19 ธันวาคม 2556 Intel ระบุ แม้"โมบาย ดีไวซ์" ทำตลาดเปลี่ยนเครื่องใหม่ช้าลง แต่ยังหวังกลับมาคึกคักภายใน 1-2 ปี โดย"อินเทล" ดันพีซี ไฮบริด ลูกผสมแทบเล็ต-โน๊ตบุ๊ค
ประเด็นหลัก
สนธิญา หนูจีนเส้ง ผู้อำนวยการฝ่ายขายและพัฒนาธุรกิจ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด และปฐม อินทโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานคอมมาร์ต ร่วมกันวิเคราะห์จุดจบยุคพีซีจริงหรือ หัวข้อ "จุดเปลี่ยนเทคโนโลยี อวสาน PCs" ในรายการ Business Talk ทาง"กรุงเทพธุรกิจทีวี"
อุตสาหกรรมพีซีที่ซบเซาไประยะหนึ่งจากการเข้ามาครองตลาดของแทบเล็ต - สมาร์ทโฟน แต่อุตสาหกรรมยังไม่หมดหวังสู่ยุคอวสานพีซีสมบูรณ์แบบ แม้"โมบาย ดีไวซ์" ทำตลาดเปลี่ยนเครื่องใหม่ช้าลง แต่ยังหวังกลับมาคึกคักภายใน 1-2 ปี โดย"อินเทล" ดันพีซี ไฮบริด ลูกผสมแทบเล็ต-โน๊ตบุ๊ค รับเทรนด์ตลาดเปลี่ยน ส่วน "คอมมาร์ต" เชื่อผู้ซื้อยังยึดอารมณ์มากกว่าเหตุผล หนุนพีซีสร้างความแข็งแกร่งแบรนด์มากกว่าสงครามราคา
______________________________________
'ไอที'หวังอีก1-2ปีอุตฯหวนคึกคัก
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ผู้ประกอบการไอทีคาดหวังภายใน 1-2 ปี ภาพรวมอุตสาหกรรมกลับเข้าสู่ความคึกคัก พีซีไฮบริดรับเทรนด์ตลาดเปลี่ยน
สนธิญา หนูจีนเส้ง ผู้อำนวยการฝ่ายขายและพัฒนาธุรกิจ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด และปฐม อินทโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานคอมมาร์ต ร่วมกันวิเคราะห์จุดจบยุคพีซีจริงหรือ หัวข้อ "จุดเปลี่ยนเทคโนโลยี อวสาน PCs" ในรายการ Business Talk ทาง"กรุงเทพธุรกิจทีวี"
อุตสาหกรรมพีซีที่ซบเซาไประยะหนึ่งจากการเข้ามาครองตลาดของแทบเล็ต - สมาร์ทโฟน แต่อุตสาหกรรมยังไม่หมดหวังสู่ยุคอวสานพีซีสมบูรณ์แบบ แม้"โมบาย ดีไวซ์" ทำตลาดเปลี่ยนเครื่องใหม่ช้าลง แต่ยังหวังกลับมาคึกคักภายใน 1-2 ปี โดย"อินเทล" ดันพีซี ไฮบริด ลูกผสมแทบเล็ต-โน๊ตบุ๊ค รับเทรนด์ตลาดเปลี่ยน ส่วน "คอมมาร์ต" เชื่อผู้ซื้อยังยึดอารมณ์มากกว่าเหตุผล หนุนพีซีสร้างความแข็งแกร่งแบรนด์มากกว่าสงครามราคา
สนธิญา บอกว่า ตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) โดยเฉพาะกลุ่มโน๊ตบุ๊คที่ทรุดตัวอย่างต่อเนื่องหลายไตรมาสติดต่อกันคาดว่าจะเริ่มกลับมาคึกคักได้อีกครั้งภายใน 1-2 ปีจากนี้ จากความต้องการเปลี่ยนเครื่องใหม่ของผู้ใช้งานทั่วไป รวมถึงผู้ใช้งานในองค์กรที่จำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องเพื่อรองรับซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นใหม่และอายุการใช้งานเครื่องที่ถึงเวลาต้องเปลี่ยน
นอกจากนี้ยังเป็นผลจากการปรับตัวของผู้ผลิตและผู้ค้าที่ปรับปรุงคุณสมบัติพีซีให้เปลี่ยนแปลงจากเดิมหรือได้คุณสมบัติที่ดีขึ้นในราคาเดิม ซึ่งคาดว่า เฉลี่ยพีซีที่ซื้อปัจจุบันจะมีประสิทธิภาพดีกว่ารุ่นที่เคยซื้อเมื่อ 2-3 ปีก่อนอย่างน้อย 30% เมื่อเทียบในราคาที่เท่ากัน
เติบโตลดแต่ตลาดใหญ่
ในมุมอินเทลยอมรับว่า แม้ตลาดพีซีปัจจุบันจะเติบโตลดลง แต่ด้วยยอดขายทั่วโลกที่ยังอยู่ระดับ 300 ล้านเครื่องต่อปีถือว่าเป็นตลาดใหญ่สำหรับพีซี ซึ่งช่วงนี้เป็นจังหวะที่ผู้บริโภคหันไปให้ความสนใจกับสมาร์ท ดีไวซ์ที่เน้นความสะดวกในการพกพา เช่น สมาร์ทโฟน และแทบเล็ตมากกว่า ทำให้ความเร็วในการเปลี่ยนเครื่องช้าลง แต่ยังเป็นอุปกรณ์ที่จะไม่หายไปจากตลาด เพราะพีซียังเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับการทำงานแบบฟูลฟังก์ชั่นมากกว่าหรือเหมาะสำหรับการสร้างคอนเทนท์ต่างๆ ขณะที่สมาร์ทโฟนและแทบเล็ตเหมาะสำหรับการคอนซูมเป็นหลัก
"ความเร็วในการเปลี่ยนเครื่องใหม่ช้าลงทำให้ตลาดดูเหมือนตกลง ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ามันลดลงเพราะแทนที่เครื่องใหม่จะเป็นเดสก์ทอปหรือโน้ตบุ๊คเหมือนเดิม แต่กลับมีตัวเลือก เช่น สมาร์ท ดีไวซ์ เข้ามาแทน ซึ่งในตลาดโลกยอดขายพีซีกว่า 300 ล้านเครื่อง ส่วนสมาร์ท ดีไวซ์ราว 2,400 ล้านเครื่องง แต่ก็ยังถือว่าพีซียังเป็นตลาดใหญ่อยู่เหมือนกัน"
อุตสาหกรรมปรับตัว
อย่างไรก็ตามผู้ผลิตในอุตสาหกรรมพีซีก็พยายามปรับตัว ซึ่งถือเป็นพัฒนาการของพีซีที่ไม่จำกัดรูปแบบจอและคีย์บอร์ดเท่านั้น แต่เริ่มปรับเปลี่ยนให้มีการทำงานที่หลากหลายฟังก์ชั่นมากขึ้น เช่น ลูกผสมระหว่างโน๊ตบุ๊คและแทบเล็ต หรือ 2 อิน 1 (ไฮบริด) ใช้จอทัชสกรีน มีระบบสั่งงานด้วยเสียง ที่คาดว่าจะเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมแพร่หลายในปี 2557 จากจำนวนสินค้าที่จะมีให้เลือกมากขึ้นและราคาที่ตลาดแมสเข้าถึงได้
ปฐม มองตลาดพีซีช่วงนี้อยู่ในจังหวะที่ไม่สมดุลจากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะ "ว้าว แฟคเตอร์" ที่ไม่มีสิ่งดึงดูดใจผู้ซื้่อประกอบกับกระแสของสมาร์ท ดีไวซ์ที่แรงกว่า แต่จากการสำรวจตลาดพบว่า พฤติกรรมผู้ซื้อยุคนี้ 60-70% ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลในการซื้อ ซึ่งแม้โมบายจะมาแรงแต่ก็จะมีแบรนด์เพียงไม่กี่แบรนด์ที่มียอดขายได้เพราะคนเชื่อมั่นกับแบรนด์และความถูกใจมากกว่าจะซื้อเพราะคุณสมบัติของอุปกรณ์เหมือนที่ผ่านๆมา
ขณะที่สถานการณ์ตลาดปัจจุบัน เช่น ในงานคอมมาร์ตที่จะเห็นการทำสงครามราคากันดุเดือด แต่ก็จะพบว่าราคายังไม่ใช่คำตอบสุดท้ายที่แต่ละแบรนด์จะทำยอดขายได้ดี ส่วนผู้ซื้อก็ยังอยู่ในช่วงสับสนและปรับตัวไม่ทัน ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาระยะหนึ่งผู้ซื้อก็จะเริ่มเข้าใจว่าอุปกรณ์ประเภทใดที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์หรือการใช้งานจริง
"ปัจจัยการซื้อทุกวันนี้ส่วนใหญ่อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล แม้จะเอาราคามาสู้กันก็ใช่ว่าคนจะซื้อ ดังนั้นตลาดพีซีอาจต้องหันมาจับพรีเมี่ยม เช่น พีซีสำหรับเกม ที่ยังมีกลุ่มที่ต้องการเครื่องสเปคสูงๆ โดยที่ไม่สนราคา เช่น ตลาดการแข่งขันเกม หรืองานออกแบบ"
ปี 2557 ดีขึ้นจากไฮบริด
นอกจากนี้ยังคาดว่า ตลาดพีซีในไทยปี 2557 จะปรับตัวดีขึ้นจากการหนีตายของพีซีที่กลายมาเป็นสินค้าไฮบริด และราคาที่จะลดลงมาเป็นจริงได้มากขึ้น หรือจากหลัก 4-5 หมื่นบาทเหลือหลักหมื่นต้นๆ ก็เป็นเจ้าของได้
ทั้งนี้ คาดการณ์ยอดขายพีซีรวมในตลาดไทยปีนี้ราว 3.5 ล้านเครื่อง ปรับลดจากต้นปีที่คาดว่าจะมียอดขายรวมราว 3.9 ล้านเครื่อง เทียบกับปีก่อนหน้า (2555) ยอดขายพีซีรวมในไทยอยู่ที่ 3.8 ล้านเครื่อง ส่วนภาพรวมตลาดไอทีปีนี้คาดว่าจะตกลงราว 9%
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20131219/550761/%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%811-2%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%AF%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%81.html
ไม่มีความคิดเห็น: