15 มกราคม 2557 TRUE ONLINE ระบุ ไม่พบว่าระบบมีการถูกโจมตีหรือถูก hack ชี้ทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญทำการมอนิเตอร์ปัญหาการใช้งานของผู้ใช้ตลอดเวลา
ประเด็นหลัก
ซึ่งทางบริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จำกัด ได้ส่งคำชี้แจงมายัง "ทีมข่าวไอทีออนไลน์" ว่า บริษัทได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่าระบบมีการถูกโจมตีหรือถูก hack แต่อย่างใด และปัจจุบันผู้ใช้บริการของทรู อินเทอร์เน็ต ยังคงสามารถใช้งานได้ตามปกติ รวมทั้งมิได้มีการแจ้งร้องเรียนปัญหาดังกล่าว ผ่านทางเจ้าหน้าที่ Call Center นอกเหนือจากข้อความที่ถูกโพสต์ผ่านเว็บไซต์
บริษัทมิได้นิ่งนอนใจ ได้ให้ทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญทำการมอนิเตอร์ปัญหาการใช้งานของผู้ใช้ บริการทรู อินเทอร์เน็ต ทั้งลูกค้าองค์กรและลูกค้าทั่วไปอย่างใกล้ชิด ซึ่งไม่พบว่ามีลูกค้ารายใดประสบปัญหาตามที่กล่าวถึง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาบริษัทเคยได้รับการร้องเรียนปัญหาในลักษณะดังกล่าว และตรวจสอบพบว่าเกิดจากการที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานติดมัลแวร์จากการใช้งานอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่เบราว์เซอร์ของลูกค้า หรือเกิดความผิดปกติได้หลายรูปแบบ
______________________________________
'ทรู'เต้น! ยันระบบเน็ตปลอดภัย ไม่เคยถูกแฮก
"ทรู" โต้ระบบเน็ตปลอดภัย ยันตรวจสอบแล้วพร้อมดูแลลูกค้าใกล้ชิด ฟากผู้เชี่ยวชาญแนะ มีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสพร้อมอัพเดตสม่ำเสมอ ช่วยลดความเสี่ยงภัยคุกคามออนไลน์…
หลังจากมีการนำเสนอข่าว ระบบอินเทอร์เน็ตทรูถูกโจมตี ฝังมัลแวร์ดักข้อมูลผู้ใช้งาน "ทีมข่าวไอทีออนไลน์" ได้สอบถามไปยังผู้เกี่ยวข้องอย่างทรูออนไลน์ และผู้เชี่ยวชาญด้านไอที ซิเคียวริตี้ ว่าประเด็นข่าวดังกล่าวนั้นมีความเป็นไปได้มาก-น้อย เพียงใด
ซึ่งทางบริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จำกัด ได้ส่งคำชี้แจงมายัง "ทีมข่าวไอทีออนไลน์" ว่า บริษัทได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่าระบบมีการถูกโจมตีหรือถูก hack แต่อย่างใด และปัจจุบันผู้ใช้บริการของทรู อินเทอร์เน็ต ยังคงสามารถใช้งานได้ตามปกติ รวมทั้งมิได้มีการแจ้งร้องเรียนปัญหาดังกล่าว ผ่านทางเจ้าหน้าที่ Call Center นอกเหนือจากข้อความที่ถูกโพสต์ผ่านเว็บไซต์
บริษัทมิได้นิ่งนอนใจ ได้ให้ทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญทำการมอนิเตอร์ปัญหาการใช้งานของผู้ใช้ บริการทรู อินเทอร์เน็ต ทั้งลูกค้าองค์กรและลูกค้าทั่วไปอย่างใกล้ชิด ซึ่งไม่พบว่ามีลูกค้ารายใดประสบปัญหาตามที่กล่าวถึง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาบริษัทเคยได้รับการร้องเรียนปัญหาในลักษณะดังกล่าว และตรวจสอบพบว่าเกิดจากการที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานติดมัลแวร์จากการใช้งานอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่เบราว์เซอร์ของลูกค้า หรือเกิดความผิดปกติได้หลายรูปแบบ
ทั้งนี้ บริษัทขอยืนยันเพื่อให้ผู้ใช้บริการทรู อินเทอร์เน็ตมั่นใจว่า บริษัทมีระบบป้องกันภัยคุกคามทั้งจากทางเครือข่ายและจากทางอินเทอร์เน็ตตามมาตรฐานสากล โดยจะมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างปลอดภัยสูงสุด
ด้านผู้เชี่ยวชาญระบบความปลอดภัยทางไอที อย่าง นายไชยกร อภิวัฒโนกุล วิเคราะห์ว่า ในความเป็นจริงเรื่องดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ หากมีผู้ตั้งค่าระบบ นอกจากนี้ก็อาจเกิดขึ้นได้หากคอมพิวเตอร์มีปัญหาติดไวรัสหรือมัลแวร์ ซึ่งควรให้หน่วยงานกลางหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตโดยตรงได้ตรวจสอบเสียก่อน
"ไม่อยากให้ตัดสินใจว่าเป็นไปได้หรือไม่ในทันที ควรมีการตรวจสอบให้ได้ผลเป็นที่แน่ใจเสียก่อน ซึ่งวิธีตรวจสอบที่สามารถทำได้ง่ายที่สุดคือการนำคอมพิวเตอร์สัก 2-3 เครื่อง มาทดสอบ โดยเลือกใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่แตกต่างกันไป และทดลองเข้าสู่เว็บไซต์ที่ระบุว่ามีปัญหาเหมือนกันทุกครั้ง เพื่อดูว่าคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องนั้นได้ผลลัพธ์ออกมาตรงกันหรือแตกต่างกัน" ผู้เชี่ยวชาญด้านไอที ซิเคียวริตี้ กล่าว
นายไชยกร กล่าวอีกว่า หน่วยงานกลางที่ผู้บริโภคสามารถร้องเรียนเมื่อพบปัญหาการใช้งานเกี่ยวกับโทรคมนาคม คือ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) โดยหากจะป้องกันความเสียหายหรือข้อมูลรั่วไหลจากคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้ควรติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสและอัพเดตอย่างสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันก็ไม่ควรคลิกเข้าเว็บไซต์ที่ไม่น่าไว้วางใจ รวมถึงลิงก์โฆษณาหรือหัวข้อต่างๆ ที่กำลังเป็นประเด็นและอยู่ในความสนใจ เพราะผู้ไม่หวังดีอาจใช้ประเด็นที่สังคมกำลังให้ความสนใจมาล่อลวง.
โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/396125
ซึ่งทางบริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จำกัด ได้ส่งคำชี้แจงมายัง "ทีมข่าวไอทีออนไลน์" ว่า บริษัทได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่าระบบมีการถูกโจมตีหรือถูก hack แต่อย่างใด และปัจจุบันผู้ใช้บริการของทรู อินเทอร์เน็ต ยังคงสามารถใช้งานได้ตามปกติ รวมทั้งมิได้มีการแจ้งร้องเรียนปัญหาดังกล่าว ผ่านทางเจ้าหน้าที่ Call Center นอกเหนือจากข้อความที่ถูกโพสต์ผ่านเว็บไซต์
บริษัทมิได้นิ่งนอนใจ ได้ให้ทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญทำการมอนิเตอร์ปัญหาการใช้งานของผู้ใช้ บริการทรู อินเทอร์เน็ต ทั้งลูกค้าองค์กรและลูกค้าทั่วไปอย่างใกล้ชิด ซึ่งไม่พบว่ามีลูกค้ารายใดประสบปัญหาตามที่กล่าวถึง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาบริษัทเคยได้รับการร้องเรียนปัญหาในลักษณะดังกล่าว และตรวจสอบพบว่าเกิดจากการที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานติดมัลแวร์จากการใช้งานอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่เบราว์เซอร์ของลูกค้า หรือเกิดความผิดปกติได้หลายรูปแบบ
'ทรู'เต้น! ยันระบบเน็ตปลอดภัย ไม่เคยถูกแฮก
"ทรู" โต้ระบบเน็ตปลอดภัย ยันตรวจสอบแล้วพร้อมดูแลลูกค้าใกล้ชิด ฟากผู้เชี่ยวชาญแนะ มีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสพร้อมอัพเดตสม่ำเสมอ ช่วยลดความเสี่ยงภัยคุกคามออนไลน์…
หลังจากมีการนำเสนอข่าว ระบบอินเทอร์เน็ตทรูถูกโจมตี ฝังมัลแวร์ดักข้อมูลผู้ใช้งาน "ทีมข่าวไอทีออนไลน์" ได้สอบถามไปยังผู้เกี่ยวข้องอย่างทรูออนไลน์ และผู้เชี่ยวชาญด้านไอที ซิเคียวริตี้ ว่าประเด็นข่าวดังกล่าวนั้นมีความเป็นไปได้มาก-น้อย เพียงใด
ซึ่งทางบริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จำกัด ได้ส่งคำชี้แจงมายัง "ทีมข่าวไอทีออนไลน์" ว่า บริษัทได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่าระบบมีการถูกโจมตีหรือถูก hack แต่อย่างใด และปัจจุบันผู้ใช้บริการของทรู อินเทอร์เน็ต ยังคงสามารถใช้งานได้ตามปกติ รวมทั้งมิได้มีการแจ้งร้องเรียนปัญหาดังกล่าว ผ่านทางเจ้าหน้าที่ Call Center นอกเหนือจากข้อความที่ถูกโพสต์ผ่านเว็บไซต์
บริษัทมิได้นิ่งนอนใจ ได้ให้ทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญทำการมอนิเตอร์ปัญหาการใช้งานของผู้ใช้ บริการทรู อินเทอร์เน็ต ทั้งลูกค้าองค์กรและลูกค้าทั่วไปอย่างใกล้ชิด ซึ่งไม่พบว่ามีลูกค้ารายใดประสบปัญหาตามที่กล่าวถึง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาบริษัทเคยได้รับการร้องเรียนปัญหาในลักษณะดังกล่าว และตรวจสอบพบว่าเกิดจากการที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานติดมัลแวร์จากการใช้งานอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่เบราว์เซอร์ของลูกค้า หรือเกิดความผิดปกติได้หลายรูปแบบ
ทั้งนี้ บริษัทขอยืนยันเพื่อให้ผู้ใช้บริการทรู อินเทอร์เน็ตมั่นใจว่า บริษัทมีระบบป้องกันภัยคุกคามทั้งจากทางเครือข่ายและจากทางอินเทอร์เน็ตตามมาตรฐานสากล โดยจะมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างปลอดภัยสูงสุด
ด้านผู้เชี่ยวชาญระบบความปลอดภัยทางไอที อย่าง นายไชยกร อภิวัฒโนกุล วิเคราะห์ว่า ในความเป็นจริงเรื่องดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ หากมีผู้ตั้งค่าระบบ นอกจากนี้ก็อาจเกิดขึ้นได้หากคอมพิวเตอร์มีปัญหาติดไวรัสหรือมัลแวร์ ซึ่งควรให้หน่วยงานกลางหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตโดยตรงได้ตรวจสอบเสียก่อน
"ไม่อยากให้ตัดสินใจว่าเป็นไปได้หรือไม่ในทันที ควรมีการตรวจสอบให้ได้ผลเป็นที่แน่ใจเสียก่อน ซึ่งวิธีตรวจสอบที่สามารถทำได้ง่ายที่สุดคือการนำคอมพิวเตอร์สัก 2-3 เครื่อง มาทดสอบ โดยเลือกใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่แตกต่างกันไป และทดลองเข้าสู่เว็บไซต์ที่ระบุว่ามีปัญหาเหมือนกันทุกครั้ง เพื่อดูว่าคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องนั้นได้ผลลัพธ์ออกมาตรงกันหรือแตกต่างกัน" ผู้เชี่ยวชาญด้านไอที ซิเคียวริตี้ กล่าว
นายไชยกร กล่าวอีกว่า หน่วยงานกลางที่ผู้บริโภคสามารถร้องเรียนเมื่อพบปัญหาการใช้งานเกี่ยวกับโทรคมนาคม คือ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) โดยหากจะป้องกันความเสียหายหรือข้อมูลรั่วไหลจากคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้ควรติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสและอัพเดตอย่างสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันก็ไม่ควรคลิกเข้าเว็บไซต์ที่ไม่น่าไว้วางใจ รวมถึงลิงก์โฆษณาหรือหัวข้อต่างๆ ที่กำลังเป็นประเด็นและอยู่ในความสนใจ เพราะผู้ไม่หวังดีอาจใช้ประเด็นที่สังคมกำลังให้ความสนใจมาล่อลวง.
โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/396125
ไม่มีความคิดเห็น: