14 พฤษภาคม 2557 i-mobile ระบุ ไตรมาสแรก มียอดขายมือถือทั้ง Smart Phone และ Feature Phone ไปแล้วกว่า 1 ล้านเครื่อง ทั้งราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 2,937 บาท/เครื่อง ขยับสูงขึ้นถึง 16 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน"
ประเด็นหลัก
"แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ทางการเมือง แต่ก็ยังมีกระแส Smart Phone และ Digital TV เข้ามาเป็นปัจจัยบวกในการกระตุ้นตลาด ฉุดให้ยอดขายไอ-โมบาย Smart Phone พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยในไตรมาสแรก มียอดขายมือถือทั้ง Smart Phone และ Feature Phone ไปแล้วกว่า 1 ล้านเครื่อง ทั้งราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 2,937 บาท/เครื่อง ขยับสูงขึ้นถึง 16 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน"
หลังจากนี้ กลุ่มสามารถยังพุ่งเป้าไปที่ธุรกิจ Digital TV ไม่ว่าจะเป็นงานติดตั้งโครงข่ายสถานีของกรมประชาสัมพันธ์ที่อยู่ระหว่างการ ประมูล การจำหน่ายอุปกรณ์รับสัญญาณทีวีดิจิทัล (set-top-box) ที่ปีนี้ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะแจกคูปองส่วนลดเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านให้กับประชาชน 11 ล้านครัวเรือน ซึ่งบริษัทในเครืออย่าง บริษัท สามารถวิศวกรรม ตั้งเป้าจะเข้ารวมโครงการและขาย set-top-box รวมเสาอากาศให้ได้ถึง 2 ล้านชุดในปีนี้ คิดเป็นรายได้ราว 2,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ DTV on Mobile แบรนด์แรกของโลกที่ดูดิจิทัลทีวีระบบ DVB-T2 ได้ ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้แค่ 1 สัปดาห์มียอดขายแล้วกว่า 20,000 เครื่อง ในปีนี้ตั้งยอดขายไว้ 1.5 ล้านเครื่อง รวมรายได้ที่คาดว่าจะได้จากการจำหน่ายเสาอากาศ, Set-top box และโทรศัพท์มือถือดจิทัลทีวี ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท
______________________________________
มือถือไอโมบายยอดพุ่งไตรมาสเดียวทะลุล้านเครื่อง ดันกำไรกลุ่มสามารถฯ เพิ่ม 15%
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 6,364 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน ส่วนอยู่ที่กำไรสุทธิ 403 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 15% โดยมีรายได้จาก บมจ.สามารถไอ-โมบาย เป็นแรงผลักดันสำคัญ ซึ่งในไตรมาส 1 ปีนี้ มีรายได้ 3,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 32% กำไรสุทธิ 197 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%
"แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ทางการเมือง แต่ก็ยังมีกระแส Smart Phone และ Digital TV เข้ามาเป็นปัจจัยบวกในการกระตุ้นตลาด ฉุดให้ยอดขายไอ-โมบาย Smart Phone พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยในไตรมาสแรก มียอดขายมือถือทั้ง Smart Phone และ Feature Phone ไปแล้วกว่า 1 ล้านเครื่อง ทั้งราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 2,937 บาท/เครื่อง ขยับสูงขึ้นถึง 16 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน"
หลังจากนี้ กลุ่มสามารถยังพุ่งเป้าไปที่ธุรกิจ Digital TV ไม่ว่าจะเป็นงานติดตั้งโครงข่ายสถานีของกรมประชาสัมพันธ์ที่อยู่ระหว่างการประมูล การจำหน่ายอุปกรณ์รับสัญญาณทีวีดิจิทัล (set-top-box) ที่ปีนี้ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะแจกคูปองส่วนลดเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านให้กับประชาชน 11 ล้านครัวเรือน ซึ่งบริษัทในเครืออย่าง บริษัท สามารถวิศวกรรม ตั้งเป้าจะเข้ารวมโครงการและขาย set-top-box รวมเสาอากาศให้ได้ถึง 2 ล้านชุดในปีนี้ คิดเป็นรายได้ราว 2,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ DTV on Mobile แบรนด์แรกของโลกที่ดูดิจิทัลทีวีระบบ DVB-T2 ได้ ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้แค่ 1 สัปดาห์มียอดขายแล้วกว่า 20,000 เครื่อง ในปีนี้ตั้งยอดขายไว้ 1.5 ล้านเครื่อง รวมรายได้ที่คาดว่าจะได้จากการจำหน่ายเสาอากาศ, Set-top box และโทรศัพท์มือถือดจิทัลทีวี ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานของกลุ่มสามารถเทลคอม ซึ่งงานส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับงานโครงการ ได้มีการเซ็นสัญญาโครงการใหม่ในไตรมาสแรก 1,152 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการในมือ ณ ปัจจุบัน เกือบ 7,000 ล้านบาท ส่วนโครงการที่รอเข้าประมูลในปีนี้มีมูลค่ารวมกว่า 17,000 ล้านบาท
ด้านกลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคและการเดินทาง Utilities & Transportation โดยการนำของบริษัท สามารถ ยู-ทรานส์ ในไตรมาสแรก ปี 57 มีรายได้จากศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ CATS และโรงไฟฟ้ากัมปอต รวมกันกว่า 520 ล้านบาท ทั้งยังเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโครงการ Air traffic Management ของวิทยุการบินฯ ในไตรมาสแรก จำนวน 145 ล้านบาท จากมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,700 ล้านบาท และมีรายได้จากบริษัท เทด้า ซึ่งปัจจุบันมีงานในมือมูลค่ากว่า 1,400 ล้านบาท โดยในไตรมาสที่ผ่านมา มีรายได้ราว 230 ล้านบาท จึงถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำที่แข็งแกร่งให้แก่กลุ่มสามารถ
ส่วนกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ แม้จะเป็นธุรกิจย่อย แต่ก็มีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่นทั้ง 3 ธุรกิจ คือ ธุรกิจกล้องวงจรปิดและระบบรักษาความปลอดภัย โดย บจก. วิชั่นส์แอนด์ซิเคียวริตี้ซิสเต็ม ได้เซ็นสัญญาเพิ่มเติมกับการท่าฯ มูลค่า 120 ล้านบาทในไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนธุรกิจคอลล์เซนเตอร์ โดย บมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ ซึ่งจะเข้าเทรดหุ้นในตลาดเอ็มเอไอในวันที่ 15 พ.ค.นี้
"บริษัทให้ความสำคัญกับสร้างสมดุลของแหล่งรายได้ จึงมีการจัดแบ่งสายธุรกิจที่ชัดเจน มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งลูกค้ารัฐ รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชน และผู้บริโภครายย่อย ที่สำคัญบริษัทฯ ยังมุ่งเน้นในการขยายฐานรายได้ประจำให้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน และความพร้อมในการลงทุนเมื่อโอกาสมาถึง"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1400049784
ไม่มีความคิดเห็น: