22 ธันวาคม 2556 กสทช.สุทธิพล ระบุปี 56 เป็นทองแห่งโทรคมนาคม ลดค่ายย้ายค่าย 29 บาท // ระบบเติมเงิน สะสมอย่างน้อย 30 วัน และสามารถสะสมได้ถึง 365 วัน // ป้องกัน SIM ดับ // อัตราค่าเชื่อมต่อโครงข่าย 1 บาท ให้ลดลงมาอยู่ที่ 45 สตางค์
ประเด็นหลัก
นอกจากนี้ ยังได้ออกประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการโทรคมนาคมในกรณีสิ้นสุดอายุการอนุญาตสัมปทาน หรือสัญญาประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2556 หรือ “ประกาศห้ามซิมดับ” โดยการอุดช่องโหว่ของ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 ที่มีอยู่ระหว่างรอยต่อของการสิ้นสุดสัญญาสัมปทานคลื่น 1800 MHz ส่งผลทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการระบบ 2 จี ที่อยู่ในคลื่น 1800 MHz กับการอนุญาตให้ใช้คลื่นฯ สามารถใช้บริการได้โดยไม่สะดุดและมีเวลาในการย้ายเครือข่ายไปสู่ระบบใหม่ได้อย่างราบรื่นภายในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งทำให้สามารถข้ามผ่านวิกฤตการณ์สภาวะ “ซิมดับ”มาได้เป็นผลสำเร็จ รวมถึงการผลักดันให้มีการลดอัตราค่าธรรมเนียมการคงสิทธิเลขหมาย จากเดิมมีค่าธรรมเนียม 99 บาท ให้เหลือเพียง 29 บาท รวมทั้งการกำกับดูแลมาตรฐานการให้บริการในระบบ 3 จี อย่างมีประสิทธิภาพ โดย กทค. ได้ลงพื้นที่สุ่มตรวจสัญญาณการให้บริการ 3 จี ด้วยรถไดร์ฟเทสอย่างต่อเนื่อ′
นายสุทธิพลกล่าวว่า กทค. ยังได้ริเริ่มให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการการมีส่วนร่วมในกิจการโทรคมนาคม เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในการออกกฎ กติกา ต่าง ๆ รวมไปถึงการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะในกิจการโทรคมนาคมอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกของประเทศไทย โดยนำกระบวนการการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนมาใช้กับกระบวนการจัดประมูลคลื่น 1800 MHz นอกจากนี้ ยังได้กำหนดอัตราการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมชั่วคราวในกรณีใบอนุญาต 3จี จากเดิมที่มีอัตราค่าเชื่อมต่อโครงข่าย 1 บาท ให้ลดลงมาอยู่ที่ 45 สตางค์ ทำให้การเชื่อมต่อโครงข่ายของค่ายมือถือต่างๆมีต้นทุนที่ถูกลง และส่งผลทำให้ค่าใช้บริการของผู้บริโภคถูกลงตามไปด้วย โดยปัจจุบันนี้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายได้ตกลงร่วมกันที่จะใช้อัตรา 45 สตางค์เป็นอัตรากลางในการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม รวมทั้งยังได้ออกประกาศ กสทช. เรื่อง การใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ.2556 โดยมีผลบังคับใช้ไปแล้ว เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2556 ส่งผลให้มีการพลิกโฉมกติกาการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมจนสามารถก้าวทันการพัฒนาเทคโนโลยีในปัจจุบันได้
______________________________________
กทค.ชี้ปี 2556 ถือเป็นปีทองแห่งการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า ในปี 2556 กทค. ได้ขับเคลื่อนกิจการโทรคมนาคม ภายใต้แนวทาง “ปีทองแห่งการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม” ทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน เช่น สามารถแก้ไขปัญหาบัตรเติมเงิน (พรีเพด) ด้วยการกำหนดเงื่อนไขมาตรฐานขั้นต่ำ ในการคุ้มครองผู้บริโภคว่าในการเติมเงินทุกมูลค่าทุกโปรโมชั่นต้องได้วันสะสมอย่างน้อย 30 วัน และสามารถสะสมได้ถึง 365 วัน
นอกจากนี้ ยังได้ออกประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการโทรคมนาคมในกรณีสิ้นสุดอายุการอนุญาตสัมปทาน หรือสัญญาประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2556 หรือ “ประกาศห้ามซิมดับ” โดยการอุดช่องโหว่ของ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 ที่มีอยู่ระหว่างรอยต่อของการสิ้นสุดสัญญาสัมปทานคลื่น 1800 MHz ส่งผลทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการระบบ 2 จี ที่อยู่ในคลื่น 1800 MHz กับการอนุญาตให้ใช้คลื่นฯ สามารถใช้บริการได้โดยไม่สะดุดและมีเวลาในการย้ายเครือข่ายไปสู่ระบบใหม่ได้อย่างราบรื่นภายในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งทำให้สามารถข้ามผ่านวิกฤตการณ์สภาวะ “ซิมดับ”มาได้เป็นผลสำเร็จ รวมถึงการผลักดันให้มีการลดอัตราค่าธรรมเนียมการคงสิทธิเลขหมาย จากเดิมมีค่าธรรมเนียม 99 บาท ให้เหลือเพียง 29 บาท รวมทั้งการกำกับดูแลมาตรฐานการให้บริการในระบบ 3 จี อย่างมีประสิทธิภาพ โดย กทค. ได้ลงพื้นที่สุ่มตรวจสัญญาณการให้บริการ 3 จี ด้วยรถไดร์ฟเทสอย่างต่อเนื่อ′
นายสุทธิพลกล่าวว่า กทค. ยังได้ริเริ่มให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการการมีส่วนร่วมในกิจการโทรคมนาคม เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในการออกกฎ กติกา ต่าง ๆ รวมไปถึงการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะในกิจการโทรคมนาคมอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกของประเทศไทย โดยนำกระบวนการการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนมาใช้กับกระบวนการจัดประมูลคลื่น 1800 MHz นอกจากนี้ ยังได้กำหนดอัตราการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมชั่วคราวในกรณีใบอนุญาต 3จี จากเดิมที่มีอัตราค่าเชื่อมต่อโครงข่าย 1 บาท ให้ลดลงมาอยู่ที่ 45 สตางค์ ทำให้การเชื่อมต่อโครงข่ายของค่ายมือถือต่างๆมีต้นทุนที่ถูกลง และส่งผลทำให้ค่าใช้บริการของผู้บริโภคถูกลงตามไปด้วย โดยปัจจุบันนี้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายได้ตกลงร่วมกันที่จะใช้อัตรา 45 สตางค์เป็นอัตรากลางในการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม รวมทั้งยังได้ออกประกาศ กสทช. เรื่อง การใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ.2556 โดยมีผลบังคับใช้ไปแล้ว เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2556 ส่งผลให้มีการพลิกโฉมกติกาการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมจนสามารถก้าวทันการพัฒนาเทคโนโลยีในปัจจุบันได้
ที่มา : มติชนออนไลน์
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1387446267
ไม่มีความคิดเห็น: