Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

03 ธันวาคม 2556 DTAC ระบุ ปัจจุบันไทยเป็นตลาดโมบายแอพพลิเคชั่นที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของตลาดที่มีอัตราการเติบโตของรายได้สูงสุดทั้งในแอพสโตร์และกูเกิลเพลย์


ประเด็นหลัก

นายซิกวาร์ท โวส เอริคเซน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ปัจจุบันไทยเป็นตลาดโมบายแอพพลิเคชั่นที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของตลาดที่มีอัตราการเติบโตของรายได้สูงสุดทั้งในแอพสโตร์และกูเกิลเพลย์ ดีแทคซึ่งมีนโยบายส่งเสริมให้คนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น แม้ว่าจะมี 3จี เป็นตัวช่วยแต่ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยยังมีอีกมาก ดังนั้นจึงสร้างระบบนิเวศของโมบายอินเทอร์เน็ตให้เติบโตอย่างสมบูรณ์แบบในไทย ล่าสุดดีแทคได้ร่วมมือกับ Founder Institute หรือ FI ผู้ก่อตั้งเครือข่ายของสตาร์ตอัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก มาจัดคอร์สการอบรมให้กับผู้สนใจเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมให้คนไทยได้เรียนรู้เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี


______________________________________


?ดีแทคจับมือพาร์ทเนอร์ระดับโลกปั้นสตาร์ทอัพไทยเป็นมืออาชีพ?
ปัจจุบันไทยเป็นตลาดโมบายแอพพลิเคชั่นที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของตลาดที่มีอัตราการเติบโตของรายได้สูงสุดทั้งในแอพสโตร์และกูเกิลเพลย์


ดีแทคเผยไทยติดท็อปเทนในตลาดโมบายแอพพลิเคชั่นโลก พร้อมจับมือพาร์ทเนอร์ระดับโลกจัดคอร์สการเรียนรู้สู่การเป็นสตาร์ตอัพอย่างมืออาชีพเป็นครั้งแรกในไทย

นายซิกวาร์ท โวส เอริคเซน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ปัจจุบันไทยเป็นตลาดโมบายแอพพลิเคชั่นที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของตลาดที่มีอัตราการเติบโตของรายได้สูงสุดทั้งในแอพสโตร์และกูเกิลเพลย์ ดีแทคซึ่งมีนโยบายส่งเสริมให้คนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น แม้ว่าจะมี 3จี เป็นตัวช่วยแต่ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยยังมีอีกมาก ดังนั้นจึงสร้างระบบนิเวศของโมบายอินเทอร์เน็ตให้เติบโตอย่างสมบูรณ์แบบในไทย ล่าสุดดีแทคได้ร่วมมือกับ Founder Institute หรือ FI ผู้ก่อตั้งเครือข่ายของสตาร์ตอัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก มาจัดคอร์สการอบรมให้กับผู้สนใจเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมให้คนไทยได้เรียนรู้เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

ด้านนายเบญจามิน แรงค์ ผู้อำนวยการ Founder Institute กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของ FI คือสร้างผู้ประกอบการหน้าใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะขยายซิลิคอน วัลเล่ย์ ศูนย์กลางของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด ไปสู่เมืองต่าง ๆ ทั่วโลก และครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ FI ได้มาจัดอบรมให้กับเหล่าสตาร์ตอัพที่กรุงเทพฯ เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพและความพร้อมของคนไทย ที่มีความตื่นตัวและตอบรับเรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างกว้างขวาง ทั้งนี้การอบรมดังกล่าวจะใช้เวลาประมาณ 14 สัปดาห์ และผู้ที่เข้าอบรมจะต้องผ่านการทดสอบจาก FI ก่อนถึงจะมีสิทธิเข้ารับการอบรม ผู้ที่สนใจ สามารถลงทะเบียนและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://fi.co/courses/3723


http://www.dailynews.co.th/Content/IT/198936/%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.