12 ธันวาคม 2556 พฤติกรรมคนไทยเปลื่ยน!! คำสั่งซื้อการ์ดอวยพรในช่วงเทศกาลปีใหม่ลดลงมากถึง 20% พราะคนส่วนใหญ่ใช้การส่งข้อความผ่านอีการ์ดที่มีความสะดวก รวมถึงมีแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ในโทรศัพท์ที่สามารถใช้อวยพรปีใหม่แทนการส่งการ์ดแบบเดิม ๆ

ประเด็นหลัก


คำสั่งซื้อการ์ดอวยพรในช่วงเทศกาลปีใหม่ลดลงมากถึง 20% เพราะคนส่วนใหญ่ใช้การส่งข้อความผ่านอีการ์ดที่มีความสะดวก และไปถึงปลายทางรวดเร็วกว่า รวมถึงมีแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ในโทรศัพท์ที่สามารถใช้อวยพรปีใหม่แทนการส่งการ์ดแบบเดิม ๆ ได้เช่นเดียวกัน ส่วนสมุดบันทึก (Diary) ปีใหม่มียอดคำสั่งซื้อลดลงเช่นกัน มีผลมาจากการเติบโตของเทคโนโลยีและอุปกรณ์สื่อสารที่มีความสามารถมากมาย ทำให้คนมักจะบันทึกข้อความ หรือโน้ตแจ้งเตือนในสมาร์ทโฟน หรือแท็บเลต เพราะนอกจากสะดวกแล้วยังสามารถตั้งค่าเตือนได้ด้วย ดังนั้นจึงมีผลทำให้ในปีนี้ภาพรวมยอดคำสั่งซื้อไดอารี่ลดลง 15%

______________________________________


โซเชียลมีเดียทำธุรกิจสิ่งพิมพ์เดี้ยง ยอดสั่งพิมพ์การ์ด-ไดอารี่เทศกาลปีใหม่ร่วง15%


ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ธุรกิจสิ่งพิมพ์หนาว เหตุคนแห่ใช้โซเชียลแทน ส่งผลทำยอดขายการ์ด-ไดอารี่ปีใหม่ตกกว่า 15% ขณะที่ยอดบรรจุภัณฑ์อาหารสุดเฟื่อง ยอดซื้อพุ่งกว่า 20% เผยหวั่นสถานการณ์การเมืองในประเทศทำภาพรวมซบ

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานคลัสเตอร์การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษ ส.อ.ท. เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า โดยปกติช่วงปลายปีเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์อยู่ในช่วงที่มียอดพิมพ์สูงสุด เพราะมีคำสั่งซื้อสินค้าสูง ทำให้ต้องเร่งผลิต เพื่อให้สินค้าเสร็จทันส่งมอบลูกค้าตามกำหนด แต่ปีนี้กระแสของโซเชียลมีเดียส่งผลกระทบให้ยอด

คำสั่งซื้อการ์ดอวยพรในช่วงเทศกาลปีใหม่ลดลงมากถึง 20% เพราะคนส่วนใหญ่ใช้การส่งข้อความผ่านอีการ์ดที่มีความสะดวก และไปถึงปลายทางรวดเร็วกว่า รวมถึงมีแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ในโทรศัพท์ที่สามารถใช้อวยพรปีใหม่แทนการส่งการ์ดแบบเดิม ๆ ได้เช่นเดียวกัน ส่วนสมุดบันทึก (Diary) ปีใหม่มียอดคำสั่งซื้อลดลงเช่นกัน มีผลมาจากการเติบโตของเทคโนโลยีและอุปกรณ์สื่อสารที่มีความสามารถมากมาย ทำให้คนมักจะบันทึกข้อความ หรือโน้ตแจ้งเตือนในสมาร์ทโฟน หรือแท็บเลต เพราะนอกจากสะดวกแล้วยังสามารถตั้งค่าเตือนได้ด้วย ดังนั้นจึงมีผลทำให้ในปีนี้ภาพรวมยอดคำสั่งซื้อไดอารี่ลดลง 15%

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าคำสั่งซื้อการ์ดและไดอารี่จะลดลง แต่ปฏิทินและบรรจุภัณฑ์ของขวัญที่เป็นกระดาษกลับเติบโตขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากปฏิทินถือเป็นเครื่องมือโปรโมตองค์กรราคาถูก และใช้งานได้นานถึง 12 เดือน จึงทำให้ปฏิทินยังคงรักษาตลาดได้ดีพอ ๆ กับช่วงปีที่แล้ว

นายเกรียงไกรกล่าวต่อไปว่า สำหรับภาพรวมสินค้าที่ขายดีในกลุ่มสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ในปี 2556 จะเป็นพวกบรรจุภัณฑ์สินค้าอาหาร มีการผลิตเพิ่มขึ้นถึง 20% แต่ปัจจัยที่สนับสนุนให้กระดาษบรรจุภัณฑ์อาหารเติบโตต่อเนื่องคือ ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้เปลี่ยนไป รับประทานอาหารสำเร็จรูปมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษ นอกจากนี้มีบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง และน้ำหอมเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากคุณภาพงานพิมพ์ของกระดาษบรรจุภัณฑ์ไทยมีคุณภาพเทียบเท่ากับต่างประเทศ และเป็นที่ยอมรับในยุโรปบางประเทศด้วย

ปัจจุบันไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านการพิมพ์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของอาเซียน มีผู้สั่งซื้อรายใหญ่ เช่น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน และญี่ปุ่น เป็นต้น แต่ผู้ประกอบการมีความกังวลว่า เหตุการณ์ทางการเมืองที่มีปัญหาอยู่เรื่อย ๆ นั้นจะทำให้ชาวต่างชาติเริ่มวิตก และมองว่าเรื่องการเมืองเป็นปัจจัยเสี่ยงของประเทศไทย และสิ่งที่นักลงทุนจะลดความเสี่ยง คือการหาแหล่งผลิตในประเทศอื่น ๆ มาทดแทน จากเดิมที่บางรายสั่งสินค้าจากประเทศไทย 100% ก็อาจจะสั่งซื้อเพียง 60-70% แล้วที่เหลือก็ไปสั่งที่สิงคโปร์ หรือมาเลเซียแทน

"สำหรับปัญหาความไม่สงบทางการเมืองของไทยที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง อาจมีผลทำให้ต่างชาติที่สั่งซื้อสินค้าจากไทยหันไปซื้อจากประเทศเพื่อนบ้านแทน ซึ่งในเวลาที่เกิดภาวะทางการเมืองระยะสั้นอาจจะไม่ได้มีผลกระทบชัดเจน แต่จะกระทบในเรื่องของกำลังการผลิต เพราะว่างานพิมพ์ที่เป็นออร์เดอร์ในประเทศก็มีการสั่งกันล่วงหน้า 2-3 เดือน ส่วนถ้าออร์เดอร์สำหรับต่างประเทศก็ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปีก่อนหน้า เพราะฉะนั้นช่วงนี้ก็เป็นช่วงพีกที่กำลังการผลิตจะต้องวิ่งเต็มที่ ต้องผลิตทั้งวันทั้งคืน แต่พอเกิดสถานการณ์ที่ไม่สงบ มีความรุนแรงเกิดขึ้น ทำให้สถานประกอบการหลาย ๆ แห่งซึ่งอยู่ใกล้บริเวณที่มีการชุมนุมต้องหยุดการทำงาน หรือแม้กระทั่งกะกลางคืนไม่สามารถทำงานได้ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้งานทั้งในประเทศและที่ต้องส่งออกดีเลย์ การส่งมอบอาจไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้"


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1386820926