27 พฤษภาคม 2557 Apple ร้องศาลมะกันสั่ง Samsung ลบคุณสมบัติ ‘slide-to-unlock’ รวมถึงคุณสมบัติแก้ไขคำผิดอัตโนมัติ และคุณสมบัติ ‘quick links’ ที่ทำให้ระบบสามารถตรวจสอบข้อความเพื่อวิเคราะห์ว่าข้อความนั้นเป็นเบอร์ โทรศัพท์ วันที่ หรืออีเมลแอดเดรส
ประเด็นหลัก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แอปเปิลส่งเรื่องฟ้องร้องต่อศาลแคลิฟอร์เนียรอบใหม่เมื่อวันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม 2014 ที่ผ่านมา โดยแอปเปิลขอให้ศาลออกคำสั่งเพิ่มเติมเพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจาก ถูกซัมซุงละเมิด 3 สิทธิบัตรเทคโนโลยี ซึ่งครอบคลุมเทคโนโลยีที่เป็นเบื้องหลังฟีเจอร์แสนสะดวกอย่าง ‘slide-to-unlock’ รวมถึงคุณสมบัติแก้ไขคำผิดอัตโนมัติ และคุณสมบัติ ‘quick links’ ที่ทำให้ระบบสามารถตรวจสอบข้อความเพื่อวิเคราะห์ว่าข้อความนั้นเป็นเบอร์ โทรศัพท์ วันที่ หรืออีเมลแอดเดรส
บางส่วนของ 3 สิทธิบัตรเทคโนโลยีนี้อยู่ในขอบข่ายที่ศาลแคลิฟอร์เนียเคยตัดสินให้แอปเปิล ชนะคดีแล้วช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยศาลออกคำสั่งให้ซัมซุงจ่ายค่าเสียหายแก่แอปเปิลมูลค่า 119 ล้านเหรียญสหรัฐฐานละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีของแอปเปิล อย่างไรก็ตาม ค่าเสียหายนี้คำนวณเฉพาะการละเมิดเทคโนโลยีแก้ไขคำพิมพ์ผิดเท่านั้น เนื่องจากการพิจารณาคดียังไม่เสร็จสิ้น พร้อมกับที่ศาลพบว่าแอปเปิลมีการละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีบางอย่างของซัมซุง ด้วยเช่นกัน
______________________________________
Apple ร้องศาลมะกันสั่ง Samsung ลบคุณสมบัติที่ละเมิดออกจากสมาร์ทโฟน
หรือนี่คือจุดเริ่มต้นที่อาจทำให้บางคุณสมบัติหายไปจากสมาร์ทโฟนซัมซุง (Samsung)? ล่าสุดเจ้าพ่อไอทีอเมริกัน “แอปเปิล (Apple)” เดินเรื่องร้องขอต่อศาลแคลิฟอร์เนียให้ลงดาบซัมซุง ด้วยการออกคำสั่งให้ซัมซุงหยุดใช้งานคุณสมบัติที่เข้าข่ายละเมิด 3 สิทธิบัตรเทคโนโลยีของแอปเปิล ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคุณสมบัติพื้นฐานอย่าง “การปาดนิ้วบนหน้าจอเพื่อปลดล็อก (slide-to-unlock)” รวมอยู่ด้วย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แอปเปิลส่งเรื่องฟ้องร้องต่อศาลแคลิฟอร์เนียรอบใหม่เมื่อวันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม 2014 ที่ผ่านมา โดยแอปเปิลขอให้ศาลออกคำสั่งเพิ่มเติมเพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากถูกซัมซุงละเมิด 3 สิทธิบัตรเทคโนโลยี ซึ่งครอบคลุมเทคโนโลยีที่เป็นเบื้องหลังฟีเจอร์แสนสะดวกอย่าง ‘slide-to-unlock’ รวมถึงคุณสมบัติแก้ไขคำผิดอัตโนมัติ และคุณสมบัติ ‘quick links’ ที่ทำให้ระบบสามารถตรวจสอบข้อความเพื่อวิเคราะห์ว่าข้อความนั้นเป็นเบอร์โทรศัพท์ วันที่ หรืออีเมลแอดเดรส
บางส่วนของ 3 สิทธิบัตรเทคโนโลยีนี้อยู่ในขอบข่ายที่ศาลแคลิฟอร์เนียเคยตัดสินให้แอปเปิลชนะคดีแล้วช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยศาลออกคำสั่งให้ซัมซุงจ่ายค่าเสียหายแก่แอปเปิลมูลค่า 119 ล้านเหรียญสหรัฐฐานละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีของแอปเปิล อย่างไรก็ตาม ค่าเสียหายนี้คำนวณเฉพาะการละเมิดเทคโนโลยีแก้ไขคำพิมพ์ผิดเท่านั้น เนื่องจากการพิจารณาคดียังไม่เสร็จสิ้น พร้อมกับที่ศาลพบว่าแอปเปิลมีการละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีบางอย่างของซัมซุงด้วยเช่นกัน
สำหรับคำฟ้องใหม่ล่าสุด สื่อต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่าแอปเปิลปรับท่าทีใหม่โดยไม่ได้ขอให้ศาลสั่งระงับการจำหน่ายสินค้าซัมซุงในสหรัฐฯ อย่างเคย แต่เลือกขอให้ศาลออกคำสั่งหยุดซัมซุง ไม่ให้มีการใช้คุณสมบัติที่พบว่าละเมิดแอปเปิลแทน อย่างไรก็ตาม ซัมซุงให้ความเห็นว่าแม้แอปเปิลจะปรับท่าทีเช่นนี้ แต่ข้อเรียกร้องก็สะท้อนว่าแอปเปิลพยายามจะกีดกันไม่ให้สมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นได้มีโอกาสทำตลาด ทั้งที่ศาลเคยปฏิเสธข้อเรียกร้องมาก่อนหน้านี้
คำปฏิเสธของศาลที่ซัมซุงพูดถึง คือคำพิพากษาของคดีที่แอปเปิลขอให้ศาลสั่งห้ามซัมซุงจำหน่ายสินค้าทุกชิ้นที่ติดตั้งซอฟต์แวร์หรือชุดคำสั่งที่ละเมิดสิทธิบัตรของแอปเปิล โดยคำขอของแอปเปิลครอบคลุมทั้งสินค้าในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาศาลอเมริกันยังไม่เคยตัดสินตามที่แอปเปิลร้องขอแบบชัดเจนแม้แต่ครั้งเดียว
การฟ้องร้องครั้งนี้สะท้อนว่าการยอมความระหว่างแอปเปิลกับกูเกิลนั้นไม่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาทของแอปเปิลและซัมซุง คาดว่าความคืบหน้าของคดีนี้จะได้รับความสนใจจากนักสังเกตการณ์ทั่วโลก ซึ่งกำลังลุ้นว่าสมาร์ทโฟนซัมซุงจะมีการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติพื้นฐานใดหรือไม่ในอนาคต
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000058595
ไม่มีความคิดเห็น: