีกว่า ย่อมมีโอกาสเข้าถึงการทำตลาดได้มากกว่า








______________________________________



สมรภูมิ"ทีวีดิจิทัล"ร้อนตั้งแต่ไก่โห่ ระเบิดศึก"ราคา"กล่องรับสัญญาณชิงเค้ก4หมื่นล.



สมรภูมิ "เซต-ท็อป-บ็อกซ์" ทีวีดิจิทัลระอุ ยักษ์ใหญ่-หน้าใหม่ ระเบิดศึก "ราคา" แห่ชิงเค้ก 4 หมื่นล้าน ตั้งแต่ไก่โห่ "กลุ่มสามารถ" โชว์ความพร้อม ส่ง "เสาอากาศ-กล่องรับสัญญาณ" ครบเซต ปูพรมบุกตลาดเป็นเจ้าแรก หวังพลิกตำนานแชมป์จากเสาอากาศทีวี "แอนะล็อก" สู่ยุค "ดิจิทัล" ขณะที่"บลิส-เทล" เตรียมขน 4 รุ่น ราคา 700-900 บาท ลงตลาด ม.ค.ปีหน้า

ยัง ไม่ทันไร สมรภูมิธุรกิจกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัล หรือเซต-ท็อป-บ็อกซ์ ก็ส่อเค้าว่าจะร้อนแรงขึ้นโดยลำดับ จากการประกาศเปิดเกมของ "กลุ่มสามารถ" ภายใต้บริษัท สามารถ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) ด้วยการเปิดตัวเสาอากาศ และกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบได้แก่ กล่องรับสัญญาณรุ่น Strong ที่ราคาเพียง 1,155 บาท ชูดจุดเด่นเรื่องประหยัดพลังงาน ติดตั้งง่าย และทนทาน (รับประกัน 1.5 ปี) ภาพชัด Full HD แม้สัญญาณต่ำ ระบบเสียงลิขสิทธิ์ Dolby Digital พร้อมเสาอากาศสำหรับติดตั้งภายนอก ราคา 270 บาท และเสาอากาศติดตั้งภายใน ราคา 490 บาท

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปิดตัวสินค้าออกสู่ตลาดเป็นรายแรกในราคาที่ไม่แพงเป็นความตั้งใจ และแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของบริษัท เพราะมีความตั้งใจที่จะกลับมาเป็นผู้นำตลาดด้วยประสบการณ์ และความสำเร็จในอดีตในฐานะผู้ผลิตเสาอากาศ และอุปกรณ์รับ-ส่งสัญญาณทีวีมานานกว่า 50 ปี คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จะทำยอดขายกล่องรับสัญญาณได้ถึง 200,000 กล่อง และในปีหน้าธุรกิจที่เกี่ยวกับทีวีดิจิทัลจะถือเป็นไฮไลต์ของกลุ่มสามารถ ทั้งในแง่การจัดจำหน่ายอุปกรณ์ต่าง ๆ และการมีส่วนในการเข้าประมูลช่องรายการ เฉพาะตลาดเซต-ท็อป-บ็อกซ์ หรือกล่องรับสัญญาณ ประเมินว่าภายใน 3-4 ปี จะมีจำนวนมากถึง 40 ล้านเครื่อง เพราะประเทศไทยมีจำนวนครัวเรือนในประเทศ 22 ล้านครัวเรือน แต่โดยเฉลี่ยมีโทรทัศน์ 1.8 เครื่อง/ครัวเรือน หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท (คิดจากราคาเฉลี่ย 1,000 บาท/กล่องรับสัญญาณ)

ด้าน นายจักรกฤษณ์ ธนวิรุฬห์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.บลิส-เทล เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทจะวางจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลในเดือน ม.ค.ปีหน้า มีทั้งหมด 4 รุ่น แต่ละรุ่นจะใช้แบรนด์สินค้าแตกต่างกันไป เพราะแต่ละรุ่นจะใช้กลยุทธ์ในการขายต่างกัน ทั้งการวางโพซิชั่นสินค้า และราคา รวมถึงการบริหารสต๊อก โดยยังขอไม่เปิดเผยชื่อแบรนด์ในขณะนี้ แต่กำหนดระดับราคาไว้คร่าว ๆ ว่า จะอยู่ระหว่าง 700-900 บาท

"คาด ว่าการแข่งขันในตลาดเซต-ท็อป-บ็อกซ์ ปีแรกจะค่อนข้างรุนแรง เพราะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการจำหน่าย ทั้งจากปัจจัยความต้องการของผู้บริโภคที่มีสูง และจากการแจกคูปองของ กสทช.จึงจะมีผู้เล่นเข้ามาแสวงหารายได้จากธุรกิจนี้ อาจได้เห็นราคากล่องถูกระดับ 400-500 บาทก็ได้ เพราะผู้ผลิตบางรายอาจตัดฟังก์ชั่นบางอย่างทิ้งไป เพื่อลดต้นทุน คาดว่าปีแรกอาจมีกว่า 10 ล้านครัวเรือน ที่ซื้อกล่องรับสัญญาณมาใช้ มีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1 หมื่นล้านบาท"

รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช.ได้อนุมัติมาตรฐานเครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์แบบไม่มีจอภาพแสดงผล หรือ Set-Top-Box "ทีวีดิจิทัล" ลอตแรก จำนวน 16 รุ่น จาก 9 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท เอแอลเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จำนวน 2 รุ่น 2.บริษัท โซเคน อิเลคทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 1 รุ่น 3.บริษัท โฮมแคสท์ (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 1 รุ่น 4.บริษัท ไทยแซทเทิลไลท์ เคเบิล จำกัด จำนวน 4 รุ่น 5.บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด จำนวน 1 รุ่น 6.บริษัท ท็อปฟิลด์ (ไทยแลนด์)จำกัด จำนวน 2 รุ่น 7.บริษัท เออี เทคโนโลยีจำกัด จำนวน 3 รุ่น 8.บริษัท ต้าถุง (ประเทศไทย ) จำกัด จำนวน 1 รุ่น และ 9.บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 รุ่น

แหล่ง ข่าวในวงการสื่อสารกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ด้วยว่า อีกเรื่องที่น่าจับตาคือการแจกคูปองส่วนลดของ กสทช.เพราะมีผลต่อการทำตลาดกล่องรับสัญญาณด้วยเช่นกัน ทำให้ผู้บริโภคจ่ายเงินน้อยลง จึงกระตุ้นให้เกิดการซื้อกล่องรับสัญญาณมาติดตั้ง ซึ่งบริษัทที่มีความพร้อมเรื่องช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมมากกว่า มีบริการหลังการขายที่ดีกว่า ย่อมมีโอกาสเข้าถึงการทำตลาดได้มากกว่า

สำหรับ มูลค่าคูปอง ก่อนหน้านี้ พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า การแจกคูปองส่วนลดสำหรับซื้อกล่องแปลงสัญญาณทีวีดิจิทัล คำนวณจากราคาตั้งต้นการประมูลช่องบริการธุรกิจ 24 ช่อง มูลค่ารวม 15,190 ล้านบาท หารเฉลี่ยครัวเรือนในประเทศไทย 22 ล้านครัวเรือนแล้ว ทำให้แต่ละครอบครัวจะได้รับคูปองส่วนลด 690 บาท แต่คาดว่าจะพิจารณา หลังสิ้นสุดการประมูลแล้วส่วนการประมูล 24 ช่องรายการทีวีดิจิทัลแบบธุรกิจ กสทช.ยังคงกำหนดการเดิม คือระหว่างกลางเดือน ธ.ค.ปีนี้ ถึงต้น ม.ค.ปีหน้า

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1384769961

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.