12 มิถุนายน 2557 Commart Thailand ครั้งนี้ตั้งเป้ายอดเงินสะพัดภายในงานครั้งนี้อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท จากสินค้าคอมพิวเตอร์ 50%, สมาร์ทดีไวซ์ 30% โทรทัศน์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง 10%
ประเด็นหลัก
ครั้งนี้ตั้งเป้ายอดเงินสะพัดภายในงานครั้งนี้อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท จากสินค้าคอมพิวเตอร์ 50%, สมาร์ทดีไวซ์ 30% โทรทัศน์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง 10% และอื่น ๆ เช่น พรินเตอร์ 10% ซึ่งมูลค่าใกล้เคียงกับครั้งที่ผ่านมาที่ทำได้ 2,200 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้เล็กน้อยแม้ช่วงนั้นจะมีเหตุการณ์ความไม่สงบทางการ เมืองค่อนข้างรุนแรง ดังนั้น ในครั้งนี้จึงมีโอกาสที่ยอดขายจะทะลุเป้า
______________________________________
"คอมมาร์ต"อัดยาแรงปลุกกำลังซื้อวัดมู้ดจับจ่ายครึ่งปีหลัง
ศึก "คอมมาร์ต" วัดมู้ดจับจ่ายครึ่งปีหลัง "เออาร์ไอพี" เผยผู้ผลิตสินค้าไอที-สมาร์ทโฟนแบรนด์ดังและขาใหญ่ค้าปลีกแห่ร่วมงานคึกคัก พร้อมหั่นราคาและอัดฉีดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายเต็มพิกัด ทั้งเปิดพื้นที่ขายทีวีดิจิทัล และเซตท็อปบ็อกซ์รับกระแสฟุตบอลโลก
นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอที บมจ.เออาร์ไอพี ผู้จัดงานคอมมาร์ต กล่าวว่า ในการจัดงาน "คอมมาร์ต เน็กซ์เจน 2014" ระหว่างวันที่ 19-22 มิ.ย. 2557 นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้รับการตอบรับจากผู้ผลิตและผู้ประกอบการร้านค้าสินค้าไอทีค่อนข้างดี เกือบทุกรายยืนยันเข้าร่วมงาน เช่น ไอที ซิตี้, เจไอบี, เอซุส, เดลล์, โตชิบา รวมถึงเอชพีก็กลับมาจองพื้นที่เพื่อโชว์นวัตกรรมใหม่และขายสินค้าเช่นกัน จึงเหลือยักษ์ใหญ่อีกไม่กี่รายที่อยู่ระหว่างรอการยืนยัน คาดว่าบรรยากาศการจับจ่ายในงานน่าจะคึกคัก เพราะสถานการณ์บ้านเมืองเข้าสู่ความสงบจากที่ผ่านมากำลังซื้อของผู้บริโภคมี แต่ไม่จับจ่าย
"เกือบทุกรายจองพื้นที่กันหมดแล้ว ขนาดใกล้เคียงกับครั้งที่จัดเมื่อเดือน มี.ค. ที่สำคัญงานนี้มีเอชพีที่ไม่ได้มาร่วมงานระยะหนึ่งกลับมาจองพื้นที่อีกครั้ง แสดงให้เห็นถึงกระแสงานคอมมาร์ตยังดีอยู่ แต่รูปแบบการขายสินค้าจะกระจายไปอยู่ในบูทของร้านค้าปลีกมากขึ้น เพราะบูทเหล่านี้กระจายอยู่ทั่วงานไม่ได้กระจุกอยู่ในเพลนนารี่ ฮอลล์ ในฝั่งค้าปลีกรอคอมเซเว่นว่าจะกลับมาหรือไม่ เราเปิดโซนพลาซ่ารอไว้แล้ว"
การจัดงานครั้งนี้ นอกจากไม่มีการขึ้นค่าเช่าแล้ว ยังมีสิทธิพิเศษจูงใจต่าง ๆ เพื่อดึงผู้ค้าสินค้าไอทีเข้ามาร่วมงานให้มากที่สุด เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายโน้ตบุ๊กและเดสก์ทอป ซึ่งเป็นรายได้หลักของ
ผู้ค้าไอทีให้ถึงเป้ารวมที่ 3 ล้านเครื่อง/ปี หลังจากในไตรมาสแรกยอดขายหดตัวลงอย่างชัดเจน
"เมื่อมีการยึดอำนาจโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ คลี่คลายลง คาดว่าผู้บริโภคจะเริ่มปลดปล่อยกำลังซื้อที่อั้นมา และสินค้าไอทีเป็นสิ่งจำเป็นในยุคปัจจุบัน นอกจากสินค้าไอทีแล้ว สมาร์ทดีไวซ์เป็นอีกประเภทที่มียอดขายค่อนข้างสูง"
สำหรับไฮไลต์ของงานในครั้งนี้จะเป็นการลดราคาโน้ตบุ๊ก และเดสก์ทอปรุ่นต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่รอซื้อสินค้าราคาถูก ซึ่งต่างไปจากการจัดงานทุกครั้งที่คอมมาร์ตในช่วงกลางปีมักเน้นไปที่การโชว์นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ
นอกจากนี้ ยังมีสมาร์ทดีไวซ์หลายรุ่นหลายยี่ห้อ เน้นไปที่สมาร์ทโฟนเพราะเป็นอีกความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน เนื่องจากราคาถูกลงและสามารถใช้งานตอบสนองความบันเทิงได้เหมือนคอมพิวเตอร์ รวมถึงอุปกรณ์สวมใส่ไฮเทคหรือ Wearable Device ที่จะมีวางขายในงานนี้มากขึ้นเช่นกัน
แต่ที่แปลกไปกว่าทุกครั้ง คือ จะมีโปรดักต์เกี่ยวกับการรับชมโทรทัศน์มากขึ้น จากเดิมมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ครั้งนี้มีแบรนด์ใหญ่มาตั้งบูทเพื่อจำหน่ายโทรทัศน์ระบบดิจิทัล รวมถึงการจำหน่ายกล่องเซตท็อปบ็อกซ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแอนดรอยด์บ็อกซ์ และกล่องรับชมทีวีดิจิทัล เป็นต้น เพื่อตอบรับกระแสทีวีดิจิทัล และฟุตบอลโลกที่จะเริ่มขึ้นในช่วงกลางเดือน มิ.ย.นี้
ครั้งนี้ตั้งเป้ายอดเงินสะพัดภายในงานครั้งนี้อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท จากสินค้าคอมพิวเตอร์ 50%, สมาร์ทดีไวซ์ 30% โทรทัศน์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง 10% และอื่น ๆ เช่น พรินเตอร์ 10% ซึ่งมูลค่าใกล้เคียงกับครั้งที่ผ่านมาที่ทำได้ 2,200 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้เล็กน้อยแม้ช่วงนั้นจะมีเหตุการณ์ความไม่สงบทางการ เมืองค่อนข้างรุนแรง ดังนั้น ในครั้งนี้จึงมีโอกาสที่ยอดขายจะทะลุเป้า
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1402399292
ไม่มีความคิดเห็น: