Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

14 กรกฎาคม 2557 AIS.สมชัย ระบุ ที่ผ่านมารายได้จากการให้บริการด้านเสียง (Voice)จะลดลงแต่รายได้จากการให้บริการด้านข้อมูล (Data)เติบโตอย่างต่อเนื่อง


ประเด็นหลัก


   alt ขณะที่นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ช่วงรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม ว่า สำหรับการทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง เอไอเอส ตั้งเป้าเป็นผู้นำโทรศัพท์เคลื่อนที่ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้า 40 ล้านเลขหมายแบ่งเป็นระบบ จีเอสเอ็ม 900 จำนวน 10 ล้านเลขหมาย และ ระบบ 3 จี 2100 ในไตรมาสที่ 1/2557 มีฐานลูกค้าประมาณ 26 ล้านเลขหมาย
    แม้ว่าที่ผ่านมารายได้จากการให้บริการด้านเสียง (Voice)จะลดลงแต่รายได้จากการให้บริการด้านข้อมูล (Data)เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อมั่นว่า ผลประกอบการของ เอไอเอส หลังจากนี้จะเติบโตมากกว่าตลาดโดยรวมได้ และ มากกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจ หรือ จีดีพีได้ด้วย ซึ่งเชื่อว่าสัดส่วนรายได้ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจะเติบโตขึ้น เพราะมีสัดส่วนเพียง 10% เท่านั้น ขณะที่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีนมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 35%

______________________________________

ค่ายมือถือมั่นใจ กำลังซื้อครึ่งปีหลังฉลุย




 ศุกร์ที่  4  กรกฎาคม  2557 ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยตอนหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดถึง การกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยประเมินว่า เศรษฐกิจประเทศไทยจะโตขึ้นทั้งปี เพียงแค่ 1.5%
   alt ซึ่ง คสช. ทราบดีจะพยายามผลักดันให้ได้เกิน 2% เพราะฉะนั้นแนวทางที่มีอยู่ในปัจจุบันคือกระตุ้นเศรษฐกิจของคนรายได้น้อย ให้ธนาคารต่าง ๆ เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ได้พิจารณาทำโครงการต่าง ๆ ที่จะให้กลุ่มประชาชนได้กู้ยืมเงินไปลงทุนให้มากขึ้น

    จากผลพวงดังกล่าวล่าสุด "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวมความเห็นเกี่ยวกับผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เกี่ยวกับแผนการทำตลาดในครึ่งปีสุดท้าย  หลังจากคสช.มีนโยบายขอปรับเป้าจีดีพี เพิ่มขึ้นเป็น 2%
++ไอ-โมบายไม่ปรับเป้า
    นายธนานันท์ วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ ไอ โมบาย จำกัด (มหาชน) หรือ SIM เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การที่ คสช.มีนโยบายผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตให้ได้เกิน 2% ภายในปีนี้ส่งผลในด้านบวก ถือว่าเป็นแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น
    อย่างไรก็ตามการทำตลาดในครึ่งปีหลัง SIM ไม่มีการปรับลดเป้าแต่อย่างใด โดยจะเน้นโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่สามารถรับ-ชม ทีวีดิจิตอล เป็นจุดขายซึ่งขณะนี้ได้ออกสินค้าไปแล้วจำนวน 4 รุ่น โดยสิ้นปีนี้จะออกอีกจำนวน 10 รุ่น
   alt "ผมว่าเศรษฐกิจประเทศเลยจุดตกต่ำสุดแล้ว ครึ่งปีหลังถ้ามีการกระตุ้นเศรษฐกิจเชื่อว่ากำลังซื้อก็จะกลับมา"
    นอกจากนี้แล้วภายในสิ้นปีนี้ SIM จะสามารถจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ถึง 4 ล้านเครื่อง ส่วนกรณีที่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เข้ามาถือหุ้นใหญ่ใน SIM ส่งผลให้สัดส่วนและผลประกอบการของ บมจ.สามารถเป็นไปในทิศทางที่ดี และ เชื่อว่าผลประกอบการของ SIM ในปีนี้มีกำไรเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
 ++เจมาร์ท "มั่น" ครึ่งปีหลังสดใส
    เช่นเดียวกับนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวในทำนองเดียวกันว่า เชื่อว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีสุดท้ายมีการเติบโตเพิ่มขึ้นตามลำดับ เนื่องจาก คสช.มีนโยบายปรับจีดีพี เพิ่มขึ้นเป็น 2% ดังนั้นเชื่อว่า กำลังซื้อจะกลับมาเหมือนเดิม ดังนั้นการลงทุนไม่ปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด โดยในปีนี้ เจมาร์ท ได้ใช้งบลงทุนจำนวนสิ้น 1,600 ล้านบาท และ ตอนนี้ได้ใช้ไปแล้ว 60% ในการขยายสาขาเพิ่มอีก 20 สาขา และ สิ้นปีจะเพิ่มเป็น 280 สาขา นอกจากใช้งบประมาณในการขยายสาขาแล้ว ยังทำกิจกรรมทางด้านการตลาดควบคู่กันไปอีกด้วย
++โอเปอเรเตอร์เผยปรับเป้าดีต่อชาติ
    ด้านนายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า การปรับเป้าในช่วงครึ่งปีหลังเป็นผลดีต่อประเทศชาติ ถ้าทำได้เศรษฐกิจหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจมีมูลค่าเพิ่มขึ้น และ ธุรกิจมีการตอบรับในเรื่องนี้ สำหรับการปรับเป้าของ ดีแทค ในขณะนี้ยังไม่มีเพราะการทำตลาดของ ดีแทค ในขณะนี้มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง
   alt ขณะที่นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ช่วงรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม ว่า สำหรับการทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง เอไอเอส ตั้งเป้าเป็นผู้นำโทรศัพท์เคลื่อนที่ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้า 40 ล้านเลขหมายแบ่งเป็นระบบ จีเอสเอ็ม 900 จำนวน 10 ล้านเลขหมาย และ ระบบ 3 จี 2100 ในไตรมาสที่ 1/2557 มีฐานลูกค้าประมาณ 26 ล้านเลขหมาย
    แม้ว่าที่ผ่านมารายได้จากการให้บริการด้านเสียง (Voice)จะลดลงแต่รายได้จากการให้บริการด้านข้อมูล (Data)เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อมั่นว่า ผลประกอบการของ เอไอเอส หลังจากนี้จะเติบโตมากกว่าตลาดโดยรวมได้ และ มากกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจ หรือ จีดีพีได้ด้วย ซึ่งเชื่อว่าสัดส่วนรายได้ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจะเติบโตขึ้น เพราะมีสัดส่วนเพียง 10% เท่านั้น ขณะที่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีนมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 35%




จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,964 วันที่ 10 - 12 กรกฎาคม  พ.ศ. 2557


http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=238064:2014-07-08-08-17-13&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.U8KqgFZAeuw

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.