03 มีนาคม 2557 สามารถเทลคอม-ล็อกซเล่ย์-เอไอที ผนึกกำลังตั้งบริษัทร่วมทุน "SLA" ลุยอาเชียน เป้าหมายทางธุรกิจไว้ 2 ระยะ คือ ระยะสั้น จับมือกับพันธมิตรท้องถิ่น (Local partners)สำหรับแผนระยะยาว คือ การนำเสนอโครงการแก่ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ
ประเด็นหลัก
ส่วนนายสุรกิจ เกียรติธนากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสแอลเอ เอเชีย คอมพานี จำกัด เปิดเผยถึงเป้าหมายและแผนธุรกิจ คือเป็นบริษัทชั้นนำของไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทางด้านการให้บริการไอซีทีโซลูชันคุณภาพสูง วางเป้าหมายทางธุรกิจไว้ 2 ระยะ คือ ระยะสั้น จับมือกับพันธมิตรท้องถิ่น (Local partners)สำหรับแผนระยะยาว คือ การนำเสนอโครงการแก่ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งในเบื้องต้น บริษัทกำลังศึกษาโครงการของกรมที่ดินในประเทศลาว และโครงการจัดทำบัตรประชาชน Smart ID Card ในประเทศเมียนมาร์ ดังนั้นบริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้กลับเข้าสู่ประเทศ ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
______________________________________
ผนึก3ยักษ์ไอซีทีตั้งบ. 'SLA'
3 ยักษ์ไอซีที "สามารถเทลคอม-ล็อกซเล่ย์-เอไอที" ผนึกกำลังตั้งบริษัทร่วมทุน "SLA" หวังรุกธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ หวังรับกระแส เออีซี ประเดิมบุกประเทศเพื่อนบ้าน "เมียนมาร์" ตั้งเป้ารายได้ 3 ปีพันล้านบาท
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท สามารถ คอมมิวนิเคชั่นสเซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) ได้เข้าไปร่วมลงทุนกับ บริษัท ล็อกซเล่ย์ ไวร์เลส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเอส ทั้ง 3 บริษัทได้ร่วมลงทุนจัดตั้งบริษัท คือ SLA Asia Company Limited เพื่อดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีไอซีทีครบวงจรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยบริษัทนี้มีทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 30 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นเท่าๆ กัน โดยแต่งตั้งให้นายสุรกิจ เกียรติธนากร เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ภายใต้การผสานความรู้ความสามารถของทั้ง 3 องค์กรเข้าด้วยกัน SLA
ด้านนายเฉลิมโชค ล่ำซำ กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ประเทศเมียนมาร์เป็นตลาดใหม่ที่สำคัญ เพราะมีแนวโน้มการเติบโต จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีนักลงทุนชาวไทยเข้าไปประกอบธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เช่น ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีตัวเลขการค้าระหว่างไทยและเมียนมาร์ในปีที่ผ่านมาสูงถึงกว่า 2 แสนล้านบาท นี้ ดังนั้นการให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม การบริการสื่อสารไร้สาย รวมถึงการให้บริการไอซีทีที่ครบวงจร ตั้งแต่การขายอุปกรณ์ การติดตั้งและวางระบบการสื่อสาร ตลอดจนการให้บริการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องย่อมเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งบริษัทมั่นใจในศักยภาพของบริษัท SLA ที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแน่นอน
ขณะที่นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การรุกตลาดต่างประเทศไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยเฉพาะในกัมพูชา ซึ่ง AIT และ กลุ่มสามารถเข้าไปดำเนินธุรกิจอยู่ก่อนแล้ว จึงมั่นใจได้ด้วยประสบการณ์และรากฐานความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรในแต่ละประเทศซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการขยายธุรกิจของ SLA
ส่วนนายสุรกิจ เกียรติธนากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสแอลเอ เอเชีย คอมพานี จำกัด เปิดเผยถึงเป้าหมายและแผนธุรกิจ คือเป็นบริษัทชั้นนำของไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทางด้านการให้บริการไอซีทีโซลูชันคุณภาพสูง วางเป้าหมายทางธุรกิจไว้ 2 ระยะ คือ ระยะสั้น จับมือกับพันธมิตรท้องถิ่น (Local partners)สำหรับแผนระยะยาว คือ การนำเสนอโครงการแก่ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งในเบื้องต้น บริษัทกำลังศึกษาโครงการของกรมที่ดินในประเทศลาว และโครงการจัดทำบัตรประชาชน Smart ID Card ในประเทศเมียนมาร์ ดังนั้นบริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้กลับเข้าสู่ประเทศ ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=220312:3-sla&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.UxFrJ_SSwcs
ไม่มีความคิดเห็น: