08 ธันวาคม 2556 กสทช.สำรวจพฤติกรรมการใช้บริการฯ ระบุโทรศัพท์พื้นฐาน มีสัดส่วนผู้ใช้บริการ 27.9% ของจำนวนตัวอย่างทั้งหมด ส่วนใหญ่เน้นรับสาย // ส่วนแบ่งการตลาดใหม่ AIS 51.8% DTAC 37.2% TRUE 11.0%
ประเด็นหลัก
นายฐากร กล่าวว่า สำหรับบริการโทรศัพท์ประจำที่ หรือ โทรศัพท์พื้นฐาน มีสัดส่วนผู้ใช้บริการ 27.9% ของจำนวนตัวอย่างทั้งหมด นั้นถือว่าลดลงเมื่อเทียบกับปี 2554 ที่อยู่ 35.2% โดยลักษณะการใช้งานบริการโทรศัพท์ประจำที่ในปัจจุบันเน้นที่การรับสายถึง 90.5% ของจำนวนตัวอย่างที่ใช้บริการ รองลงมาเป็นการโทรออก 77.0% และใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 46.8% โดยพบว่าบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ให้บริการที่กลุ่มตัวอย่างใช้บริการมากที่สุดคิดเป็น 69.9% รองลงมาได้แก่บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 13.3% และบริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) มีสัดส่วนผู้ใช้บริการคิดเป็น 11.3%
ส่วนพฤติกรรมการใช้บริการโทรศัพท์สาธารณะพบว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์สาธารณะเพียง 23.9% ของจำนวนตัวอย่างทั้งหมด โดยสาเหตุหลักในการใช้บริการโทรศัพท์สาธารณะ คือ โทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้การไม่ได้ (เช่น โทรศัพท์เสีย แบตเตอรี่หมด ฯลฯ) รองลงมาคือในที่พักอาศัยไม่มีโทรศัพท์ประจำที่ สำหรับสถานที่ที่ใช้บริการโทรศัพท์สาธารณะมากที่สุด คือ โทรศัพท์ที่อยู่ใกล้ที่พัก รองลงมาคือตามท้องถนนทั่วไป
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (AIS) เป็นบริษัทที่มีสัดส่วนการใช้บริการมากที่สุด 51.8% รองลงมาคือบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (DTAC) 37.2% และบริษัท ทรูมูฟ จำกัด (True Move) 11.0% ตามลำดับ ซึ่งปัจจัยหลักที่ตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการ คือ 1.เครือข่ายครอบคลุม 2. สัญญาณเสียงคมชัดติดต่อได้สะดวก และ3.อัตราค่าบริการต่ำ
______________________________________
คนไทยมีแนวโน้มใช้เน็ตผ่านมือถือมากขึ้น
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (เลขาธิการ กสทช.) เผยผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้บริการโทรคมนาคมของประชากรไทย พ.ศ. 2555-2556 พบว่าสังคมไทยมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้นทั้งในรูปแบบการเชื่อมต่อผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่และเอดีเอสแอล พบว่า บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นบริการโทรคมนาคมที่คนไทยในทุกพื้นที่นิยมใช้สูงสุดถึง 93.5% โดยส่วนใหญ่เป็นการใช้บริการแบบเติมเงินสูงถึง 79.2% ด้านการใช้งานพบว่า 99.9% เป็นการใช้บริการด้านเสียง
ทั้งนี้ พบว่า การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงขึ้นเป็น 31.9% จาก 18.4% ในปีที่ผ่านมา โดยพื้นที่ที่มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่สูงสุด คือ กรุงเทพฯและปริมณฑล 53.2% รองลงมาเป็นภาคใต้ 32.6% ตามด้วยภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 29.5%, 24.3% และ 18.9% ตามลำดับ
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (AIS) เป็นบริษัทที่มีสัดส่วนการใช้บริการมากที่สุด 51.8% รองลงมาคือบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (DTAC) 37.2% และบริษัท ทรูมูฟ จำกัด (True Move) 11.0% ตามลำดับ ซึ่งปัจจัยหลักที่ตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการ คือ 1.เครือข่ายครอบคลุม 2. สัญญาณเสียงคมชัดติดต่อได้สะดวก และ3.อัตราค่าบริการต่ำ
สำหรับผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตโดยรวมของประเทศไทย พบว่า มีผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตคิดเป็น 46.0% ของกลุ่มตัวอย่าง เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ซึ่งมีเพียง 36.5% และสาเหตุหลักของการไม่ใช้บริการอินเทอร์เน็ตเนื่องจากไม่มีความจำเป็นต้องใช้ ไม่รู้จัก และใช้ไม่เป็น เมื่อพิจารณาผลการสำรวจพบว่า กรุงเทพฯและปริมณฑลมีการใช้บริการอินเทอร์เน็ตสูงที่สุดคิดเป็น 68.2% รองลงมาเป็นภาคใต้ 52.4% โดยช่วงเวลาการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากที่สุดคือ ช่วงเวลา 16.00-22.00 น.
บริการที่มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตสูงสุด 3 ลำดับแรก คือ บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ อาทิ Facebook, Twitter 33.1% การสื่อสารผ่านข้อความ อาทิ Line, What App 29.4% และการค้นหาข้อมูล 28.9%
นายฐากร กล่าวว่า สำหรับบริการโทรศัพท์ประจำที่ หรือ โทรศัพท์พื้นฐาน มีสัดส่วนผู้ใช้บริการ 27.9% ของจำนวนตัวอย่างทั้งหมด นั้นถือว่าลดลงเมื่อเทียบกับปี 2554 ที่อยู่ 35.2% โดยลักษณะการใช้งานบริการโทรศัพท์ประจำที่ในปัจจุบันเน้นที่การรับสายถึง 90.5% ของจำนวนตัวอย่างที่ใช้บริการ รองลงมาเป็นการโทรออก 77.0% และใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 46.8% โดยพบว่าบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ให้บริการที่กลุ่มตัวอย่างใช้บริการมากที่สุดคิดเป็น 69.9% รองลงมาได้แก่บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 13.3% และบริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) มีสัดส่วนผู้ใช้บริการคิดเป็น 11.3%
ส่วนพฤติกรรมการใช้บริการโทรศัพท์สาธารณะพบว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์สาธารณะเพียง 23.9% ของจำนวนตัวอย่างทั้งหมด โดยสาเหตุหลักในการใช้บริการโทรศัพท์สาธารณะ คือ โทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้การไม่ได้ (เช่น โทรศัพท์เสีย แบตเตอรี่หมด ฯลฯ) รองลงมาคือในที่พักอาศัยไม่มีโทรศัพท์ประจำที่ สำหรับสถานที่ที่ใช้บริการโทรศัพท์สาธารณะมากที่สุด คือ โทรศัพท์ที่อยู่ใกล้ที่พัก รองลงมาคือตามท้องถนนทั่วไป
สำหรับบริการโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ มีผู้ใช้บริการเพียง 5.5% ของจำนวนตัวอย่างทั้งหมด และพบว่าผู้ใช้บริการขณะอยู่ต่างประเทศมีการโทรกลับประเทศไทยถึง 78.0% ของจำนวนตัวอย่างผู้เคยเดินทางไปต่างประเทศ และใช้วิธีการโทรกลับด้วยการซื้อซิมการ์ดใหม่ในต่างประเทศ 49.1% รองลงมาเป็นใช้บริการโทรผ่านระบบ VoIP เช่น Skype, Viber 47.3% และใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในการใช้บริการโทรศัพท์ข้ามแดนอัตโนมัติ 43.6% ในทางตรงกันข้าม หากพิจารณาขณะอยู่ในประเทศไทยพบว่า มีผู้ใช้บริการโทรศัพท์ทางไกลไปต่างประเทศคิดเป็น 74.5% ลดลงเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมาที่มีอยู่ 77.4% โดยส่วนใหญ่เลือกวิธีการโทรไปต่างประเทศด้วยการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ 59.8% ลดลงจากปี 2554 ที่มีการใช้สูงถึง 87.5% และโทรจากโทรศัพท์ประจำที่ 15.2% ลดลงจากปี 2554 ซึ่งมีการใช้ 19.3%
“การสำรวจพฤติกรรมการใช้บริการโทรคมนาคมของประชากรไทย พ.ศ. 2555-2556 ของสำนักงาน กสทช. ครั้งนี้ ทำให้สำนักงานได้รับทราบถึงข้อมูลพฤติกรรมการใช้บริการโทรคมนาคม รวมถึงแนวโน้มการใช้บริการ และปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการ เพื่อนำไปเป็นข้อมูลประกอบในการกำหนดและเสนอแนะกรอบนโยบายและการกำกับดูแลด้านการแข่งขันในการประกอบกิจการโทรคมนาคม การคุ้มครองผู้ใช้บริการโทรคมนาคม ตลอดจนด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง” เลขาธิการ กสทช. กล่าว
http://www.posttoday.com/%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C/263471/%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99
ไม่มีความคิดเห็น: