Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

30 ธันวาคม 2556 (เกาะติดประมูลDigital TV) กสทช.นที การประมูลทีวีดิจิทัลประเภทช่องวาไรตี้ เอชดีและเอสดี ผู้ชนะประมูล 80% เป็นผู้ประกอบการรายใหม่ที่เข้าสู่อุตสาหกรรมโทรทัศน์ฟรีทีวีดิจิทัล


ประเด็นหลัก

พ.อ.นที กล่าวว่า การประมูลทีวีดิจิทัลทั้ง 2 วันที่ผ่านมา ยังไม่มีผู้ร้องเรียน ส่วนการประมูลช่องวาไรตี้ เอสดี ที่เสนอราคาสูงกว่าราคาขั้นต้น เนื่องจากผู้ประกอบการมองว่ากิจการโทรทัศน์ที่กำลังเปลี่ยนจากยุคอนาล็อกสู่ยุคดิจิทัล เป็นกิจการที่มีโอกาสเติบโตสูง

"ราคาประมูลทั้งช่องวาไรตี้เอชดีและเอสดี ที่มีการแข่งขันสูง สะท้อนจากมุมมองต่ออุตสาหกรรมโทรทัศน์ที่ไม่เหมือนกัน เชื่อว่าผู้ประมูลไม่ได้เคาะด้วยความสนุก แต่มั่นใจแล้วว่าราคาที่เสนอประมูล ประกอบกิจการและอยู่รอดได้"

การประมูลช่องเอชดี ซึ่งราคาเพิ่มขึ้นจากราคาขั้นต้นเท่าตัว เกินกว่า กสทช. ประเมินไว้ว่าราคาน่าจะอยู่ที่ช่องละ 2,500-3,000 ล้านบาท ส่วนช่องวาไรตี้ เอสดี ราคาประมูลเกินคาดการณ์เพียง 10-15%

ขณะที่ช่องข่าวและเด็กมีการเสนอราคาแข่งขันน้อยกว่า เนื่องจากมีเงื่อนไขด้านการนำเสนอรายการในกลุ่มข่าวและสาระเป็นหลัก

การประมูลทีวีดิจิทัลประเภทช่องวาไรตี้ เอชดีและเอสดี ผู้ชนะประมูล 80% เป็นผู้ประกอบการรายใหม่ที่เข้าสู่อุตสาหกรรมโทรทัศน์ฟรีทีวีดิจิทัล โดยมีผู้ประกอบการฟรีทีวี รายเดิมเพียง 20% ที่ชนะการประมูล ขณะที่ช่องข่าวผู้ที่ชนะเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ทั้งสิ้น จะทำให้เพิ่มความหลากหลายด้านช่องรายการ


______________________________________

ประมูล'ทีวีดิจิทัล'กสทช.รับกว่า5หมื่นล้าน

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


ประมูลทีวีดิจิทัล24ช่องมูลค่ารวม50,862ล้านบาท พุ่ง234%จากราคาขั้นต้น เตรียมรับรองรายชื่อผู้ชนะประมูลใน15วัน"เนชั่น"คว้า2ช่อง"ข่าว-วาไรตี้


คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดประมูลโทรทัศน์ระบบดิจิทัล (ทีวีดิจิทัล) รวม 4 ประเภท 24 ช่อง ประกอบด้วย ช่องเอชดี 7 ช่อง, ช่องวาไรตี้ เอสดี 7 ช่อง, ช่องข่าว 7 ช่อง และ ช่องเด็ก 3 ช่อง ระหว่างวันที่ 26-27 ธ.ค. ที่ผ่านมา เป็นการประมูลคลื่นความถี่โทรทัศน์ระบบดิจิทัล ระดับชาติ ภายใต้ใบอนุญาต 15 ปี ครั้งแรกในรอบ 58 ปีของอุตสาหกรรมโทรทัศน์ไทย

ช่องเอชดี กำหนดราคาขั้นต้นประมูลช่องละ 1,510 ล้านบาท รวม 7 ช่อง มีมูลค่า 10,570 ล้านบาท มูลค่าการประมูลรวม 23,700 ล้านบาท, ช่องวาไรตี้ เอสดี กำหนดราคาขั้นต้นช่องละ 380 ล้านบาท รวม 7 ช่อง มีมูลค่า 2,660 ล้านบาท มูลค่าการประมูล 15,950 ล้านบาท, ช่องข่าว กำหนดราคาขั้นต้นช่องละ 220 ล้านบาท รวม 7 ช่อง มีมูลค่ารวม 1,540 ล้านบาท มูลค่าการประมูลรวม 9,238 และ ช่องเด็ก 3 ช่อง กำหนดราคาขั้นต้นช่องละ 140 ล้านบาท รวมมูลค่า 420 ล้านบาท มูลค่าประมูล 1,974 ล้านบาท

รวมมูลค่าราคาตั้งต้นประมูลทีวีดิจิทัล 4 ประเภท 24 ช่อง มีมูลค่า 15,190 ล้านบาท มูลค่าประมูลอยู่ที่ 50,862 ล้านบาท คิดเป็นอัตราราคาการประมูลเพิ่มขึ้น 234%

เตรียมรับรองผลทีวีดิจิทัล ใน 15 วัน

พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า การประมูลคลื่นความถี่โทรทัศน์ระบบดิจิทัล (ทีวีดิจิทัล) รวม 24 ช่อง 4 ประเภท มีมูลค่าประมูลรวม 50,862 ล้านบาท โดยบอร์ด กสท.จะพิจารณารับรองรายชื่อผู้ชนะการประมูลภายใน 15 วัน หลังจากนี้

เงินประมูลทั้งหมดจะนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาสื่อฯ โดยแบ่งเงินที่กำหนดเป็นราคาขั้นต้นประมูลรวม 15,190 ล้านบาท จัดสรรเป็น "คูปองส่วนลด" ให้ 22 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ ซื้ออุปกรณ์รับชมทีวีดิจิทัล คาดพิจารณาแจกคูปองเดือนก.พ.-มี.ค. 2557

"เนชั่น"คว้าอันดับหนึ่งช่องข่าว

วานนี้ (27 ธ.ค.) กสทช. จัดประมูลทีวีดิจิทัล เป็นวันที่ 2 โดยช่วงเช้า 09.30-12.30 น. เป็นการประมูลประเภทช่องข่าว 7 ช่อง ราคาขั้นต้นช่องละ 220 ล้านบาท เคาะราคาครั้งละ 2 ล้านบาท มีผู้เข้าประมูล 10 ราย

ทั้งนี้ ผู้ชนะการประมูลทีวีดิจิทัลช่องข่าว ประกอบด้วย 1.เครือเนชั่น 1,338 ล้านบาท 2.วอยซ์ทีวี 1,330 ล้านบาท 3. ทีวีพูล 1,328 ล้านบาท 4.สปริงนิวส์ 1,318 ล้านบาท 5.ทรู (ทีเอ็นอ็น) 1,316 ล้านบาท 6.เดลินิวส์ 1,310 ล้านบาท 7. บริษัท 3 เอ.มาร์เก็ตติ้ง (ผู้ร่วมผลิตข่าวช่อง 5) 1,298 ล้านบาท

สำหรับราคาตั้งต้นประมูลข่าว 7 ช่องมูลค่ารวมอยู่ที่ 1,540 ล้านบาท ส่วนมูลค่าประมูลช่องข่าวรวม 9,238 ล้านบาท

เนชั่นวางเป้าเบอร์หนึ่งช่องข่าว

นายสุทธิชัย หยุ่น ประธานกรรมการ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป กล่าวว่า เครือเนชั่น มีเป้าหมายประมูลชนะช่องข่าว จึงได้เคาะเสนอราคาอยู่ในกลุ่มผู้นำซึ่งมีการแข่งขันต่อเนื่อง ต่างจากช่องวาไรตี้เอชดีและเอสดี ที่เสนอราคาช่วงแรกและช่วงสุดท้าย

การชนะประมูลช่องข่าวอันดับหนึ่ง เป็นความตั้งใจของเครือเนชั่น ในการบริหารช่องข่าวฟรีทีวีดิจิทัล มีความพร้อมในการบริหารช่องข่าว "เนชั่น แชนแนล" มากกว่า 12-13 ปี มีความพร้อมด้านบุคลากร เพื่อนำเสนอคอนเทนท์ผ่านรูปแบบสื่อมัลติมีเดีย หลังจากได้รับรองการเป็นผู้ชนะประมูลทีวีดิจิทัลช่องข่าว และได้รับใบอนุญาต จะนำช่องเนชั่น แชนแนล ไปออกอากาศบนแพลตฟอร์มทีวีดิจิทัล ช่องข่าว

"การประมูลชนะทีวีดิจิทัล ช่องข่าวอันดับหนึ่ง สอดคล้องกับเป้าหมายการบริหารทีวีดิจิทัล ช่องข่าว ที่ต้องการเป็นผู้นำสถานีข่าวตั้งแต่วันแรกที่ออกอากาศ หรือ Number One from Day One"

ขณะที่การบริหารทีวีดิจิทัล วาไรตี้ เอสดี วางเป้าหมายบริหารช่องรายการในรูปแบบ "สาระบันเทิง" พร้อมเปิดโอกาสการทำงานร่วมกับผู้ผลิตคอนเทนท์ สาระบันเทิงทุกราย ภายใต้กรอบประกาศหลักเกณฑ์ที่ กสทช.กำหนด

หลังจากได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิทัล 2 ช่อง จาก กสทช. ภายใน 5 ปี กลุ่มสื่อโทรทัศน์จะเป็นรายได้หลักของเครือเนชั่น โดยมี 4 ธุรกิจที่จะเติบโตไปพร้อมกัน คือ โทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ นิวมีเดีย และ การศึกษา

ชี้ทิศสื่อทีวีโอกาสโตสูง

พ.อ.นที กล่าวว่า การประมูลทีวีดิจิทัลทั้ง 2 วันที่ผ่านมา ยังไม่มีผู้ร้องเรียน ส่วนการประมูลช่องวาไรตี้ เอสดี ที่เสนอราคาสูงกว่าราคาขั้นต้น เนื่องจากผู้ประกอบการมองว่ากิจการโทรทัศน์ที่กำลังเปลี่ยนจากยุคอนาล็อกสู่ยุคดิจิทัล เป็นกิจการที่มีโอกาสเติบโตสูง

"ราคาประมูลทั้งช่องวาไรตี้เอชดีและเอสดี ที่มีการแข่งขันสูง สะท้อนจากมุมมองต่ออุตสาหกรรมโทรทัศน์ที่ไม่เหมือนกัน เชื่อว่าผู้ประมูลไม่ได้เคาะด้วยความสนุก แต่มั่นใจแล้วว่าราคาที่เสนอประมูล ประกอบกิจการและอยู่รอดได้"

การประมูลช่องเอชดี ซึ่งราคาเพิ่มขึ้นจากราคาขั้นต้นเท่าตัว เกินกว่า กสทช. ประเมินไว้ว่าราคาน่าจะอยู่ที่ช่องละ 2,500-3,000 ล้านบาท ส่วนช่องวาไรตี้ เอสดี ราคาประมูลเกินคาดการณ์เพียง 10-15%

ขณะที่ช่องข่าวและเด็กมีการเสนอราคาแข่งขันน้อยกว่า เนื่องจากมีเงื่อนไขด้านการนำเสนอรายการในกลุ่มข่าวและสาระเป็นหลัก

การประมูลทีวีดิจิทัลประเภทช่องวาไรตี้ เอชดีและเอสดี ผู้ชนะประมูล 80% เป็นผู้ประกอบการรายใหม่ที่เข้าสู่อุตสาหกรรมโทรทัศน์ฟรีทีวีดิจิทัล โดยมีผู้ประกอบการฟรีทีวี รายเดิมเพียง 20% ที่ชนะการประมูล ขณะที่ช่องข่าวผู้ที่ชนะเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ทั้งสิ้น จะทำให้เพิ่มความหลากหลายด้านช่องรายการ

ช่องข่าวเคาะราคาต่อเนื่อง

สำหรับลักษณะการเสนอราคาประมูลทีวีดิจิทัล ช่องข่าว ช่วง 5 นาทีแรก มีการเสนอราคาอย่างต่อเนื่องจนราคาเกินกว่าราคาขั้นต้น "เท่าตัว" จากนั้นช่วง 20 นาทีแรกผู้เข้าประมูลทั้ง 10 ราย ซึ่งมีลักษณะการเสนอราคาแบบเกาะกลุ่ม ได้เสนอราคาประมูลเกิน 1,000 ล้านบาททุกราย แต่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายมีการเคาะเสนอราคาอย่างต่อเนื่องจนสิ้นสุดเวลาประมูล

"ช่องเด็ก"ราคาเพิ่ม 370%

ขณะที่การเสนอราคาช่องเด็กช่วงบ่ายในเวลา 15.30-16.30 น. การเสนอราคาในช่วง 5 นาทีแรก มีการแข่งขันเคาะราคาต่อเนื่อง และเกินราคาขั้นต้น"เท่าตัว" หลังจากผ่าน 20 นาทีแรกมีการหยุดเสนอราคา

การประมูลช่องเด็ก 3 ช่อง ราคาขั้นต้นช่องละ 140 ล้านบาท เคาะเสนอราคาเพิ่มครั้งละ 2 ล้านบาท

ผู้ชนะประมูลช่องเด็ก 3 ราย ประกอบด้วย 1.ช่อง 3 ราคา 666 ล้านบาท 2.อสมท ราคา 660 ล้านบาท และ ทีวีพูล ราคา 648 ล้านบาท รวมมูลค่า 1,974 ล้านบาท ราคาประมูลสูงกว่าราคาขั้นต้น 370%

ช่อง3คว้าสูงสุด 3 ช่อง

การประมูลทีวีดิจิทัล 2 วัน จำนวน 24 ช่อง มี 17 กลุ่มธุรกิจชนะประมูลช่องทีวีดิจิทัล ผู้ชนะประมูล 3 ช่อง มี 1 รายคือช่อง 3 รวมมูลค่า 6,471 ล้านบาท ผู้ชนะประมูล 2 ช่อง มี 5 ราย คือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, เครือเนชั่น, อสมท, ทรู และ ทีวีพูล

ผู้ชนะประมูล 1 ช่อง มี 11 ราย คือ วอยซ์ทีวี, เดลินิวส์ทีวี, 3เอ.มาร์เก็ตติ้ง, สปริงนิวส์, โมโน กรุ๊ป, ช่อง7, เวิร์คพอยท์, อมรินทร์ทีวี, กลุ่มปราสาททองโอสถ, ไทยรัฐทีวี และอาร์เอส



http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20131228/552831/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B8%8A.%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B25%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99.html

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.