27 พฤศจิกายน 2556 DTAC รุกลูกค้าองค์กรมากขึ้น (หลังมูลค่าตลาดรวมองค์กร 1 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 5% ของตลาดรวม อัตราการเติบเฉลี่ย 12-15% ต่อปี ) เชื่อการให้ความรู้ว่าบริการองค์กรแตกต่างบริการปกติอย่างไรจะช่วยกระตุ้นยอดได้
ประเด็นหลัก
นายวรรษิษฐ์ ไสยวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายลูกค้าองค์กร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า ตลาดองค์กรมีความต้องการใช้งานโซลูชั่นด้านโมบายมากขึ้นเรื่อยๆ จากการสำรวจพบว่ามากกว่า 60% ต้องการใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลการทำงาน ซึ่งปัจจุบันตลาดองค์กรในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านบาท มีสัดส่วนประมาณ 5% ของตลาดรวมเท่านั้น ถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำและใกล้เคียงกับหลายประเทศในภูมิภาคนี้
“องค์กรยังไม่เห็นความแตกต่างระหว่างการใช้งานเป็นโซลูชั่น คือมีทั้งการโทร การใช้อินเทอร์เน็ต และการใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อช่วยงานต่างๆ และคิดค่าบริการในภายหลังจากทั้งองค์กร กับการเลือกจ่ายเงินให้พนักงานไปบริหารการใช้เอง ทำให้ที่ผ่านมาตลาดองค์กรยังไม่เติบโตเท่าที่ควร” นายวรรษิษฐ์ กล่าว
สำหรับตลาดรวมมูลค่า 1 หมื่นล้านบาทในไทย มาจากผู้ให้บริการทั้ง 3 รายคือ เอไอเอส, ดีแทค และทรู โดยมีอัตราการเติบเฉลี่ย 12-15% ต่อปี กลุ่มธุรกิจการเงินการธนาคารมีมูลค่าการใช้งานสูงสุด รองลงมาคือกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ และกลุ่มค้าปลีกที่กำลังเพิ่มขึ้น ดังนั้นเป้าหมายในปีหน้าคือ พยายามสร้างความเข้าใจและผลักดันให้องค์กรต่างๆ มีการใช้บริการโซลูชั่นครบวงจรมากขึ้น
______________________________________
ดีแทครุกลูกค้าองค์กรหลังโอกาสเติบโตสูง
ดีแทคเผยมูลค่าตลาดรวมองค์กร 1 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 5% ของตลาดรวม เชื่อโอกาสเติบโตสูงจากปัจจัยเปิดเออีซี – บริการ 3จี
นายวรรษิษฐ์ ไสยวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายลูกค้าองค์กร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า ตลาดองค์กรมีความต้องการใช้งานโซลูชั่นด้านโมบายมากขึ้นเรื่อยๆ จากการสำรวจพบว่ามากกว่า 60% ต้องการใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลการทำงาน ซึ่งปัจจุบันตลาดองค์กรในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านบาท มีสัดส่วนประมาณ 5% ของตลาดรวมเท่านั้น ถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำและใกล้เคียงกับหลายประเทศในภูมิภาคนี้
ทั้งนี้ จากการใช้งานที่ยังน้อย จึงเชื่อว่าตลาดมีโอกาสเติบโตสูงมาก โดยในยุโรปมีสัดส่วนรายได้จากตลาดองค์กรกว่า 30% ในเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี สิงคโปร์มีสัดส่วน 35% มาเลเซียมีสัดส่วน 8-9% เชื่อว่าประเทศไทยมีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตขึ้นไปตามมาเลเซีย โดยมีปัจจัยหลักคือ การเปิดเออีซี และการใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการให้บริการ 3จี และ4จี
“องค์กรยังไม่เห็นความแตกต่างระหว่างการใช้งานเป็นโซลูชั่น คือมีทั้งการโทร การใช้อินเทอร์เน็ต และการใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อช่วยงานต่างๆ และคิดค่าบริการในภายหลังจากทั้งองค์กร กับการเลือกจ่ายเงินให้พนักงานไปบริหารการใช้เอง ทำให้ที่ผ่านมาตลาดองค์กรยังไม่เติบโตเท่าที่ควร” นายวรรษิษฐ์ กล่าว
สำหรับตลาดรวมมูลค่า 1 หมื่นล้านบาทในไทย มาจากผู้ให้บริการทั้ง 3 รายคือ เอไอเอส, ดีแทค และทรู โดยมีอัตราการเติบเฉลี่ย 12-15% ต่อปี กลุ่มธุรกิจการเงินการธนาคารมีมูลค่าการใช้งานสูงสุด รองลงมาคือกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ และกลุ่มค้าปลีกที่กำลังเพิ่มขึ้น ดังนั้นเป้าหมายในปีหน้าคือ พยายามสร้างความเข้าใจและผลักดันให้องค์กรต่างๆ มีการใช้บริการโซลูชั่นครบวงจรมากขึ้น
นายวรรษิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า เดิมการทำตลาดแนวนี้จะเริ่มต้นที่ผู้ให้บริการระบบไอที หรือ เอสไอ แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาอยู่ที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมแล้ว โดยจุดเด่นของดีแทคที่แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น คือ การมีพนักงานกว่า 120 คนที่เป็นมืออาชีพสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าองค์กรประเภทต่างๆ ได้เป็นอย่างดี จากนั้นจะนำเสนอโซลูชั่นให้กับลูกค้า ซึ่งความท้าทายคือการทำให้ลูกค้าเข้าใจและเปลี่ยนมาใช้งานมากขึ้น
http://www.posttoday.com/%E0%B8%94%E0
%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B
8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%
84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C/2
61314/%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%8
1%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0
%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8
%B9%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%89
%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0
%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8
%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1
%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0
%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87
ไม่มีความคิดเห็น: