25 มกราคม 2557 NATION เตรียมสู้ ช่อง 3 รายการข่าวในช่วงเวลา 06.00-09.00 น. หลังออกอากาศ Digital TV // GMM พอใจกับช่อง 31 สำหรับช่อง HD เพราะสอดคล้องกับชื่อช่อง ONE
ประเด็นหลัก
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า พอใจกับช่อง 31 สำหรับช่อง HD เพราะสอดคล้องกับชื่อช่อง ONE ที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้น ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตบอกสั้นๆ ว่ามีความพร้อมเกือบทุกด้านทั้งด้านบุคลากร และด้านการผลิตรายการ เพราะมีทรัพยากรต่างๆ ในมืออยู่แล้ว
ส่วนเครือเนชั่นที่ประมูลได้ 2 ช่อง คือ ช่องข่าวและช่องรายการประเภทความคมชัดทั่วไปหรือ SD นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเลือกช่องหมายเลข 22 เป็นการสร้างการจดจำในการกดรีโหมด ไม่เกี่ยวกับแง่ไสยศาสตร์ และประเมินว่าในคู่แข่งช่องข่าวอีก 6 ราย กลุ่ม 3เอ และทีวีพูล ไม่ใช่คู่แข่งที่สำคัญ
นอกจากนี้ ยังเตรียมปรับผังรายการให้ตรงกับ ช่อง 3 ที่มีรายการข่าวในช่วงเวลา 06.00-09.00 น. ซึ่งนายอดิศักดิ์มองว่าเป็นการบังคับผู้ชม จึงตั้งใจทำผังรายการชนกัน เพื่อให้ใด้ความหลากหลายทั้งรูปแบบรายการ และคนข่าวที่นำเสนอ โดยลักษณะรายการเป็นแบบชาวบ้าน ปลุกคนดูให้ตื่น มีสีสัน กระชับ ไม่เยิ่นเย้อ และมีพิธีกร หลากหลายรุ่น และวัย ทำให้คนดูสามารถเลือกชมได้
______________________________________
เอกชนปรับทัพขยับขุนพลพร้อมสู้ศึกทีวีดิจิตอล
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่พอใจกับช่องทีวีดิจิตอลที่เลือกเรียบร้อยแล้ว หลายรายพร้อมเดินหน้าธุรกิจทันที อสมท คุยหารือพันธมิตรแล้ว ส่วน แกรมมี่บอกพร้อมทุกด้าน ขณะที่ เนชั่นประกาศท้าชนรายการช่อง 3 ปรับผังรายการสู้...
นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการออกอากาศจะเริ่มตาม กสทช.กำหนด คือ การออกอากาศคู่ขนานช่วงแรกเดือนเมษายน ถึง มิถุนายน หลังจากนั้นจะปรับเปลี่ยน เริ่มจากช่องความคมชัดสูง หรือ HD ที่ได้ช่องหมายเลข 30 ส่วนช่องเด็ก ที่ได้ช่องหมายเลข 14 ต้องการให้เป็นช่องสำหรับอนาคตของเด็ก
“เลขช่องที่ได้มา 30 ถือเป็นเลขช่องที่ดี โชคดี เพราะเป็นช่องแรกของประเภท HD จะได้เจอช่องของ อสมท ก่อน ที่สำคัญคือ หากเนื้อหารายการดี ประชาชนก็จะได้รับชมก่อนรถคืนทุนในช่องข่าวได้ 5 ปี ขึ้นไป ส่วนความร่วมมือกับพันธมิตรในการผลิตรายการ หารือเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด” นายเอนก กล่าว
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า พอใจกับช่อง 31 สำหรับช่อง HD เพราะสอดคล้องกับชื่อช่อง ONE ที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้น ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตบอกสั้นๆ ว่ามีความพร้อมเกือบทุกด้านทั้งด้านบุคลากร และด้านการผลิตรายการ เพราะมีทรัพยากรต่างๆ ในมืออยู่แล้ว
ส่วนเครือเนชั่นที่ประมูลได้ 2 ช่อง คือ ช่องข่าวและช่องรายการประเภทความคมชัดทั่วไปหรือ SD นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเลือกช่องหมายเลข 22 เป็นการสร้างการจดจำในการกดรีโหมด ไม่เกี่ยวกับแง่ไสยศาสตร์ และประเมินว่าในคู่แข่งช่องข่าวอีก 6 ราย กลุ่ม 3เอ และทีวีพูล ไม่ใช่คู่แข่งที่สำคัญ
นอกจากนี้ ยังเตรียมปรับผังรายการให้ตรงกับ ช่อง 3 ที่มีรายการข่าวในช่วงเวลา 06.00-09.00 น. ซึ่งนายอดิศักดิ์มองว่าเป็นการบังคับผู้ชม จึงตั้งใจทำผังรายการชนกัน เพื่อให้ใด้ความหลากหลายทั้งรูปแบบรายการ และคนข่าวที่นำเสนอ โดยลักษณะรายการเป็นแบบชาวบ้าน ปลุกคนดูให้ตื่น มีสีสัน กระชับ ไม่เยิ่นเย้อ และมีพิธีกร หลากหลายรุ่น และวัย ทำให้คนดูสามารถเลือกชมได้
“หลังการประมูลจะมีผู้เล่นในสนามทีวี 17 บริษัท จาก24 ช่อง เป็นรายเดิม 3 บริษัท ช่อง 3 ช่อง 7 และอสมท ส่วนอีก 14 ราย เป็นผู้เล่นรายใหม่ จึงเห็นการตื่นตัวของผู้เล่นรายใหม่ๆ แม้ว่าราคาการประมูลจะแพง และเอเจนซี่จะเกิดประโยชน์ ขณะที่ผู้เล่นรายเก่าจะไม่เกิดประโยชน์มากนัก ขณะเดียวกันผู้เล่นที่ไม่ชนะการประมูลก็ได้รับการติดต่อให้ร่วมธุรกิจด้วย” นายอดิศักดิ์ กล่าว
กก.ผอ.บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้งฯ กล่าวต่อว่า เครือเนชั่น เลือกเช่าใช้โครงข่ายของสถานีกองทัพบกช่อง5 ทั้งช่องข่าว และช่องนาว ซึ่งเป็นประเภทรายการทั่วไปแบบเอสดี เนื่องจากเชื่อมั่น ในการทดลอง และมีผู้เล่นในสนามหลายรายที่เลือกโครงข่ายนี้ นอกจากนี้ยังเห็นว่าประกาศหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการ เป็นการทั่วไป หรือ มัสต์แครี่ ทำให้บริษัท สามารถขยายฐานผู้ชมได้มากขึ้น และมั่นใจว่าสามารถช่วงชิงผู้ชมได้ จากเดิมในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่มี 2 แสน 5 หมื่นคน เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว และเพิ่มฐานผู้ชมในต่างจังหวัดด้วย ขณะที่ ยอดผู้ชมเนชั่นทั่วประเทศอยู่ที่ 1.4 ล้านคนต่อวัน หลังจากเข้ามาเป็นทีวีดิจิตอลแล้ว จะสามารถเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว หรือประมาณ 3 ล้านคนต่อวัน
นายอดิศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับช่วงเวลาของการเปิดตัวเริ่มจากวันที่ 20 ม.ค. เป็นการเปิดตัวสตูดิโอ ย่านสาธร และสยามดิสคัฟเวอร์รี่ จากนั้นในเดือนมีนาคมหน้าจอจะปรับเป็นเนชั่นทีวี เดือนมิถุนายนจะเปิดสตูดิโออีกแห่งที่ด้านหลังอาคารบางกอกโค้ด ถ.สาธร เป็นสตูดิโอของช่องเนชั่นทีวี เม็ดเงินโฆษณา 11 เดือนแรก พบว่า ช่อง7 เป็นอันดับหนึ่ง ถ้าดูเฉพาะข่าว 1หมื่น5พันล้านบาท เนชั้นตั้งเป้าครองส่วนแบ่ง 5-6% หรือมีรายได้หลายร้อยล้านบาทในปีแรก ในแพลตฟอร์มทีวีดิจิตอล โดยคาดว่าจะสามารถ ผลักดันให้ กสทช.ขยายอายุใบอนุญาตทีวีดิจิตอลได้
ด้าน พันเอกนที ศุกลรัตน์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ขั้นตอนการเลือกหมายเลขช่องในส่วนของผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลเป็นไปอย่างเรียบร้อย และมองว่า หมายเลขช่องเป็นเพียงความสะดวกในการกดเลือกของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ที่สำคัญกว่าคือเนื้อหาของช่องที่จะเป็นจุดดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค
วันเดียวกันนี้ กสท. ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอล เข้ามาพูดคุยในเรื่องของความพร้อมในการให้บริการ ซึ่งส่วนใหญ่ยืนยันว่าพร้อมให้บริการตามเงื่อนไขที่ กสทช. กำหนด คือ พร้อมออกอากาศใน 4 จังหวัด ในเดือนเมษายน เพิ่มอีก 3 จังหวัดในเดือนพฤษภาคม และเพิ่มเป็น 11 จังหวัดในเดือนมิถุนายน รวม 11 จังหวัด
ขณะที่ นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์ รองกรรมการบริหาร สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง3 ระบุว่า บริษัทเตรียมแผนการทำธุรกิจหลังประมูลทีวีดิจิตอลไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ สำหรับช่อง3 ประมูลได้ 3 ช่อง คือ ช่องความคมชัดสูง หรือ เอชดี หมายเลข33 ช่องรายการทั่วไป ความคมชัดปกติ หรือ เอสดี หมายเลข28 และช่องรายการเด็ก หมายเลข 13
ส่วน นายรัตนบุรี อติศัพท์ กรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ กล่าวว่า แผนการทำธุรกิจต้องทำตาม กสทช. อยู่แล้ว ซึ่งบริษัท ยินดีปฏิบัติตามระเบียบ นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการรับสมัครบุคลากรเข้ามาร่วมงานในช่องข่าวที่บริษัทประมูลได้ และเลือกหมายเลข19 ด้วย.
โดย: ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/398680
ไม่มีความคิดเห็น: