30 พฤษภาคม 2557 TOT ฉลาด!!! ของบชูความมั่นคงโดยเฉพาะการลงทุนสร้างเคเบิลใต้น้ำมูลค่า 5,979 ล้านบาทเพื่อความมั่นคงในระบบอินเทอร์เน็ต (โดยรวม 35000 ลบ.)
ประเด็นหลัก
พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันตชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะประธานบอร์ดบริษัท ทีโอที กล่าวภายหลังการประชุมบอร์ดทีโอทีเมื่อวันที่ 29 พ.ค. ว่าในวันที่ 31 พ.ค.นี้ทีโอทีจะเข้าร่วมหารือกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เพื่อนำเสนอภารกิจเร่งด่วนของทีโอที 3 โครงการ คือ 1.การลงทุนเคเบิลใยแก้วใต้น้ำ เพื่อขยายวงจรเชื่อมต่อต่างประเทศ2.การเปลี่ยนสายทองแดงเป็นไฟเบอร์ออปติก (FTTx) จำนวน 2 ล้านพอร์ต และ3.การลงทุนโครงการโครงข่ายอัจฉริยะเพื่ออนาคต (NGN)
'บอร์ดทีโอทียังไม่ได้ตัดสินใจลาออก คงต้องรอฟังนโยบายจากคสช.ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ก่อน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าบอร์ดทุกคนได้เซ็นใบลาออกไว้แล้วนั้นขอยืนยันว่าไม่ เป็นความจริง'
ด้านนายยงยุทธ วัฒนสินธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที กล่าวว่า เบื้องต้นทีโอที ได้เตรียมโครงการสำคัญนำเสนอคสช.เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ กับรัฐวิสาหกิจอื่นๆที่จะนำเสนอแผนการลงทุนที่สำคัญ เช่นกัน โดยเฉพาะการลงทุนสร้างเคเบิลใต้น้ำมูลค่า 5,979 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อความมั่นคงในระบบอินเทอร์เน็ตด้วย เพราะปัจจุบันวงจรเชื่อมต่อของทีโอที เชื่อมต่อผ่านมาเลเซีย และสิงคโปร์เท่านั้น ดังนั้นหากเกิดปัญหาก็จะทำให้อินเทอร์เน็ตล่มทั้งประเทศ
นอกจากนี้ยังมีโครงการเปลี่ยนสายทองแดงเป็นไฟเบอร์ออปติกหรือเคเบิลใยแก้ว (FTTx) จำนวน 2 ล้านพอร์ต มูลค่าลงทุน 32,000 ล้านบาท และโครงการลงทุนโครงการโครงข่ายอัจฉริยะเพื่ออนาคต (NGN) มูลค่า2,836 ล้านบาท โดยโครงการทั้งหมดทีโอทีต้องการมุ่งสร้างรายได้ให้ทีโอทีเป็นหลักเพื่อเข้า มาทดแทนรายได้จากสัมปทานที่หมดลงไป และยังเป็นการหาทางรอดเพื่อมิให้ประสบปัญหาภาวะขาดทุน
______________________________________
ทีโอที ชง 3 โครงการใหญ่ 4 หมื่นล้านบาทเสนอคสช.พิจารณา 31 พ.ค.นี้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ทีโอที ชง 3 โครงการใหญ่ 4 หมื่นล้านบาทเสนอคสช.พิจารณา 31 พ.ค.นี้
พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันตชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะประธานบอร์ดบริษัท ทีโอที
บอร์ด ทีโอที เตรียมเสนอ 3 โครงการใหญ่ รวมมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาท ขอความเห็นชอบคสช. 31 พ.ค.นี้ ชูโครงการเคเบิลใยแก้วใต้น้ำ , FTTx ,NGN ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศได้
พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันตชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะประธานบอร์ดบริษัท ทีโอที กล่าวภายหลังการประชุมบอร์ดทีโอทีเมื่อวันที่ 29 พ.ค. ว่าในวันที่ 31 พ.ค.นี้ทีโอทีจะเข้าร่วมหารือกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เพื่อนำเสนอภารกิจเร่งด่วนของทีโอที 3 โครงการ คือ 1.การลงทุนเคเบิลใยแก้วใต้น้ำ เพื่อขยายวงจรเชื่อมต่อต่างประเทศ2.การเปลี่ยนสายทองแดงเป็นไฟเบอร์ออปติก (FTTx) จำนวน 2 ล้านพอร์ต และ3.การลงทุนโครงการโครงข่ายอัจฉริยะเพื่ออนาคต (NGN)
'บอร์ดทีโอทียังไม่ได้ตัดสินใจลาออก คงต้องรอฟังนโยบายจากคสช.ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ก่อน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าบอร์ดทุกคนได้เซ็นใบลาออกไว้แล้วนั้นขอยืนยันว่าไม่ เป็นความจริง'
ด้านนายยงยุทธ วัฒนสินธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที กล่าวว่า เบื้องต้นทีโอที ได้เตรียมโครงการสำคัญนำเสนอคสช.เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ กับรัฐวิสาหกิจอื่นๆที่จะนำเสนอแผนการลงทุนที่สำคัญ เช่นกัน โดยเฉพาะการลงทุนสร้างเคเบิลใต้น้ำมูลค่า 5,979 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อความมั่นคงในระบบอินเทอร์เน็ตด้วย เพราะปัจจุบันวงจรเชื่อมต่อของทีโอที เชื่อมต่อผ่านมาเลเซีย และสิงคโปร์เท่านั้น ดังนั้นหากเกิดปัญหาก็จะทำให้อินเทอร์เน็ตล่มทั้งประเทศ
แต่โครงการของทีโอที จะเชื่อมต่อไปทางฝั่งจังหวัดสตูล เพื่อไปยังยุโรปโดยไม่ผ่านมาเลเซียและสิงคโปร์ และอีกฝั่งจะเชื่อมไปทางด้านจังหวัดสงขลา เพื่อไปเชื่อมต่อไปยังญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตของไทยมีระบบสำรอง จากปัจจุบันไม่มีระบบสำรองแต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังมีโครงการเปลี่ยนสายทองแดงเป็นไฟเบอร์ออปติกหรือเคเบิลใยแก้ว (FTTx) จำนวน 2 ล้านพอร์ต มูลค่าลงทุน 32,000 ล้านบาท และโครงการลงทุนโครงการโครงข่ายอัจฉริยะเพื่ออนาคต (NGN) มูลค่า2,836 ล้านบาท โดยโครงการทั้งหมดทีโอทีต้องการมุ่งสร้างรายได้ให้ทีโอทีเป็นหลักเพื่อเข้า มาทดแทนรายได้จากสัมปทานที่หมดลงไป และยังเป็นการหาทางรอดเพื่อมิให้ประสบปัญหาภาวะขาดทุน
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000060330
___________________________________________________
ทีโอทีเสนอแผนสกัดเน็ตล่ม!
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันตชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะประธานกรรมการบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ดทีโอทีวานนี้ (29 พ.ค.) ว่า ในวันที่ 31 พ.ค.นี้จะเข้าร่วมหารือกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อนำเสนอภารกิจเร่งด่วนของทีโอที 3 โครงการ คือ การลงทุนเคเบิลใยแก้วใต้น้ำ เพื่อขยายวงจรเชื่อมต่อต่างประเทศ การลงทุนขยายการให้บริการอินเตอร์เน็ต 2 ล้านเลขหมาย และการลงทุนปรับปรุงโครงข่ายอัจฉริยะ ส่วนข่าวลือว่ากรรมการทุกคนได้เซ็นใบลาออกไว้แล้วนั้น ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจลาออก เพราะต้องรอฟังนโยบายจาก คสช.ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ก่อน
ด้านนายยงยุทธ วัฒนสินธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที กล่าวว่า ทีโอที ได้เตรียมโครงการสำคัญนำเสนอ คสช.เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศกับรัฐวิสาหกิจอื่นๆที่จะนำเสนอแผนการลงทุนเช่นเดียวกัน ได้แก่ การลงทุนสร้างเคเบิลใต้น้ำมูลค่า 5,979 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการใช้อินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อความมั่นคงในระบบอินเตอร์เน็ต โดยปัจจุบันวงจรเชื่อมต่อของทีโอที เชื่อมผ่านมาเลเซียและสิงคโปร์เท่านั้น หากเกิดปัญหาระบบอินเตอร์เน็ตก็จะล่มทั้งประเทศ แต่โครงการของทีโอที จะเป็นระบบสำรอง ที่จะเชื่อมทางฝั่งจังหวัดสตูล ไปยังยุโรป โดยไม่ผ่านมาเลเซียและสิงคโปร์ และอีกฝั่งจะเชื่อมทางฝั่งจังหวัดสงขลา เชื่อมต่อไปยังเอเชีย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะทำให้วงจรเชื่อมต่อต่างประเทศมีทางออกหลายช่องทาง
ส่วนโครงการขยายการให้บริการอินเตอร์เน็ตจำนวน 2 ล้านเลขหมาย มูลค่าลงทุน 32,000 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงโครงข่ายโทรคมนาคม มูลค่า 2,836 ล้านบาท เพื่อมุ่งสร้างรายได้ให้ทีโอทีเป็นหลัก หลังจากปีนี้เป็นต้นไป ทีโอที จะไม่มีรายได้จากสัญญาสัมปทานมือถืออีกต่อไป ทำให้ทีโอที ต้องเร่งผลักดันโครงการที่จะสร้างรายได้ เพื่อมิให้ประสบปัญหาภาวะขาดทุน.
http://www.thairath.co.th/content/426166
ไม่มีความคิดเห็น: