09 ธันวาคม 2556 กสทช. สั้งเขตทั้ง 14 เขต ทั่วประเทศส่งรถตรวจสอบและหาทิศทางสัญญาณรบกวน 20 คันออกตรวจคลื่นรบกวนช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคมจนกว่าจะมีคำสั่งให้หยุดดำเนินการ
ประเด็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ไทยคมได้ประสานและรายงานเรื่องการรบกวนของสัญญาณดังกล่าวต่อสำนักงาน กสทช. มาตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย.56 โดยสำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการตรวจสอบการส่งสัญญาณรบกวนดังกล่าว ได้สั่งการให้ไทยคม ตรวจสอบและรายงานให้สำนักงานทราบอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ยังพบว่า ยังมีการส่งคลื่นรบกวนอยู่ สำนักงานฯ จึงสั่งการให้สำนักงาน กสทช. เขตทั้ง 14 เขต ทั่วประเทศส่งรถตรวจสอบและหาทิศทางสัญญาณรบกวน 20 คันออกตรวจคลื่นรบกวนช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคมจนกว่าจะมีคำสั่งให้หยุดดำเนินการ
______________________________________
?กสทช.ขู่กวนสัญญาณไทยคมโทษถึงชีวิต?
กสทช.ส่งรถตรวจสอบสัญญาณ 14 เขต ทั่วประเทศ ตรวจคลื่นรบกวนช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม ขู่เอาผิดผู้ส่งสัญญาณรบกวนฝ่าฝืนโทษถึงประหารชีวิต
วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) กรณีมีผู้ส่งคลื่นรบกวนช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคมว่า การรบกวนดังกล่าวเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.56 จากการส่งสัญญาณคลื่นรบกวนช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม 5 ซึ่งให้เช่าช่องสัญญาณเพื่อให้บริการออกอากาศและแพร่ภาพแก่โทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเกือบ 20 ช่อง อาทิ ช่องเอเชียอัพเดท ช่องบลูสกาย
นอกจากนี้ ยังรวมถึงฟรีทีวีที่ออกอากาศให้รับชมผ่านระบบโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม (ช่อง 3, 5, 7, 9, ThaiPBS) โดยช่วงแรกของการรบกวน เป็นการส่งคลื่นสั้นๆ ขึ้นลงตลอด เมื่อตรวจสอบการรบกวนดังกล่าวพบว่า ไม่ได้มาจากแหล่งเดียวกัน เนื่องจากคลื่นที่กวนมีลักษณะแตกต่างกัน ทำให้การจับทิศทางของคลื่นที่รบกวนทำได้ยาก อุปกรณ์ที่ใช้ในการส่งคลื่นรบกวนนั้นสามารถทำได้จากทุกที่ทั้งในประเทศไทย และจากการส่งคลื่นมารบกวนจากต่างประเทศก็ทำได้ อาทิ ในประเทศเพื่อนบ้านส่งคลื่นเข้ามาก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ตอนนี้ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าใครเป็นผู้กระทำและกระทำมาจากพื้นที่ใด โดยการส่งสัญญาณรบกวนจะมีมากในช่วงหัวค่ำ ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่มีกิจกรรมการปราศรัย หรือแถลงทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ไทยคมได้ประสานและรายงานเรื่องการรบกวนของสัญญาณดังกล่าวต่อสำนักงาน กสทช. มาตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย.56 โดยสำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการตรวจสอบการส่งสัญญาณรบกวนดังกล่าว ได้สั่งการให้ไทยคม ตรวจสอบและรายงานให้สำนักงานทราบอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ยังพบว่า ยังมีการส่งคลื่นรบกวนอยู่ สำนักงานฯ จึงสั่งการให้สำนักงาน กสทช. เขตทั้ง 14 เขต ทั่วประเทศส่งรถตรวจสอบและหาทิศทางสัญญาณรบกวน 20 คันออกตรวจคลื่นรบกวนช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคมจนกว่าจะมีคำสั่งให้หยุดดำเนินการ
"หากตรวจสอบพบจะดำเนินการตามกฎหมายโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ประชาชนเกิดการเข้าใจผิดในสถานการณ์อันกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน และความมั่นคงของประเทศ และหากการกระทำนั้นสร้างความปั่นป่วน ทำให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน ย่อมเข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1 ที่บัญญัติให้ผู้ซึ่งกระทำการอันเป็นความผิดต่อกฎหมายก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ ระบบโทรคมนาคม" นายฐากร กล่าว
ทั้งนี้ จะต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 3 ปี-20 ปี และปรับตั้งแต่ 6 หมื่นบาท ถึง 1 ล้านบาท นอกจากความผิดที่มีอยู่แล้วตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 ที่กำหนดให้การกระทำดังกล่าวมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งหากการกระทำเช่นว่านั้นได้มี การนำเข้าหรือใช้เครื่องวิทยุคมนาคมหรือตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วยแล้ว ย่อมมีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติ
http://www.dailynews.co.th/Content/IT/200610/%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B8%8A.%E0%B8%82%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A9
ไม่มีความคิดเห็น: