15 พฤษภาคม 2557 สหภาพ MCOT.สุวิทย์ รวมตัวกันในนามสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ชี้ กสทช.ไม่พร้อมสะทีกรณีไม่แจงคูปองสะที!! เชื่อถ้าปล่อยไปผู้ที่ประมูลDigital TVไปจะเจ๊ง
ประเด็นหลัก
"ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าผู้ประกอบการทีวีที่ประมูลไปนั้น มากกว่า 50% อาจจะเจ๊งในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปี เพราะ กสทช. ไม่มีความพร้อมในการกระจายการรับชม ส่งผลให้เอเยนซีไม่ซื้อโฆษณาเพราะไม่มั่นใจช่องใหม่ ไม่มีใครกล้าลงทุนคอนเทนต์ใหม่ ขณะที่ผู้ประกอบการมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการที่ต้องออกอากาศตามกฎมัสต์แครี่" นายสุวิทย์ กล่าว.
ประธาน สรส. กล่าวต่อว่า ล่าสุดมีความชัดเจนแล้วว่าผู้ประกอบการทีวีที่ประมูลไปนั้น มากกว่าร้อยละ 50 อาจ จะไปไม่รอดในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปี เพราะ กสทช. ไม่มีความพร้อมในการกระจายการรับชม ส่งผลให้เอเจนซี่ไม่ซื้อโฆษณา เพราะไม่มั่นใจช่องใหม่ และไม่มีใครกล้าลงทุนคอนเทนต์ใหม่ ขณะที่ผู้ประกอบ การมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการที่ต้องออกอากาศตามประกาศหลักเกณฑ์การเผยแพร่ กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป หรือ มัสต์แครี่ โดยเมื่อปี 2556 สรส. เคยเข้ายื่นหนังสือต่อ กสทช. เพื่อคัดค้านการเปิดประมูลทีวีดิจิตอล และให้ใช้วิธีคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติ เหมาะสม หรือ บิวตี้ คอนเทสต์ และได้แสดงความกังวลว่าจะเกิดปัญหาฟองสบู่ในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ หาก กสทช. ยังเปิดประมูล แต่ กสทช. ก็ไม่ได้รับฟัง และอ้างว่าการเปิดประมูลครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนของวงการโทรทัศน์จากการที่ ผู้ชมมีทางเลือกในการรับชมฟรีทีวีเพิ่มมากขึ้น
______________________________________
สรส.จ่อบุกกสทช. ทวงชี้แจง'ข้อมูล' ประมูลทีวีดิจิตอล
นายสุวิทย์ มิ่งมล ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันที่ 19 พ.ค.57 จะรวมตัวกันในนามสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อให้ชี้แจงข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการเปิดประมูลทีวีดิจิตอล 24 ช่อง และผลวิจัยต่างๆ ในการกำหนดราคาคูปองเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งไม่ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมโทรทัศน์
ทั้งนี้ สรส.เคยเข้ายื่นหนังสือต่อ กสทช. เมื่อปี 2556 เพื่อคัดค้านการเปิดประมูลทีวีดิจิตอล และให้ใช้วิธีคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติเหมาะสม (บิวตี้ คอนเทสต์) และได้แสดงความกังวลว่าจะเกิดปัญหาฟองสบู่ในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ หาก กสทช. ยังเปิดประมูล แต่ กสทช.ก็ไม่ได้รับฟังและอ้างว่าการเปิดประมูลครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนของวงการโทรทัศน์จากการที่ผู้ชมมีทางเลือกในการรับชมฟรีทีวีเพิ่มมากขึ้น
"ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าผู้ประกอบการทีวีที่ประมูลไปนั้น มากกว่า 50% อาจจะเจ๊งในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปี เพราะ กสทช. ไม่มีความพร้อมในการกระจายการรับชม ส่งผลให้เอเยนซีไม่ซื้อโฆษณาเพราะไม่มั่นใจช่องใหม่ ไม่มีใครกล้าลงทุนคอนเทนต์ใหม่ ขณะที่ผู้ประกอบการมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการที่ต้องออกอากาศตามกฎมัสต์แครี่" นายสุวิทย์ กล่าว.
http://www.thaipost.net/news/160514/90547
__________________________
'สรส.' นัดรวมพล 19 พ.ค. จี้ 'กสทช.' แจงประมูลทีวีดิจิตอลก่อนเจ๊ง
ADVERTISEMENT
'สรส.' นัดรวมพล 19 พ.ค. จี้ 'กสทช.' แจงประมูลทีวีดิจิตอลก่อนเจ๊ง
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ 15 พ.ค. 2557 21:52
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ นัดรวมตัววันที่ 19 พฤษภาคม เพื่อยื่นหนังสือต่อ กสทช. ให้ชี้แจงรายละเอียดการประมูลทีวีดิจิตอล หวั่นผู้ประกอบการกว่าครึ่งไปไม่รอดในระยะเวา 5 ปี...
วันที่ 15 พ.ค. นายสุวิทย์ มิ่งมล ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ หรือ สรส. จะนัดรวมตัวกันวันที่ 19 พ.ค. 2557 นี้ เพื่อเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ให้ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดประมูล ทีวีดิจิตอลประเภทธุรกิจ 24 ช่อง และผลวิจัยต่างๆ ในการกำหนดราคาคูปองเพื่อสนับสนุการรับชมทีวีดิจิตอล อันไม่ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมโทรทัศน์
ประธาน สรส. กล่าวต่อว่า ล่าสุดมีความชัดเจนแล้วว่าผู้ประกอบการทีวีที่ประมูลไปนั้น มากกว่าร้อยละ 50 อาจ จะไปไม่รอดในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปี เพราะ กสทช. ไม่มีความพร้อมในการกระจายการรับชม ส่งผลให้เอเจนซี่ไม่ซื้อโฆษณา เพราะไม่มั่นใจช่องใหม่ และไม่มีใครกล้าลงทุนคอนเทนต์ใหม่ ขณะที่ผู้ประกอบ การมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการที่ต้องออกอากาศตามประกาศหลักเกณฑ์การเผยแพร่ กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป หรือ มัสต์แครี่ โดยเมื่อปี 2556 สรส. เคยเข้ายื่นหนังสือต่อ กสทช. เพื่อคัดค้านการเปิดประมูลทีวีดิจิตอล และให้ใช้วิธีคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติ เหมาะสม หรือ บิวตี้ คอนเทสต์ และได้แสดงความกังวลว่าจะเกิดปัญหาฟองสบู่ในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ หาก กสทช. ยังเปิดประมูล แต่ กสทช. ก็ไม่ได้รับฟัง และอ้างว่าการเปิดประมูลครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนของวงการโทรทัศน์จากการที่ ผู้ชมมีทางเลือกในการรับชมฟรีทีวีเพิ่มมากขึ้น
นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะขอข้อมูลจากคณะกรรมาธิการวุฒิสภา เคยเรียกทุกฝ่ายไปชี้แจงเกี่ยวกับการประมูลครั้งนี้ โดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. ยืนยันว่า จำเป็นต้องเปิดประมูล ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะนำไปยื่นต่อศาลปกครอง หากมีการฟ้องร้องในภายหลัง
ด้านน.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. กล่าวว่า การประมูลให้เกิดการแข่งขันมากกว่าฟรีทีวี 6 ช่องเดิมถือเป็นแนวทางที่ถูกต้อง และ กสท. มีประกาศหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการประมูล ซึ่งผ่านการรับฟังความเห็นสาธารณะ หรือ ประชาพิจารณ์ มาแล้ว แต่สิ่งที่ กสท. ต้องเร่งทำ คือ การกระจายการรับชมให้เข้าถึงโดยเร็ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แต่ละช่องมีคนดูเพิ่มขึ้น และยอมรับว่ามีความกังวลว่าการดำเนินการต่างๆ เช่น การไม่ประชาพิจารณ์ราคาคูปอง และกระบวนการหลายอย่างที่เป็นเพียงมติบอร์ด กสท. ไม่ใช่ประกาศ จะทำให้ กสท. ถูกฟ้องได้ จึงต้องการให้ทางสำนักงาน กสทช. เปิดประชาพิจารณ์ระหว่างที่รอคณะกรรมการกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการ โทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ สรุปราคาวันที่ 27 พฤษภาคมนี้
http://www.thairath.co.th/content/423063
ไม่มีความคิดเห็น: