22 พฤษภาคม 2557 กสทช. ประสานเชิญผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) ทุกรายที่ได้รับใบอนุญาต ช่วยตรวจสอบเนื้อหาที่จะนำมาเสนอผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตว่าอาจจะเป็นเนื้อหาที่หมิ่นสถาบันหรือเป็นภัยต่อความมั่นคง

ประเด็นหลัก

ประสานเชิญผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) ทุกรายที่ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช.เข้าหารือกับสำนักงาน กสทช.ในการช่วยตรวจสอบเนื้อหาที่จะนำมาเสนอผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตว่าอาจจะเป็นเนื้อหาที่หมิ่นสถาบันหรือเป็นภัยต่อความมั่นคง


อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันมีไอเอสพีที่ได้รับใบอนุญาตแล้ว 108 ราย โดย 10 รายใหญ่ในตลาดประกอบด้วย ซีเอส ล็อกซอินโฟ, เอไอเอส, เคเอสซี, ทริปเปิลที อินเทอร์เน็ต, ทีโอที, กสท โทรคมนาคม, ทรู อินเทอร์เน็ต, จัสมิน อินเตอร์เน็ต, สามารถ อินโฟเนต และ ไวด์ แอ็คเซ็ส



______________________________________


“กสทช.” รับลูกมอนิเตอร์ทีวี-วิทยุ-ไอเอสพี



       กสทช.สอดรับกองทัพ ตั้งคณะทำงานติดตามการระงับการออกอากาศโทรทัศน์-วิทยุ ตามกฎอัยการศึก พร้อมเตรียมเรียกผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหารือตรวจสอบเนื้อหา หวั่นเป็นภัยต่อความมั่นคง
     
       นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อกำกับดูแลและติดตามสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมและสถานีวิทยุที่ต้องระงับการออกอากาศตามกฎอัยการศึกเพื่อให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ว่ามีการระงับการออกอากาศของช่องโทรทัศน์และวิทยุตามที่มีคำสั่งระงับต่อเนื่องหรือไม่ ซึ่งหากพบการฝ่าฝืนออกอากาศจะร่วมกับกองทัพดำเนินการปราบปรามต่อไป
     
       อีกทั้งในวันพรุ่งนี้ (21 พ.ค.) ได้เตรียมประสานเชิญผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) ทุกรายที่ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช.เข้าหารือกับสำนักงาน กสทช.ในการช่วยตรวจสอบเนื้อหาที่จะนำมาเสนอผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตว่าอาจจะเป็นเนื้อหาที่หมิ่นสถาบันหรือเป็นภัยต่อความมั่นคง
     
       ที่สำคัญคือไม่ต้องการให้มีข้อมูลเกี่ยวข้องกับการเมือง การปลุกระดม และยั่วยุ ที่ทำให้เกิดการแตกแยก โดยเฉพาะป้องกันไม่ให้เป็นช่องทางหลีกเลี่ยงของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมที่มีคำสั่งให้ระงับการออกอากาศหันมาใช้เป็นช่องทางออกอากาศแทนด้วย
     
       ขณะที่ในส่วนภูมิภาค ได้สั่งการให้สำนักงาน กสทช.เขตทั่วประเทศอำนวยความสะดวกและประสานความร่วมมือกับกองทัพบกในการทำงาน และติดตามตรวจสอบการออกอากาศและการนำเสนอเนื้อหาข่าวสารของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมและสถานีวิทยุอีกด้วย
     
       อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันมีไอเอสพีที่ได้รับใบอนุญาตแล้ว 108 ราย โดย 10 รายใหญ่ในตลาดประกอบด้วย ซีเอส ล็อกซอินโฟ, เอไอเอส, เคเอสซี, ทริปเปิลที อินเทอร์เน็ต, ทีโอที, กสท โทรคมนาคม, ทรู อินเทอร์เน็ต, จัสมิน อินเตอร์เน็ต, สามารถ อินโฟเนต และ ไวด์ แอ็คเซ็ส


http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000056110

__________________________



ICT-กสทช.ตั้งคณะทำงานคุมเนื้อหาสื่อขณะใช้กฎอัยการศึก


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤษภาคม 2557 12:55 น.  


       นายสุรชัย ศรีสารคาม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในการตั้งคณะทำงานติดตามการระงับการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุ และดูแลเนื้อหาการโพสต์การแชร์ข้อความผ่านทางอินเทอร์เน็ตหรือสื่อสังคมออนไลน์ คณะทำงานชุดนี้จะประชุมวางแผนและออกมาตรการการดูแลการแพร่ภาพทั้งเสียงและเนื้อหาไม่ให้ขัดต่อการประกาศใช้กฎอัยการศึกในช่วงนี้
        เบื้องต้นหากมีการพบผู้ที่ปล่อยข้อมูล หรือเว็บไซต์ใดที่ปล่อยให้มีการปล่อยเนื้อหาที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ หรือมีการปลุกระดมมวลชน หรือก่อให้เกิดความไม่สงบจะต้องถูกดำเนินคดีและอาจถูกสั่งปิดเว็บไซต์ทันที รวมไปถึงนักวิทยุสมัครเล่นต้องระมัดระวังเกี่ยวกับการสนทนาทางช่องความถี่ในทุกๆ ความถี่ เครือข่ายวิทยุสมัครเล่น และความถี่ในระบบทวนสัญญาณ รวมไปถึงการพกพาวิทยุสื่อสารต้องมีเอกสารหรือหลักฐานใบอนุญาตต่างๆ ครบถ้วนจนกว่าจะมีการประกาศสิ้นสุดประกาศบังคับใช้กฎอัยการศึก

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9570000056384&Keyword=%a1%ca%b7

______________________________________


กอ.รส. ตั้งคณะกรรมการร่วมไอซีที-กสทช. ประสาน ISP บล็อกเว็บตามคำสั่งภายใน 1 ชั่วโมง


ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า วันนี้ (21 พ.ค.2557) ที่อาคารหอประชุม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้มีการประชุมทำความเข้าใจกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service provider : ISP) เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎอัยการศึก

โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการจำนวน 105 คน เป็นตัวแทนจากผู้ให้บริการ ISP 51 บริษัท ครอบคลุมผู้ให้บริการรายใหญ่ในตลาดทั้งหมด อาทิ บมจ. กสท โทรคมนาคม บมจ.ทีโอที บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จำกัด บริษัทอินเทอร์เน็ตประเทศไทย (ไอเน็ต) จำกัด บมจ. แอดวานซ์ อินโฟว์ เซอร์วิส (เอไอเอส) บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) บมจ. ซีเอส ล็อกซอินโฟ บมจ.ทริปเปิลที บรอดแบนด์ เข้าร่วมประชุม ร่วมกับประธานในที่ประชุม ได้แก่ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. พ.อ.สุวัฒน์ ยศประกอบ และ พ.ท.สุประดิษฐ์ เปล่งฉวี ผู้แทนจาก กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) (เดิมผู้แทนฝั่ง กอ.รส. คือ พลตรีอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.พล.1 รอ. แต่ติดประชุม) รวมถึง นายธนิต ประภาตนันท์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า หลังจาก กอ.รส. ออกคำสั่งที่ 8/2557 เรื่องขอความร่วมมือจากสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2557  เพื่อขอความร่วมในการควบคุมเนื้อหาการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างเหมาะสม ทาง กอ.รส. จึงได้ประสานงานขอความร่วมมือให้ กสทช. เชิญ ISP ที่เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. เข้ามาประชุมเพื่อขอความร่วมมือในการควบคุมเนื้อหาการใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่างเหมาะสม โดยผลการประชุมสรุปว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการทำงานร่วมกันระหว่าง กอ.รส. กระทรวงไอซีที กสทช. หน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อประสานงานกับ ISP ให้ปิดเว็บไซต์ตาม URL ตามรายชื่อที่คณะทำงานส่งให้ภายใน 1 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้ทางทรูอินเทอร์เน็ตได้แจ้งว่า หลังจากมีคำสั่งของ กอ.รส. ฉบับที่ 8/2557 มีการส่งรายชื่อ 6 เว็บไซต์ให้ทาง ISP ปิดแล้ว

พ.ท.สุประดิษฐ์ เปล่งฉวี ผู้แทน กอ.รส. เปิดเผยว่า กระบวนการปิดเว็บไซต์จะเกิดขึ้นหลังได้รับการร้องเรียน โดยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะมีหน้าที่พิจารณาว่า มีเนื้อหาเข้าข่ายกระทบต่อความมั่นคง หมิ่นสถาบัน ศาสนา สร้างความแตกแยกในสังคม เป็นการเผยแพร่ข้อมูลแบบเลือกข้าง ปลุกระดม ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง หรือให้ประชาชนขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่หรือทำให้ประชาชนเกลียดชังการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือทำให้ประชาชนตื่นตระหนก

หากตรวจสอบแล้วพบว่าเข้าข่าย ทางคณะกรรมการจะส่งรายชื่อเว็บไซต์ดังกล่าวให้ทาง กอ.รส. ออกสั่งปิด โดยจะแจ้งให้กระทรวงไอซีที และ กสทช. ประสานงานกับ ISP เพื่อหยุดการเผยแพร่

ผู้แทนจาก ISP รายหนึ่งเปิดเผยว่า การประชุมวันนี้ทาง กอ.รส. กับ กสทช. แจ้งว่า ต่อไปจะทยอยส่งรายชื่อ URL ที่ต้องการให้บล็อก โดยผู้ให้บริการจะต้องบล็อกให้เร็วที่สุด อย่างช้าไม่เกิน 1 ชั่วโมง  หากไม่สามารถดำเนินการได้จะต้องทำหนังสือแจ้งกลับไปรายงานให้ กอ.รส. ทราบทันที






http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1400666329

___________________________________


กสทช.ตั้งทีมจับตาโซเชียล-เว็บปลุกระดม

โพสต์เมื่อ : 21 พ.ค. 2557, 16:32 น.
หมวดหมู่ : ข่าวเด่น
กสทช. ตั้งคณะทำงานร่วม กอ.รส. จับตาโซเชียลมีเดีย-เว็บไซต์ มีเนื้อหายั่วยุ ปลุกระดม ระบุหากพบมีความผิด พร้อมปิดภายใน 1 ชม.

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบ เนื้อหาเว็บไซต์ 24 ชม. ประกอบด้วย กสทช. กองอำนวยการรักษาความสงบ (กอ.รส.) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)

ทั้งนี้ หากพบเว็บไซต์ใดเขัาข่าย ผิดประกาศ ฉบับที่ 8 ของ กอ.รส. คณะทำงานจะประสานผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) ให้ปิดเว็บไซต์ดังกล่าว โดยไอเอสพีสามารถดำเนินการได้ภายใน 1 ชม. ซึ่งกสทช. ได้ขอความร่วมมือไปยังไอเอสพีทั้ง 108 รายที่ได้รับใบอนุญาตแล้ว

สำหรับการดำเนินการในส่วนของไอเอสพี ทางทรู อินเทอร์เน็ต รายงานว่า ได้ปิดเว็บไซต์ไปแล้ว 6 ราย แต่หากเป็นกรณีเว็บไซต์ที่มีที่อยู่ (ไอพีแอดเดรส) ที่ต่างประเทศ เบื้องต้นอาจต้องดำเนินการปิดวงจรเชื่อมต่อต่างประเทศ (เกตเวย์) ชั่วคราว

นายฐากร กล่าวว่า คณะทำงานชุดนี้ ตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ตาม ประกาศ ฉบับที่ 8 กอ.รส. เรื่อง ขอความร่วมมือจากสื่อสังคมออนไลน์ โดย ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสื่อสังคมออนไลน์ระงับการให้บริการในการส่งข้อความเชิงปลุกระดม ยั่วยุ สร้างความรุนแรง ความไม่น่าเชื่อถือและไม่เคารพกฎหมาย ตลอดจนการต่อต้านการปฏิบัติงานของ กอ.รส. หากยังคงมีการดำเนินการอยู่ กอ.รส.จะระงับการให้บริการโดยทันที รวมทั้งเรียกตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมาย

ขณะที่การระงับการออกอากาศชั่วคราวของช่อง วอยซ์ทีวีขึ้นอยู่กับอำนาจของ กอ.รส. โดย กสทช. ยืนยันว่าการระงับออกอากาศไม่เกี่ยวข้องกับการยึดใบอนุญาตที่ได้รับจาก กสทช.

ด้าน พ.ท. สุประดิษฐ์ เปล่งฉวี ตัวแทนจาก กอ.รส. กล่าวว่า เบื้องต้นต้องการให้ทางวอยซ์ทีวีปรับผังรายการที่ออกอากาศอยู่ไม่ให้เป็นไปในรูปแบบเข้าข้าฝ่ายใด ซึ่งหลังจากทางวอยซ์ส่งผังรายการใหม่แล้ว จะขอความเห็นจากกสทช. เพิ่มเติม เพื่อพิจารณาว่าจะออกอากาศอีกครั้งได้เมื่อใด

นอกจกานี้ กอ.รส. ไม่ได้กังวลหรือมีมาตรการใดๆ มาควบคุมกรณีที่มีการตั้งแฮชแท็กบนโลกโซเชียล คือ #ทหารหล่อบอกด้วย และ #soildercuteboy รวมถึงการโพสต์รูปเซลฟี่กับเหล่านายทหารที่ประจำตามพื้นที่ต่างๆ

"มองว่าเป็นสีสันหนึ่ง และจริงๆ แล้วทหารก็คือประชาชนไทย และนอกเหนือเวลาปฏิบัติหน้าที่ก็มีสิทธิ์ที่จะทำกิจกรรมส่วนตัวในรูปแบบต่างๆ" พ.ท.สุประดิษฐ์กล่าว

ทั้งนี้  แฮชแท็ก #ทหารหล่อบอกด้วย และ #soildercuteboy ได้รับความนิยมในเวลาอันรวดเร็วบนสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีการแชร์รูปภาพของทหารหุ่นหล่อล่ำ หรือ หน้าตาสไตล์ เกาหลี ถือเป็นสีสันหนึ่งของการประกาศกฎอัยการศึกตั้งแต่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา

ขณะที่การสั่งระงับออกอากาศช่องวอยซ์ทีวี เบื้องต้นต้องการให้ทางวอยซ์ทีวีปรับผังรายการที่ออกอากาศอยู่ไม่ให้เป็นไปในรูปแบบเข้าข้างฝ่ายใด ซึ่งหลังจากทางวอยซ์ส่งผังรายการใหม่แล้ว จะพิจารณาว่าสามารถออกอากาศอีกครั้งได้เมื่อใด

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊กคุณ Cathay Mee

http://www.posttoday.com/%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%9F%E0%B9%8C/296169/%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B8%8A-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A5-%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%A1