Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

19 มิถุนายน 2557 Commart Next Gen Thailand 2014.พรชัย ระบุ ต้องการยอกขาย 2,000 ล้านบาท วางขายในงานแบ่งเป็นโน้ตบุ๊ก 60%, 20% สมาร์ทดีไวซ์ ที่เหลือเป็นสินค้าอื่น ๆ


ประเด็นหลัก

นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอที บมจ.เออาร์ไอพี ผู้จัดงานคอมมาร์ต เปิดเผยว่า หลังจากความไม่สงบทางการเมืองคลี่คลายทำให้ผู้บริโภคกลับมาใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าอีกครั้ง ดังนั้นคาดว่า ในงาน "คอมมาร์ต เน็กซ์เจน 2014" ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 มิ.ย.นี้ ที่ในศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์จะได้รับผลดีตามไปด้วย บริษัทจึงตั้งเป้ายอดผู้เข้างานที่ 6 แสนคนใกล้เคียงปีที่แล้ว และมียอดขายรวมกว่า 2,000 ล้านบาท

"เราตั้งเป้าไม่สูงไว้ก่อน เมื่อต้นปีก็ตั้งไว้ 2 พันล้าน แต่ทำได้จริง 2.2 พันล้านบาท ทั้งที่มีปัญหาการเมืองค่อนข้างแรง ครั้งนี้มีโอกาสที่จะทะลุเป้าเช่นกัน แต่ยังน่าจะน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เพราะครั้งนั้นทำได้ถึง 2.8 พันล้านบาท"

สำหรับสินค้าที่วางขายในงานแบ่งเป็นโน้ตบุ๊ก 60%, 20% สมาร์ทดีไวซ์ ที่เหลือเป็นสินค้าอื่น ๆ เมื่อเทียบกับพื้นที่ทั้งหมดในงาน ถ้าเทียบตามสัดส่วนรายได้จะไล่ตั้งแต่ โน๊ตบุ๊ก 50%, สมาร์ทดีไวซ์ 30%, โทรทัศน์ดิจิทัล 10% และอื่น ๆ 10% ขณะที่พื้นที่ในงานลดลงไป 20% เนื่องจากร้านค้าปลีกรายใหญ่แห่งหนึ่งไม่มาร่วมงานต่อเนื่องมาตั้งแต่งานครั้งแรกเมื่อต้นปี


______________________________________

เปิดแล้ว "คอมมาร์ต" เป้ายอดขาย 4 วัน 2 พันล้าน ลุ้นทะลุเป้า-เปิดงานวันแรกยังไม่คึกคัก


ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอที บมจ.เออาร์ไอพี ผู้จัดงานคอมมาร์ต เปิดเผยว่า หลังจากความไม่สงบทางการเมืองคลี่คลายทำให้ผู้บริโภคกลับมาใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าอีกครั้ง ดังนั้นคาดว่า ในงาน "คอมมาร์ต เน็กซ์เจน 2014" ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 มิ.ย.นี้ ที่ในศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์จะได้รับผลดีตามไปด้วย บริษัทจึงตั้งเป้ายอดผู้เข้างานที่ 6 แสนคนใกล้เคียงปีที่แล้ว และมียอดขายรวมกว่า 2,000 ล้านบาท

"เราตั้งเป้าไม่สูงไว้ก่อน เมื่อต้นปีก็ตั้งไว้ 2 พันล้าน แต่ทำได้จริง 2.2 พันล้านบาท ทั้งที่มีปัญหาการเมืองค่อนข้างแรง ครั้งนี้มีโอกาสที่จะทะลุเป้าเช่นกัน แต่ยังน่าจะน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เพราะครั้งนั้นทำได้ถึง 2.8 พันล้านบาท"

สำหรับสินค้าที่วางขายในงานแบ่งเป็นโน้ตบุ๊ก 60%, 20% สมาร์ทดีไวซ์ ที่เหลือเป็นสินค้าอื่น ๆ เมื่อเทียบกับพื้นที่ทั้งหมดในงาน ถ้าเทียบตามสัดส่วนรายได้จะไล่ตั้งแต่ โน๊ตบุ๊ก 50%, สมาร์ทดีไวซ์ 30%, โทรทัศน์ดิจิทัล 10% และอื่น ๆ 10% ขณะที่พื้นที่ในงานลดลงไป 20% เนื่องจากร้านค้าปลีกรายใหญ่แห่งหนึ่งไม่มาร่วมงานต่อเนื่องมาตั้งแต่งานครั้งแรกเมื่อต้นปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศในช่วงเปิดงานวันนี้ (19 มิ.ย.2557) ในช่วงเช้า โดยรวมค่อนข้างเงียบเหงา มีเพียงบูทที่จำหน่ายสมาร์ท
ดีไวซ์เท่านั้นที่มีคนเข้าไปให้ความสนใจ ต่างจากโซนขายคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ กลับไม่คึกคักนัก





http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1403156213

`__________________________________


เออาร์ไอพีอัด 5 ล้านส่งแคมเปญกระตุ้นยอดคอมมาร์ต


       เออาร์ไอพีตั้งเป้ายอดขายงานคอมมาร์ตเท่าเดิมที่ 2,000 ล้านบาท ยังหวั่นกำลังซื้อที่อาจถูกฤดูเปิดเทอมแย่งไป เผยที่ผ่านมาได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานให้ทันกับเทคโนโลยีมาตลอด เช่นเดียวกับปีนี้ที่นำเสนอทีวีดิจิตอลเพิ่มขึ้น พร้อมอัดงบ 5 ล้านบาทกระตุ้นกำลังซื้อและเพิ่มความคุ้มค่าให้ผู้เช่าพื้นที่ เผยเทรนด์ที่น่าสนใจ Wearable Device มาแรง
     
       นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอที บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานคอมมาร์ต กล่าวว่า การจัดงานคอมมาร์ต เน็กซ์เจน 2014 ในครั้งนี้ เออาร์ไอพีได้ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท เท่ากับการจัดงานในครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากแม้สถานการณ์บ้านเมืองจะเริ่มคลี่คลายลงบ้างแล้ว แต่ยังติดในเรื่องของฤดูกาลเปิดเทอมที่แต่ละครอบครัวมีภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงเวลากลางปีการจัดงานในลักษณะนี้จะค่อนข้างเงียบเหงา

เออาร์ไอพีอัด 5 ล้านส่งแคมเปญกระตุ้นยอดคอมมาร์ต

       ทั้งนี้เออาร์ไอพีได้ทำการปรับรูปแบบของการจัดงานตลอดจนสินค้าที่จะนำมาแสดงให้พร้อมรับมือกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา โดยล่าสุดได้เพิ่มพื้นที่ในส่วนของการนำเสนอทีวีดิจิตอลเพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบรับกับกระแสผู้บริโภคที่กำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ รวมไปถึงการเพิ่มงบประมาณทางการตลาดมากกว่า 5 ล้านบาทเพื่อจัดแคมเปญดึงดูดในผู้บริโภคและสร้างยอดขายให้ได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังได้เพิ่มออปชันเสริมสำหรับเวนเดอร์ที่เข้ามาออกบูธภายในงานอีกด้วย
     
       “รายได้จากงานคอมมาร์ตครั้งที่ผ่านมามียอดรวมทั้งสิ้น 2,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากที่ตั้งเป้าไว้ 200 ล้านบาท เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากตลาดเกมเมอร์ที่มีการซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่วนในครั้งนี้ที่ตั้งยอดไว้เท่าเดิมเนื่องจากเป็นการประเมินตามสภาพตลาดในเบื้องต้นเท่านั้น แต่อาจจะมากกว่านี้ก็มีความเป็นไปได้เพราะอาจจะมีปัจจัยเสริมอื่นๆ เพิ่มเข้ามา”

เออาร์ไอพีอัด 5 ล้านส่งแคมเปญกระตุ้นยอดคอมมาร์ต
นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอที บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน)

       นายพรชัย กล่าวว่า สำหรับคอนเซ็ปต์ของการจัดงานในครั้งนี้ ใช้ชื่อว่า Digital DNA หรือสัมผัสโลกดิจิตอลที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณ เนื่องจากเออาร์ไอพีมองว่า ปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มมีการใช้อุปกรณ์ดิจิตอล และปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตใหม่ด้วยการนำสิ่งเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนการรับรู้ข่าวสารแบบใหม่จากเดิมที่เปิดเว็บไซต์ ก็เปลี่ยนมาเป็นการเข้าแอปพลิเคชันที่สามารถเลือกหมวดหมู่ข่าวที่ต้องการจะอ่านได้ทันที และหยิบมาอ่านตลอดเวลา เป็นต้น

เออาร์ไอพีอัด 5 ล้านส่งแคมเปญกระตุ้นยอดคอมมาร์ต

       สำหรับเทรนด์การของเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความสนใจในขณะนี้คือในส่วนของอุปกรณ์ประเภท Wearable Device หรืออุปกรณ์ไฮเทคที่สามารถนำมาสวมใส่ ซึ่งทำหน้าที่ได้มากกว่าปกติ อาทิ กูเกิลกลาส ตลอดจนอุปกรณ์วัดสมรรถนะร่างกายส่วนบุคคลต่างๆ โดยในต่างประเทศเริ่มได้รับความนิยมกันมากขึ้นแล้ว ส่วนตลาดในเมืองไทยยังคงต้องรอสักระยะหนึ่ง แม้ว่าขณะนี้จะเริ่มมีผู้ใช้บ้างแล้วก็ตาม โดยเทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับงานคอมมาร์ตในครั้งนี้นอกเหนือไปจาก ผลิตภัณฑ์ที่ได้กล่าวไปแล้ว ยังรวมถึง ปากกาวาดภาพ 3 มิติ ตัวแรกของโลก เทคโนโลยีการเคลือบอุปกรณ์เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากน้ำ เป็นต้น

เออาร์ไอพีอัด 5 ล้านส่งแคมเปญกระตุ้นยอดคอมมาร์ต

       สำหรับแคมเปญที่น่าสนใจภายในงาน อาทิ การมอบโชคให้กับผู้ร่วมงาน 3 ชั้น คือ ชั้นที่ 1 ผู้ชมที่ลงทะเบียนออนไลน์หน้างานจะมีการจับรายชื่เพื่อมอบบัตรกำนัลสตาร์บัคมูลค่ารวมกว่า 1 แสนบาท ชั้นที่ 2 ลงทะเบียนออนไลน์พร้อมปริ้นต์หลักฐาน ลุ้นรับทองคำ 50 สตางค์ ทุกวัน รวม 40 เส้น และโชคชั้นที่ 3 ซื้อสินค้าครบ 3,000บาท ลุ้นรถยนต์นิสสันมาร์ช มูลค่ากว่า 400,000 บาท





http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000069117

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.