01 ธันวาคม 2556 แบงก์ชาติ ยืนยันระบบ ATM ใช้ได้ปกติ แม้ CAT TOT จะไม่สามารถให้บริการได้ ระบุ สามารถใช้โครงข่ายอื่นแทนได้ หรือ กดเงินผ่านทางธนาคารอื่นแทนได้
ประเด็นหลัก
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2556 นางทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าการด้านบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานความผิดปกติการเบิกถอนเงินของประชาชน ผ่านตู้เอทีเอ็ม หลังจากวานนี้มีการตัดกระแสไฟฟ้าของบริษัท กสท โทรคมนาคม และบริษัท ทีโอที ทำให้เครือข่ายการให้บริการโทรคมนาคมเกิดปัญหา เนื่องจากระบบเอทีเอ็มถือเป็นระบบเครือข่ายส่วนบุคคล ที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมสามารถเชื่อมระบบพิเศษ ที่สามารถทดแทนระบบกลาง เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างธนาคารในการให้บริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากการสำรวจของ ธปท.พบว่าประชาชนยังไม่ตื่นตระหนกต่อสถานการณ์การเมือง จนมีการเบิกถอนเงินอย่างผิดปกติ โดยขณะนี้ปริมาณเงินที่ประชาชนเบิกถอนเงินสดแต่ละวันยังเป็นปกติ ไม่มีปริมาณเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ธปท.มีธนบัตรเพียงพอต่อการเบิกจ่ายของประชาชน โดยได้มีการพิมพ์ธนบัตรสำรองล่วงหน้าไว้ 3-4 เดือน และ ธปท.มีศูนย์กระจายธนบัตรถึง 9 ศูนย์ทั่วประเทศ จึงกระจายต่อไปยังศูนย์เงินสดของธนาคารพาณิชย์ เพื่อกระจายธนบัตรถึงประชาชนได้อย่างทั่วถึง
ขณะที่ นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า ระบบการจ่ายไฟฟ้าของสถาบันการเงินมีระบบสำรองที่เป็นไปตามมาตรฐานที่ ธปท.กำหนด ดังนั้น หากมีการตัดกระแสไฟฟ้าทั้งสาขาของธนาคารพาณิชย์ และตู้เอทีเอ็มบริเวณสาขาสามารถใช้ระบบสำรองทดแทนได้ โดย ธปท.จะเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว แต่จะไม่เข้าไปแทรกแซงการทำงานของธนาคารพาณิชย์ แต่ได้กำชับให้ดูแลเรื่องเหล่านี้แล้ว
______________________________________
แบงก์ชาติยืนยัน เอทีเอ็มยังใช้ได้ปกติ แม้ถูกตัดไฟ
แบงก์ชาติ ยืนยันระบบ ATM ใช้ได้ปกติ การสื่อสารระหว่างแบงก์ไม่มีปัญหา หลัง กสท-ทีโอที ถูกตัดไฟ ยืนยันแบงก์มีระบบสำรองไฟตามมาตรฐานสากล ยืนยันแม้มีการตัดไฟตอนกดเอทีเอ็มอยู่ แต่ข้อมูลบัญชีไม่หายแน่นอน ขณะที่ยังไม่พบประชาชนตุนเงินเกินปกติ...
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2556 นางทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าการด้านบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานความผิดปกติการเบิกถอนเงินของประชาชน ผ่านตู้เอทีเอ็ม หลังจากวานนี้มีการตัดกระแสไฟฟ้าของบริษัท กสท โทรคมนาคม และบริษัท ทีโอที ทำให้เครือข่ายการให้บริการโทรคมนาคมเกิดปัญหา เนื่องจากระบบเอทีเอ็มถือเป็นระบบเครือข่ายส่วนบุคคล ที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมสามารถเชื่อมระบบพิเศษ ที่สามารถทดแทนระบบกลาง เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างธนาคารในการให้บริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากการสำรวจของ ธปท.พบว่าประชาชนยังไม่ตื่นตระหนกต่อสถานการณ์การเมือง จนมีการเบิกถอนเงินอย่างผิดปกติ โดยขณะนี้ปริมาณเงินที่ประชาชนเบิกถอนเงินสดแต่ละวันยังเป็นปกติ ไม่มีปริมาณเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ธปท.มีธนบัตรเพียงพอต่อการเบิกจ่ายของประชาชน โดยได้มีการพิมพ์ธนบัตรสำรองล่วงหน้าไว้ 3-4 เดือน และ ธปท.มีศูนย์กระจายธนบัตรถึง 9 ศูนย์ทั่วประเทศ จึงกระจายต่อไปยังศูนย์เงินสดของธนาคารพาณิชย์ เพื่อกระจายธนบัตรถึงประชาชนได้อย่างทั่วถึง
ขณะที่ นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า ระบบการจ่ายไฟฟ้าของสถาบันการเงินมีระบบสำรองที่เป็นไปตามมาตรฐานที่ ธปท.กำหนด ดังนั้น หากมีการตัดกระแสไฟฟ้าทั้งสาขาของธนาคารพาณิชย์ และตู้เอทีเอ็มบริเวณสาขาสามารถใช้ระบบสำรองทดแทนได้ โดย ธปท.จะเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว แต่จะไม่เข้าไปแทรกแซงการทำงานของธนาคารพาณิชย์ แต่ได้กำชับให้ดูแลเรื่องเหล่านี้แล้ว
“มองว่าแม้จะเกิดการชุมนุมทางการเมือง แต่ประชาชนยังเข้าถึงบริการทางการเงินได้ตามปกติ โดยผ่านทั้งสาขาธนาคารพาณิชย์ และอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง ถึงแม้ว่าจะไม่มีความสะดวกสบายในการใช้บริการบ้างก็ตาม นอกจากนั้น ยืนยันว่าไม่ต้องเป็นห่วงว่า หากมีการตัดไฟขณะที่กดเอเทีเอ็มอยู่แล้วยอดเงินบัญชีจะหายไป หรือจะผิดพลาด เพราะตามปกติธนาคารพาณิชย์มีระบบแบ็กอัพรองรับข้อมูลตลอดเวลา แต่หากเกิดปัญหาดังกล่าวจริง ให้แจ้งธนาคารพาณิชย์เจ้าของบัญชี ซึ่งที่ผ่านมาหากพบว่าไม่ใช่ความผิดของเจ้าของบัญชี ธนาคารพาณิชย์จะคืนเงินให้ภายใน 1-2 วัน" รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท.กล่าว.
โดย: ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/eco/386523
ไม่มีความคิดเห็น: