26 กุมภาพันธ์ 2557 ช่องโอ้โห ของบริษัท อาธีน่า มีเดีย จำกัด และช่องมิกซ์ทเวนตี้โฟร์วาไรตี้ ของบริษัท มิกซ์ วาไรตี้ จำกัด รอดได้รับพิจรณาใบอนุญาติครั้งใหม่ โดยกสทช. จับตาดูโฆษณา ขู่ฝ่าฝืนเจอปรับ 5 ล้านบาท
ประเด็นหลัก
เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค กสท. จึงกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตระงับการโฆษณาที่มีปัญหาไว้จนกว่าผลการพิจารณาจะเป็นที่ยุติ ในการพิจารณาใบอนุญาตใหม่ให้ทั้ง 2 ราย กสท. จึงมีมติให้คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ ให้ความเห็นเพิ่มเติมใน 30 วัน เมื่อ 17 ก.พ. คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ ได้นำเสนอความเห็นต่อ กสท. พิจารณาประกอบการอนุญาตใหม่ให้ทั้ง 2 ช่อง โดยรายงานผลความคืบหน้าในการดำเนินการของ อย. นั้น ทั้งสองรายได้ชำระค่าปรับตามกฎหมายของ อย. รายละ 10,000 บาท การชำระค่าปรับเป็นการยอมรับว่ากระทำความผิดจริง/เป็นที่ยุติ ซึ่งส่งผลให้การกระทำความผิดตามกฎหมาย กสทช. เป็นที่ยุติด้วย เป็นการกระทำที่เป็นความผิดตาม พรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ม.31 ซึ่งกำหนดมาตรการลงโทษตามใน ม.77 กฎหมายเดียวกัน กสท. จึงได้มีมติให้ สนง.กสทช. มีคำสั่งให้ยุติการโฆษณาที่มีปัญหาดังกล่าว ถ้าฝ่าฝืน กสทช. จะกำหนดมาตรการปรับ 5 ล้านบาทครับ"
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับช่องทีวีดาวเทียม 2 ราย ที่ถูกกล่าวถึงในกรณีดังกล่าว คือ ช่องโอ้โห ของบริษัท อาธีน่า มีเดีย จำกัด และช่องมิกซ์ทเวนตี้โฟร์วาไรตี้ ของบริษัท มิกซ์ วาไรตี้ จำกัด.
______________________________________
จบปัญหา 2 ช่องดาวเทียม 'นที' เผยให้ใบอนุญาตต่อ-คุมเข้ม
"นที ศุกลรัตน์" ประธาน กสท. ทวีตข้อความระบุช่อง 2 ดาวเทียมได้รับการพิจารณาใบอนุญาตใหม่ หลังจ่ายค่าปรับตามกฎหมาย อย.เรียบร้อยแล้ว พร้อมสั่ง กสทช. จับตาดูโฆษณา ขู่ฝ่าฝืนเจอปรับ 5 ล้านบาท…
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ก.พ. เวลาประมาณ 11.30 น. พันเอกนที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ได้ทวีตข้อความผ่าน @DrNateeDigital รวมทั้งสิ้น 13 ข้อความ โดยระบุว่า "กสท.ได้ประชุม เมื่อ 27 ม.ค.57 เพื่อกำหนดหลักการสำหรับการอนุญาตใหม่ให้กับช่องเคเบิล/ดาวเทียมที่กำลังจะหมดอายุใบอนุญาต ในการพิจารณาดังกล่าวยังมีอีก 2 ช่องรายการที่มีการกระทำความผิดเรื่องการโฆษณาอาหารและยา ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ อย. การโฆษณาที่ผิดกฎหมายอาหารและยาถูกกำหนดให้เป็นความผิดต่อผู้บริโภค แต่ผลการตัดสินขององค์กรตามกระบวนการต้องถึงที่สุด เมื่อ อย.วินิจฉัย ว่าเป็นการดำเนินการที่ผิดกฎหมาย อาหารและยา แล้วคู่กรณีอาจจะยอมรับโดยชำระค่าปรับ หรือ ฟ้องร้องต่อศาล กรณีที่คู่กรณีชำระค่าปรับตามกฎหมายต่อ อย. ผลการดำเนินการก็ถือว่าถึงที่สุด แต่กรณีที่ฟ้องร้องต่อศาลก็ต้องรอการตัดสินของศาล เมื่อมีการให้ข้อมูลโดย อย. แม้กระบวนการยังไม่ถึงที่สุด แต่ กสท. ก็ต้องเชื่อข้อวินิจฉัยของหน่วยงานรัฐที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในเบื้องต้น
เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค กสท. จึงกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตระงับการโฆษณาที่มีปัญหาไว้จนกว่าผลการพิจารณาจะเป็นที่ยุติ ในการพิจารณาใบอนุญาตใหม่ให้ทั้ง 2 ราย กสท. จึงมีมติให้คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ ให้ความเห็นเพิ่มเติมใน 30 วัน เมื่อ 17 ก.พ. คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ ได้นำเสนอความเห็นต่อ กสท. พิจารณาประกอบการอนุญาตใหม่ให้ทั้ง 2 ช่อง โดยรายงานผลความคืบหน้าในการดำเนินการของ อย. นั้น ทั้งสองรายได้ชำระค่าปรับตามกฎหมายของ อย. รายละ 10,000 บาท การชำระค่าปรับเป็นการยอมรับว่ากระทำความผิดจริง/เป็นที่ยุติ ซึ่งส่งผลให้การกระทำความผิดตามกฎหมาย กสทช. เป็นที่ยุติด้วย เป็นการกระทำที่เป็นความผิดตาม พรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ม.31 ซึ่งกำหนดมาตรการลงโทษตามใน ม.77 กฎหมายเดียวกัน กสท. จึงได้มีมติให้ สนง.กสทช. มีคำสั่งให้ยุติการโฆษณาที่มีปัญหาดังกล่าว ถ้าฝ่าฝืน กสทช. จะกำหนดมาตรการปรับ 5 ล้านบาทครับ"
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับช่องทีวีดาวเทียม 2 ราย ที่ถูกกล่าวถึงในกรณีดังกล่าว คือ ช่องโอ้โห ของบริษัท อาธีน่า มีเดีย จำกัด และช่องมิกซ์ทเวนตี้โฟร์วาไรตี้ ของบริษัท มิกซ์ วาไรตี้ จำกัด.
โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/tech/406256
ไม่มีความคิดเห็น: