Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

22 พฤษภาคม 2557 ASTV ขอออกอากาศ 28 พ.ค.นี้ ทำหน้าที่สื่อมวลชน และสามารถดำรงสถานภาพทางธุรกิจต่อไปได้ // Voice TV ต้องหารือกับทาง กสทช. เพื่อปรับผังรายการ


ประเด็นหลัก


สถานีASTV จะดำเนินการออกอากาศตามผังรายการใหม่ที่ทำเสนอมา ในเช้าวันพุธที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗ หลังจากที่ได้ระงับการออกอากาศไปแล้วทั้งสิ้น ๗ วัน การดำเนินการดังกล่าวเพื่อให้สถานีฯ ทำหน้าที่สื่อมวลชน และสามารถดำรงสถานภาพทางธุรกิจต่อไปได้ และหากท่านไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการดังกล่าว ขอให้ท่านแจ้งกลับมาก่อนวันพุธที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ASTV แจ้ง กอ.รส.ลั่นไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง พร้อมปฏิบัติตามสั่ง 7 วัน ออกอากาศ 28 พ.ค.นี้


ด้าน พ.ท. สุประดิษฐ์ เปล่งฉวี ผู้แทนจาก กอ.รส. ที่เข้าร่วมประชุมกับ กสทช. เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎอัยการศึกในวันนี้ (21 พ.ค. 2557) เปิดเผยว่า การออกคำสั่งปิดสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี ได้มีการพิจารณาอย่างพินิจพิเคราะห์ด้วยหลักการและเหตุผลแล้ว ซึ่งขณะนี้ทางวอยซ์ฯ ได้มายื่นอุทธรณ์แล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าจะได้กลับมาออกอากาศอีกเมื่อใด โดยทางวอยซ์ คงต้องหารือกับทาง กสทช. เพื่อปรับผังรายการ

______________________________________


ลุ้นเปิด "วอยซ์ทีวี" หลังปรับผัง



นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า การปิดสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของ กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ซึ่งหากผู้ประกอบการเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจะต้องยื่นอุทธรณ์ที่ กอ.รส. ไม่ใช่ กสทช. เพราะไม่ได้เป็นผู้สั่งปิด ดังนั้นการจะเปิดสถานีให้ทางวอยซ์ทีวีได้ออกอากาศเมื่อใด ขึ้นอยู่กับทาง กอ.รส.

ด้าน พ.ท. สุประดิษฐ์ เปล่งฉวี ผู้แทนจาก กอ.รส. ที่เข้าร่วมประชุมกับ กสทช. เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎอัยการศึกในวันนี้ (21 พ.ค. 2557) เปิดเผยว่า การออกคำสั่งปิดสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี ได้มีการพิจารณาอย่างพินิจพิเคราะห์ด้วยหลักการและเหตุผลแล้ว ซึ่งขณะนี้ทางวอยซ์ฯ ได้มายื่นอุทธรณ์แล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าจะได้กลับมาออกอากาศอีกเมื่อใด โดยทางวอยซ์ คงต้องหารือกับทาง กสทช. เพื่อปรับผังรายการ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1400667631

_______________________________________


ASTV แจ้ง กอ.รส.ลั่นไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง พร้อมปฏิบัติตามสั่ง 7 วัน ออกอากาศ 28 พ.ค.นี้


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 พฤษภาคม 2557 14:50 น.



ASTV แจ้ง กอ.รส.ลั่นไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง พร้อมปฏิบัติตามสั่ง 7 วัน ออกอากาศ 28 พ.ค.นี้ ผอ.เอเอสทีวี นำทีมยื่นข้อเสนอ กอ.รส.ยันไม่ใช่สื่อที่ตกอยู่ใต้อาณัติกลุ่มการเมืองใด วิจารณ์ข่าวไม่เลือกปฏิบัติ แถมมีรายการอื่นที่ไม่เกี่ยวการเมือง ระบุไม่ใช่คู่ขัดแย้งรอบนี้ ต้องหารายได้จ่ายพนักงานกว่า 600 ชีวิต ชี้คำสั่งไม่กำหนดเวลาทำเสียหาย พร้อมแสดงความจริงใจยุติออนแอร์ 7 วัน พร้อมออกอากาศ 28 พ.ค.แน่ แถมปรับผังงดวิเคราะห์หมด วันนี้ (22 พ.ค.) เวลา 13.50 น. ที่สโมสรกองทัพบก นายประเมนทร์ ภักด์วาปี ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี พร้อมคณะ ได้เดินทางเมื่อพบกองอำนวยการรักษาความสงบ เพื่อยื่นข้อเสนอของสถานีฯ ต่อคำสั่งระงับการถ่ายทอดออกอากาศตามคำสั่ง กอ.รส. ที่ 6 ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความสงบ โดยมี พ.อ.อนุชา พุ่มดำ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ สำนักเลขาธิการกองทัพบก เป็นผู้มารับหนังสือ ซึ่งหนังสือดังกล่าวได้ระบุว่า ตามที่ท่านได้มีคำสั่งกอ.รส.เรื่องขอความร่วมมือระงับการถ่ายทอดออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมและสถานีวิทยุชุมชนดังที่ทราบแล้วนั้น จึงขอเรียนให้ท่านทราบดังต่อไปนี้ ๑. สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ประกอบอาชีพสื่อมวลชนโดยสุจริต มาอย่างยาวนานเกือบ ๑๐ ปีแล้ว โดยไม่ตกอยู่ภายใต้อาณัติกลุ่มทุนหรือกลุ่มการเมืองกลุ่มใด ดังที่เห็นได้ว่าเป็นสถานีโทรทัศน์ที่เน้นหนักในการให้ข่าวและสาระที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทั้งข่าวการเมือง ข่าวสังคม ข่าวสุขภาพ ข่าวกีฬา ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวบันเทิง ข่าวต่างประเทศ ฯลฯ รวมไปถึงการวิเคราะห์ และวิจารณ์ข่าวการเมืองที่ได้ถูกคุ้มครองสิทธิเสรีภาพตามที่ได้บัญญัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ โดยได้วิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองทุกฝ่าย ทุกรัฐบาล ตามวิชาชีพสื่อมวลชน ที่สามารถจะกระทำได้โดยสุจริตและ ไม่เลือกปฏิบัติ นอกจากนี้ยังมีรายการอื่นๆอีกที่ไม่เกี่ยวกับข่าว เช่น รายการเพื่อสุขภาพ รายการเพื่อพัฒนาการศึกษาและเยาวชน รายการเพื่อสังคม รายการบันเทิง ฯลฯ (ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ๑.) ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี จึงไม่ใช่สื่อเพื่อพรรคการ- เมือง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และนับตั้งแต่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ยุติบทบาทไปเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๕ แล้ว สถานภาพของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวีจึงย่อมไม่ใช่สถานีโทรทัศน์ที่จะเป็นเครื่องมือเพื่อใช้ในการเคลื่อนไหวมวลชน กปปส. หรือปฏิบัติตามคำสั่งแกนนำ กปปส. ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันแต่ประการใด ดังนั้นสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เอเอสทีวี จึงเป็นองค์กรที่ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนโดยสุจริต และมิได้เป็นเครื่องมือของคู่กรณีของความขัดแย้งในรอบนี้แต่ประการใด ๒. เนื่องจากสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ได้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนโดยสุจริตและไม่ใช่คู่ขัดแย้งในรอบนี้ จึงย่อมต้องมีหน้าที่ดำเนินกิจการในอาชีพสื่อมวลชนและต้องหารายได้ทั้งจากการโฆษณาและการขายสินค้า เพื่อหล่อเลี้ยงองค์กรและพนักงานกว่า ๖๐๐ ชีวิต ให้อยู่รอดในทางธุรกิจให้ได้ และไม่สามารถที่จะหยุดการประกอบกิจการโดยไม่จำกัดเวลาได้ ๓. อย่างไรก็ตามเมื่อท่านได้ออกคำสั่งที่ กอ.รส.ที่ ๖/๒๕๕๗ เพื่อขอความร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี แล้ว ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวีได้ตระหนักถึงความจำเป็นของท่านในคำสั่งดังกล่าว จึงได้ดำเนินมาตรการดังต่อไปนี้ ๓.๑ หยุดออกอากาศด้วยตัวเองทันทีเป็นเวลา ๒ วันติดกัน ตั้งแต่เช้าวันอังคารที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ และวันพฤหัสบดีที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เพื่อแสดงความจริงใจให้ความร่วมมือกับการขอความร่วมมือตามคำสั่งดังกล่าว ๓.๒ แม้สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมจะได้หยุดออกอากาศเป็นเวลา ๓ วัน แล้ว แต่ก็ไม่ได้มีความชัดเจนว่าการขอความร่วมมือจากคำสั่ง กอ.รส.จะให้หยุดดำเนินการถึงเมื่อใด จึงย่อมผลเสียหายในทางธุรกิจ และส่งผลกระทบต่อพนักงานสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี และหากต้องระงับการออกอากาศต่อไปก็อาจจะส่งผลกระทบจนถึงขั้นต้องปิดกิจการเพราะไม่สามารถจะมีรายได้มาหล่อเลี้ยงองค์กรต่อได้ ดังนั้นการขอความร่วมมือจาก กอ.รส. นั้น สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวีจึงพร้อมที่จะให้ความร่วมมือภายใต้ขอบเขตจำกัดที่จะไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวีด้วย และล่าสุด องค์กรวิชาชีพสื่อได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องขอให้ กอ.รส.ทบทวนการใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกลิดรอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของบุคคลและสื่อมวลชน ซึ่งตรงกันกับแนวทางของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ดังนั้นจึงขอให้ทางกอ.รส. ทบทวนคำสั่งดังกล่าว ๓.๓ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี จะทำการปรับผังรายการใหม่ โดยให้ระงับรายการวิเคราะห์วิจารณ์สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศทั้งหมด โดยจะปรับผังรายการนำเสนอ สารคดีเฉลิมพระเกียรติและโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งคำสอนของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ตลอดจนการรายงานข่าว การเล่าข่าว การวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศ การจัดรายการสุขภาพ และสังคม เช่นเดียวกับสถานี โทรทัศน์อื่น ๆ ที่เปิดดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน (ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย๒.) โดยทางสถานีฯ จะดำเนินการออกอากาศตามผังรายการใหม่ที่ทำเสนอมา ในเช้าวันพุธที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗ หลังจากที่ได้ระงับการออกอากาศไปแล้วทั้งสิ้น ๗ วัน การดำเนินการดังกล่าวเพื่อให้สถานีฯ ทำหน้าที่สื่อมวลชน และสามารถดำรงสถานภาพทางธุรกิจต่อไปได้ และหากท่านไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการดังกล่าว ขอให้ท่านแจ้งกลับมาก่อนวันพุธที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ASTV แจ้ง กอ.รส.ลั่นไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง พร้อมปฏิบัติตามสั่ง 7 วัน ออกอากาศ 28 พ.ค.นี้




http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9570000057024&Keyword=astv



______________________________________


คนข่าวแถลงถูกจำกัดสิทธิ กอ.รส.รุกคุมสื่อออนไลน์ "ลีน่าจัง"โวยทีวีถูกปิด


       ASTVผู้จัดการรายวัน-องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ออกแถลงการณ์ร่วม ชี้คำสั่ง กอ.รส. กระทบรัฐธรรมนูญมาตรา 45 ที่รับรองสิทธิเสรีภาพสื่อ หลังสั่งปิด 14 ทีวีดาวเทียม วิทยุชุมชน เรื่อยไปถึงจำกัดการเสนอข่าวของสื่อออนไลน์ แนะโยน กสทช. จัดการแทน และต้องยกเลิกคำสั่งห้ามสื่อสัมภาษณ์แหล่งข่าว พร้อมวอนสมาชิกเครัดครัดในวิชาชีพ ด้าน กอ.รส. ตั้งคณะทำงานคุมสื่อออนไลน์แล้ว ดึงไอซีที ตำรวจเข้าร่วม มั่นใจปิดเว็บผู้ทำผิดได้ภายใน 1 ชั่วโมง "ลีน่าจัง"ออกตัวโวยทันควัน หลังทีวีถูกปิด
   
       หลังจากที่กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ได้มีประกาศคำสั่งออกมาหลายฉบับเกี่ยวกับการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนและการแสดงความคิดเห็นของประชาชน ทั้งทางสถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุ สื่อออนไลน์ ตามคำสั่งฉบับที่ 3/2557 คำสั่งฉบับที่ 6/2557 คำสั่งฉบับที่ 7/2557 คำสั่งฉบับที่ 8/2557 และคำสั่งฉบับที่ 9/2557 และได้มีการนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องนั้น
   
       ล่าสุด วานนี้ (21 พ.ค.) องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ซึ่งประกอบด้วย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ,สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ,สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้ออกแถลงการณ์ร่วม ขอให้ กอ.รส. ทบทวนการใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก ลิดรอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของบุคคลและสื่อมวลชน เพราะคำสั่งของ กอ.รส. มีเนื้อหาที่กระทบกับสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 ที่รับรอง "เสรีภาพแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณาหรือการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น" อยู่หลายประการ
   
       ทั้งนี้ องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน เสนอแนะว่า การขอความร่วมมือให้สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม 14 แห่ง และสถานีวิทยุชุมชนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งขึ้นตามที่กฎหมายกำหนด ให้ระงับการออกอากาศจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงนั้น อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ ดังนั้น จึงควรให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ดูแลแทน และขอเรียกร้องให้ กอ.รส. พิจารณาอย่างรอบคอบในการใช้อำนาจสั่งปิดสื่อที่อาจเข้าข่ายก่อให้เกิดการขยายความขัดแย้ง บิดเบือน และสร้างความสับสนให้กับสังคม ซึ่งเป็นการลิดรอนเสรีภาพสื่อมวลชนอย่างรุนแรง
   
       ส่วนคำสั่งที่ห้ามเชิญบุคคลให้สัมภาษณ์หรือแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อประเภทต่างๆ ขอให้ยกเลิกทันที เพราะเป็นการจำกัดเสรีภาพของบุคคลในการแสดงความคิดเห็นและไม่สอดคล้องกับหลักการของระบอบประชาธิปไตยที่ต้องยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างและกองบรรณาธิการสื่อต่างๆ ก็มีดุลพินิจที่จะเชิญบุคคลให้แสดงความเห็นหรือสัมภาษณ์ที่ไม่นำไปสู่การขยายความขัดแย้งและความรุนแรงได้อยู่แล้ว
   
       สำหรับการประกาศใช้กฎอัยการศึก เห็นว่า มีผลกระทบต่อเสรีภาพการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนอย่างกว้างขวาง กอ.รส.ควรประกาศเจตนารมณ์ให้ชัดเจนว่าจะสนับสนุนและไม่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนทุกแขนง พร้อมทั้งให้ความเคารพเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการนำเสนอข่าวสารข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา ถูกต้องครบถ้วนและรอบด้าน รวมทั้งเคารพเสรีภาพของสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งการแสดงจุดยืนดังกล่าวจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับสาธารณชน และได้รับการยอมรับในสายตาของนานาชาติที่กำลังจับตามองความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในขณะนี้
   
       นอกจากนี้ ขอเรียกร้องมายังผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนทุกคนให้ตระหนักว่าต้องทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและส่วนรวมเป็นสำคัญ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่อ่อนไหว มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่สื่อทุกแขนงต้องใช้วิจารณญาณอย่างสูงในการปฏิบัติงาน เพื่อจะไม่ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายใด ตลอดจนทำงานด้วยความรับผิดชอบและยึดมั่นในหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพโดยเคร่งครัด
   
       วันเดียวกันนี้ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เรียกผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) เข้ามาหารือหลังจากที่ กอ.รส. ได้ขอความร่วมมือสื่อออนไลน์ และสื่อสังคมออนไลน์ ในการเสนอเนื้อหาบนสื่อ ที่ห้ามมีการเสนอข่าวเชิงปลุกระดม ยั่วยุ สร้างความรุนแรง ความไม่น่าเชื่อถือ ไม่เคารพกฎหมาย และไม่เคารพการปฏิบัติงานของ กอ.รส.
   
       นายฐากรกล่าวว่า กอ.รส. ได้ขอความร่วมมือในการเสนอข่าวผ่านสื่อออนไลน์ และสื่อสังคมออนไลน์ โดยกอ.รส. ได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลในกรณีดังกล่าวแล้ว มีตัวแทนจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตัวแทนจาก กอ.รส. โดยกระทรวงไอซีทีจะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงในการติดตามเนื้อหาบนสื่อออนไลน์และรายงานผลมายัง กอ.รส.ต่อไป
   
       ทั้งนี้ ความร่วมดังกล่าว เพื่อให้การเผยแพร่ข่าวสารไปสู่ประชาชนเป็นไปด้วยความถูกต้อง ปราศจากการบิดเบือน อันจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และสถานการณ์ความขัดแย้งขยายตัว จนส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ในการนำความสงบสุขกลับคืนสู่สังคม
   
       ส่วน กสทช. จะมีหน้าที่ประสานงานด้านต่างๆ หากมีการร้องขอ และจะเป็นผู้ดูแลอีกชั้นหนึ่งเพื่อความรอบคอบ โดยในเบื้องต้นหากมีการตรวจสอบพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมจะสามารถดำเนินการปิดเว็บไซต์ดังกล่าวภายใน 1 ชั่วโมงภายหลังตรวจพบ โดยวานนี้ (21 พ.ค.) ทางไอเอสพีของทรูได้เปิดเผยว่ามีการปิดเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมไปแล้วจำนวน 6 เว็บไซต์ด้วยกัน แต่เว็บไซต์ที่มีเซร์ฟเวอร์อยู่ต่างประเทศ เช่น Youtube คงเป็นเรื่องยาก หากผู้กระทำผิดนำเนื้อหาหนีไปลงบนช่องทางนี้ ซึ่งต้องแจ้งปัญหาดังกล่าวให้กับ กอ.รส. รับทราบเพื่อหาทางออกต่อไป
   
       อย่างไรก็ตาม กอ.รส. จะขอความร่วมมือจากสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook, Twitter, Youtube และ Line เพื่อเข้ามาหารือ และร่วมเป็นคณะอนุกรรมการของคณะทำงานตรวจสอบเนื้อหาบนสื่อออนไลน์ด้วย
   
       สำหรับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่เข้าร่วมการประชุม มีจำนวนทั้งหมด 105 ราย เช่น บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือเอไอเอส, บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค บริษัท กสท โทรคมนาคม, บริษัท ทีโอที, บริษัท ทรูอินเตอร์เน็ต จำกัด ในเครือ บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และซี เอส ล็อกซอินโฟ, ทริปเปิลที อินเทอร์เน็ต, จัสมิน อินเตอร์เน็ต, สามารถ อินโฟเนต และไวด์ แอ็คเซ็ส เป็นต้น
   
       วันเดียวกันนี้ นางลีน่า จังจรรจา เจ้าของสถานีโทรทัศน์ HOT TV ได้เดินทางมายังที่ทำการ กอ.รส. สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อขอพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้อำนวยการ กอ.รส. หลังจากมีประกาศระงับการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ HOT TV
   
       นางลีน่าจังกล่าวว่า การปิดสถานีโทรทัศน์ของตน ทำให้ตนได้รับความเดือดร้อน พร้อมตะโกนท้าให้ พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาหา แต่สุดท้าย นางลีน่าจัง ก็ได้เดินทางกลับจากสโมสรกองทัพบก




http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9570000056741&Keyword=%a1%ca%b7

________________________________________


“วอยซ์ทีวี” ร้อง ผบ.ทบ. อ้างไม่ใช่ทีวีดาวเทียม ร้องเปิดสัญญาณออนแอร์ - “ลีน่า จัง” โวยเดือดร้อน




ผู้บริหารวอยซ์ทีวียื่นหนังสือถึง ผบ.ทบ. อ้างไม่ใช่ทีวีดาวเทียม กสทช. ดูแลอยู่ เรียกร้องให้เปิดสัญญาณถ่ายทอดข่าว และรายการตามปกติ ด้าน “ลีน่า จังจรรจา” โวยสั่งปิดช่องฮอตทีวีเดือดร้อน ตะโกนท้าออกมาหา ก่อนถูกเจ้าหน้าที่กันตัวออกไป
   
       วันนี้ (21 พ.ค.) ที่สโมสรกองทัพบก นายพยุงศักดิ์ ชาญด้วยวิทย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ผอ.รส.) เพื่อชี้แจงการปฏิบัติหน้าที่ของสถานีซึ่งได้รับใบอนุญาตเป็นทีวีดิจิตอล และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. ไม่ใช่เป็นทีวีระบบดาวเทียม พร้อมเรียกร้องให้เปิดสัญญาณถ่ายทอดข่าวและรายการตามปกติ โดยนายพยุงศักดิ์ยืนยันว่าที่ผ่านมา วอยซ์ทีวีปฏิบัติตามเงื่อนไขทุกประการ และไม่เคยถูกท้วงติงจาก กสทช. จึงเดินทางเข้ามาชี้แจงเพื่อขอความเป็นธรรม
   
       ขณะเดียวกัน นางลีนา จังจรรจา เจ้าของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมฮอตทีวี ก็ได้เดินทางมายังที่ทำการ กอ.รส. สโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีฯ เช่นกัน โดยแจ้งความประสงค์ขอพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้อำนวยการ กอ.รส. หลังจากมีประกาศระงับการออกอาศของสถานีโทรทัศน์ฮอตทีวี โดยนางลีนาเปิดเผยว่า การปิดสถานีโทรทัศน์ของตนนั้น ทำให้ตนได้รับความเดือดร้อน พร้อมตะโกนท้าให้ พล.อ.ประยุทธ์ออกมาหาตนด้วยคำพูดที่รุนแรง ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่กันตัวออกจากพื้นที่ เพื่อให้เดินทางออกจากสโมสรกองทัพบก
   
       ทั้งนี้ วอยซ์ทีวี และฮอตทีวี ถูกระงับสัญญาณการถ่ายทอดเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ตามคำสั่ง กอ.รส.ฉบับที่ 7/2557 เรื่อง ขอความร่วมมือระงับการถ่ายทอดออกอากาศสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม และสถานีวิทยุชุมชนเพิ่มเติม


http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000056508&Keyword=%a1%ca%b7

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.