26 ธันวาคม 2556 (เกาะติดประมูลDigital TV) คาดต้นทุนช่องHD เดือนละ41ล้านบาทต่อเดือนเพิ่มจากราคาประมูล เกิดจากค่าเช่าโครงข่าย/ค่าเช่าดาวเทียมทั้ง C BANDและ KU BAND ค่าธรรมเนียมต่างๆอีก
ประเด็นหลัก
ตัวอย่าง พิจารณาจากผู้เสนอราคาสูงสุดคือช่อง 3 ราคาอยู่ที่ 3,530 ล้านบาท อายุใบอนุญาต 15 ปี ตกปีละ 235.33 ล้านบาท หรือ 19.6 ล้านบาท/เดือน และต้องเสียค่าเช่าโครงข่าย (Mux) แบบ HD ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกโครงข่ายเจ้าใด แต่มีราคาเฉลี่ยที่ 14 ล้านบาท/เดือน อีกทั้งยังมีค่าเช่าสัญญาณดาวเทียมทั้งซีแบนด์และเคยูแบนด์ อีก 8 ล้านบาท/เดือน แต่ช่วงแรกอาจเช่าเฉพาะออกอากาศแบบปกติหรือ standard ก่อน ค่าเช่าจะถูกลง ตรงนี้ขึ้นกับการบริหารต้นทุนของผู้ประกอบการแต่ละราย
นอกจากนี้ ผู้ชนะการประมูลยังต้องเสียค่าธรรมเนียมอีก 2% ของรายได้ต่อปี และจ่ายเงินเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. อีก 2% ของรายได้
ดังนั้น ต้นทุนดำเนินการของผู้ชนะการประมูลทีวีดิจิตอลแบบทั่วไป ความคมชัดสูง ที่เสนอราคาสูงสุดในครั้งนี้ จะอยู่ที่เดือนละ 41 ล้านบาท ยังไม่รวมกับอีก 4% ของรายได้ในแต่ละปี.
______________________________________
คาดต้นทุนช่องHD เดือนละ41ล้านบาท
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. การเสนอราคาประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตอล สำหรับช่องรายการทั่วไป ประเภทความคมชัดสูง หรือ ช่อง HD ได้ผู้มีสิทธิ์ได้รับใบอนุญาตทั้ง 7 รายแล้ว...
1. บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ของช่อง 3 เป็นผู้เสนอราคาสูงสุดที่ 3,530 ล้านบาท
2. บริษัท บางกอกมีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด จากตระกูลปราสาททองโอสถ เสนอราคา 3,460 ล้านบาท
3. บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด เจ้าของสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 เสนอราคา 3,370 ล้านบาท
4. บริษัท ทริปเปิลวี บรอดคาสท์ จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี เสนอราคา 3,360 ล้านบาท
5. บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เสนอราคา 3,340 ล้านบาท
ส่วนอันดับ 6. ร่วมมี 2 บริษัท คือบริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด และบริษัท จีเอ็มเอ็ม เอชดี ดิจิทัล ทีวี จำกัด ในเครือแกรมมี่ เสนอราคาเท่ากันที่ 3,320 ล้านบาท
ราคาใบอนุญาตที่เสนอได้ ยังต้องรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ จึงจะเป็นต้นทุนในการดำเนินการช่องทีวีดิจิตอลความคมชัดสูง HD
ตัวอย่าง พิจารณาจากผู้เสนอราคาสูงสุดคือช่อง 3 ราคาอยู่ที่ 3,530 ล้านบาท อายุใบอนุญาต 15 ปี ตกปีละ 235.33 ล้านบาท หรือ 19.6 ล้านบาท/เดือน และต้องเสียค่าเช่าโครงข่าย (Mux) แบบ HD ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกโครงข่ายเจ้าใด แต่มีราคาเฉลี่ยที่ 14 ล้านบาท/เดือน อีกทั้งยังมีค่าเช่าสัญญาณดาวเทียมทั้งซีแบนด์และเคยูแบนด์ อีก 8 ล้านบาท/เดือน แต่ช่วงแรกอาจเช่าเฉพาะออกอากาศแบบปกติหรือ standard ก่อน ค่าเช่าจะถูกลง ตรงนี้ขึ้นกับการบริหารต้นทุนของผู้ประกอบการแต่ละราย
นอกจากนี้ ผู้ชนะการประมูลยังต้องเสียค่าธรรมเนียมอีก 2% ของรายได้ต่อปี และจ่ายเงินเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. อีก 2% ของรายได้
ดังนั้น ต้นทุนดำเนินการของผู้ชนะการประมูลทีวีดิจิตอลแบบทั่วไป ความคมชัดสูง ที่เสนอราคาสูงสุดในครั้งนี้ จะอยู่ที่เดือนละ 41 ล้านบาท ยังไม่รวมกับอีก 4% ของรายได้ในแต่ละปี.
โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/392074
ไม่มีความคิดเห็น: