01 ธันวาคม 2556 ( เทเลเนอร์ พ่อ DTAC ) ระบุ ไม่หวั่นการเมืองกระทบธุรกิจ สถานการณ์ทางการเมืองมีทั้งระยะสั้นและระยะยาว แต่ในธุรกิจโทรคมนาคมนั้นต้องมองการบริการแบบยั่งยืน
ประเด็นหลัก
*** ไม่หวั่นการเมืองกระทบธุรกิจ
นอกจากนี้ นายบัคซอส ยังกล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย ว่า สถานการณ์ทางการเมืองมีทั้งระยะสั้นและระยะยาว แต่ในธุรกิจโทรคมนาคมนั้นต้องมองการบริการแบบยั่งยืน ใน 12 ประเทศที่กลุ่มเทเลนอร์เข้าไปลงทุน ล้วนมีปัญหาทางการเมืองแตกต่างกันไป ซึ่งบริษัทเองถือเป็นเรื่องธรรมดา และไม่เห็นว่าจะเป็นปัจจัยลบต่อการทำธุรกิจ
*** หนุนเงินลงทุน 3.4 หมื่นล.
______________________________________
บิ๊กเทเลนอร์กรุ๊ป ลั่น! ยังลงทุน 'ดีแทค'
ผ่านไปแล้วกับ ไอทียู เวิลด์ เทเลคอม 2013 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2556 โดยบรรดาอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่างนำเทคโนโลยีเข้ามาโชว์กันอย่างคึกคัก
จอน เฟรดดริด บัคซอสจอน เฟรดดริด บัคซอส อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมานั้น นายจอน เฟรดดริด บัคซอส ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ได้ให้สัมภาษณ์ยุทธศาสตร์ของ เทเลนอร์ กรุ๊ป พร้อมกับแสดงความเห็นสถานการณ์การเมืองในประเทศ ติดตามอ่านได้จากบรรทัดถัดจากนี้!
**** ขยายลงทุน 13 ประเทศ
นายบัคซอส กล่าวว่า ปัจจุบัน เทเลเนอร์ กรุ๊ปได้ขยายการลงทุนใน 13 ประเทศทั่วโลก โดยประเทศล่าสุดที่ได้เข้าไปลงทุน คือ ประเทศเมียนมาร์ เชื่อว่าจะมีข้อสรุปเรื่องใบอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายในเร็ว ๆ นี้ หลังจากได้รับใบอนุญาตแล้วจะเปิดใช้บริการได้ภายในไตรมาส 3 ปี2557 ส่วนการลงทุนในประเทศไทยนั้น เทเลนอร์ยังคงมุ่งมั่นที่จะลงทุนสร้างโครงข่ายโทรคมนาคมในประเทศไทย เพื่อให้คนไทยได้ใช้บริการอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ และมีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม
**** 10 ปีลงทุนในไทย 1.3 แสนล.
สำหรับรายได้ของกลุ่มเทเลนอร์ในปี 2555 มีจำนวน 102,000 ล้านนอร์วีเจียนโครน มาจากเอเชีย 44% นอร์เวย์ 25% ยุโรป 23% และอื่นๆราว 8% ซึ่งรายได้จากเอเชียนั้นมากกว่า 50% เป็นรายได้จาก ดีแทค โดยในปีนี้ในกลุ่มเทเลนอร์ตั้งเป้ารายได้เติบโตที่ 1-2% และมีกำไรก่อนหักภาษีค่าเสื่อม (อีบิตดา มาร์จิน) ที่ 34% นอกจากนี้ เทเลนอร์ ได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นระยะเวลา 10 ปี ลงทุนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1.3 แสนล้านบาท
*** ไม่หวั่นการเมืองกระทบธุรกิจ
นอกจากนี้ นายบัคซอส ยังกล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย ว่า สถานการณ์ทางการเมืองมีทั้งระยะสั้นและระยะยาว แต่ในธุรกิจโทรคมนาคมนั้นต้องมองการบริการแบบยั่งยืน ใน 12 ประเทศที่กลุ่มเทเลนอร์เข้าไปลงทุน ล้วนมีปัญหาทางการเมืองแตกต่างกันไป ซึ่งบริษัทเองถือเป็นเรื่องธรรมดา และไม่เห็นว่าจะเป็นปัจจัยลบต่อการทำธุรกิจ
*** หนุนเงินลงทุน 3.4 หมื่นล.
อย่างไรก็ตามแม้สถานการณ์ทางการเมืองยังไม่สงบ แต่ เทเลนอร์ กรุ๊ป ได้สนับสนุนการลงทุนของ ดีแทค ซึ่งมีแผนการขยายโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 จีย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ภายหลังจากได้ใบอนุญาตและติดตั้งเครือข่ายครอบคลุมภายในระยะเวลา 3 ปี เป็นเงิน จำนวน 3.4 หมื่นล้านบาทนั้น กลุ่มเทเลนอร์ก็จะให้การสนับสนุนด้านการเงินเหมือนเดิม
เป้าหมายของเทเลนอร์ กรุ๊ป คือ การทำให้ทุกชีวิตในประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชียที่เทเลนอร์เข้าไปทำธุรกิจ รวมทั้งประเทศไทยได้มีโอกาสเข้าถึงอินเตอร์เน็ต ความร่วมมือของเทเลนอร์ และดีแทค ในการพัฒนาแพ็กเกจต่างๆและอุปกรณ์สมาร์ทโฟนในราคาที่ถูกลง เปิดช่องว่างให้ลูกค้าได้มีโอกาสเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียมซึ่งในไตรมาสที่3 ของปีนี้ ตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยเติบโตถึง 29.1% โดยเพิ่มขึ้นจาก 7.1 ล้านเครื่องเป็น 8 ล้านเครื่องแล้ว
*** แนะ กสทช. จัดสรรคลื่นให้เหมาะสม
นอกจากนี้ นายบัคซอส ในฐานะประธานสมาคมจีเอสเอ็มเอที่ได้รับแต่งตั้งเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นั้น ได้แนะการจัดสรรคลื่นความถี่กับ กสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) ว่า ต้องเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่มีการกำหนดทิศทางที่ดี และ ต้องทำให้ตลาดเกิดบรรยากาศที่ดีในการลงทุน ควบคู่ไปกับการจัดสรรคลื่นความถี่ หากทุกอย่างลงตัว การลงทุนจากต่างชาติจะเข้ามาเอง
ดังนั้น การวางแนวทางการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และการมุ่งไปสู่ดาต้าตามการใช้งานนั้น ต้องดูที่สภาพแวดล้อมโดยรวมของประเทศนั้นด้วย โดยยกตัวอย่างว่า ในบังกลาเทศ และปากีสถานมีประชากรไม่ถึง 20% ที่ใช้อินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ สำหรับประเทศอุตสาหกรรมเกิดใหม่เช่น ประเทศไทย และมาเลเซียนั้น มีประชากรเพียงแค่ 40% เท่านั้นที่ใช้อินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้ทุกชีวิตในทุกประเทศที่ต้องมีทั้งอุปกรณ์ที่รองรับ บันเดิลแพ็กเกจที่ทุกคนจับต้องได้ราคาไม่สูง และที่สำคัญต้องมีการร่วมมือกับหน่วยงานโทรคมนาคมอื่นๆ ผู้ผลิตเนื้อหา และผู้ผลิตอุปกรณ์โครงข่าย เพื่อใช้ทรัพยากรที่มีให้เกิดประโยชน์ทั้งในแง่ของสินค้า และบริการให้เกิดประโยชน์สูงสุด
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=207822:2013-11-22-06-31-38&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491
ไม่มีความคิดเห็น: