Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

15 กรกฎาคม 2557 OLX.ทิวา ยอร์ค ระบุ ยอดผู้ใช้งานผ่านเว็บไซต์โอแอลเอ็กซ์เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดถึง 300% ตั้งแต่ต้นปี 2557 ) พบว่าลูกค้ากลุ่มที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี ชอบคุยไลน์เพื่อติดต่อซื้อสินค้า ขณะที่คนอายุมากกว่า 35 ปี ชอบโทรศัพท์มากกว่า


ประเด็นหลัก


OLX รุกโปรโมตโหม C2C

ฟากยักษ์อีคอมเมิร์ซอีกราย ทิวา ยอร์ค กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ บริษัท สนุก ออนไลน์ จำกัด เป็นผู้ดูแลเว็บไซต์ OLX กล่าวว่า ยอดผู้ใช้งานผ่านเว็บไซต์โอแอลเอ็กซ์เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดถึง 300% ตั้งแต่ต้นปี 2557 เพราะพยายามตอบโจทย์ผู้ใช้งานทำให้ใช้งานง่ายขึ้น เช่น เพิ่มช่องใส่ข้อมูลไลน์ไอดีของผู้ขายสินค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ซื้อในการติดต่อ เพราะโอแอลเอ็กซ์เป็นอีคอมเมิร์ซแบบ C2C (Customer to Customer) พบว่าลูกค้ากลุ่มที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี ชอบคุยไลน์เพื่อติดต่อซื้อสินค้า ขณะที่คนอายุมากกว่า 35 ปี ชอบโทรศัพท์มากกว่า

"แอ็กเคานต์ไลน์เป็นทางการก็น่าสนใจ แต่ยังหารูปแบบที่เหมาะหรือสร้างสิทธิประโยชน์ให้ผู้ใช้งานไม่ได้ จึงยังไม่มีแผนเปิดเร็ว ๆ นี้ และจากการสำรวจพบว่าผู้ใช้โอแอลเอ็กซ์อยู่ในกลุ่มอายุ 24-44 ปี เป็นส่วนใหญ่ แต่เริ่มมีการเติบโตมากขึ้นในกลุ่มอายุ 44 ปี ขึ้นไป สินค้าที่นิยมซื้อขายยังเป็นพระเครื่อง สินค้าแฟชั่น นาฬิกา และแว่นกันแดด รองลงมาเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และรถยนต์"

"โอแอลเอ็กซ์" ถือเป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซรายแรกที่โฆษณาโปรโมตบริการผ่านสื่อโทรทัศน์อย่างแพร่หลาย เพื่อสร้างการรับรู้และแนะนำบริการขายสินค้าออนไลน์ เนื่องจากมองว่าคนไทยยังใหม่กับรูปแบบธุรกิจนี้ และโฆษณาทางทีวียังเป็นการเผยแพร่ข้อมูลในที่กว้างที่สุด เหมาะกับโอแอลเอ็กซ์ที่อยู่ในช่วงการทำความรู้จักและแนะนำบริการ


______________________________________

สมรภูมิ "อีคอมเมิร์ซ" คึกคัก เวที "ยักษ์ชนยักษ์" รุกสร้างชื่อ-เข้าถึงลูกค้า


ยังคงเป็นขาขึ้นอย่างแท้จริงสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยมีการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเป็นแรงผลักดันให้บรรดาผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซทั้งหลายต้องปรับปรุงหน้าร้านเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีข้อจำกัดมากกว่าการใช้ผ่านโน้ตบุ๊กหรือคอมพิวเตอร์พีซีด้วยขนาดหน้าจอที่เล็กกว่า เป็นต้น

ไม่ใช่แค่การปรับตัวตอบโจทย์ลูกค้ายุคสมาร์ทดีไวซ์บูมเท่านั้น หากพิจารณาจากความเคลื่อนไหวของขาใหญ่ในวงการทั้งหลายต้องยอมรับว่าคึกคักและร้อนแรงขึ้นเป็นอย่างยิ่ง

"ลาซาด้า" เปิดเกมรุกครบวงจร

"ริคคาร์โด บาซิล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า โอกาสในการทำตลาดของธุรกิจอีคอมเมิร์ซเพิ่มมากขึ้นจากการที่เศรษฐกิจในประเทศกลุ่มอาเซียนยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยจะประสบปัญหาการเมืองวุ่นวาย แต่ขณะนี้สถานการณ์โดยรวมกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ประกอบกับการเข้าถึงธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นเทรนด์ของโลก จึงมีการเติบโตที่มากในแต่ละประเทศเช่น ประเทศจีนมีอัตราเข้าถึงอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นจาก 1% เป็น 7.9%

"ประเทศไทยก็ยังมีโอกาสอีกมากสำหรับตลาดอีคอมเมิร์ซ เพราะห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ยังมีเฉพาะตามหัวเมืองต่างจังหวัดเท่านั้น จึงเป็นโอกาสที่ทำให้คนที่อยากซื้อสินค้าหันมาซื้อสินค้าออนไลน์แทน รวมเข้ากับอัตราการใช้โทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้นผลักดันการเจริญเติบโตของอีคอมเมิร์ซ ทำให้คนซื้อสินค้าออนไลน์ที่ไหนก็ได้"

สำหรับเว็บไซต์ลาซาด้ามีลูกค้าเพิ่มขึ้น 50% จากกลุ่มที่ใช้โทรศัพท์มือถือทำให้บริษัทหันมาโฟกัสการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือมากขึ้นด้วยการพัฒนาระบบให้ดีขึ้นเพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกทั้งการเข้าผ่านเว็บไซต์ และแอปพลิเคชั่นรองรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์, ไอโอเอส และวินโดว์ และเพื่อรุกสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย บริษัทได้ใช้งบประมาณสูงที่สุดเท่าที่เคยใช้ในการสร้างโฆษณาทางโทรทัศน์ จำนวน 3 ชุด เจาะกลุ่มผู้หญิงที่ชอบช็อปปิ้ง, กลุ่มผู้ชายที่ชอบซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มครอบครัว

โหมสร้างแบรนด์เข้าถึงคนไทย

"โฆษณาชุดนี้ต้องการสร้างความเข้าใจกับลูกค้าว่าการซื้อขายสินค้าออนไลน์นอกจากสะดวกแล้วยังสามารถซื้อได้ในสินค้าทุกกลุ่ม นอกจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, เรื่องของการท่องเที่ยว และโรงแรมแล้ว รวมทั้งต้องการให้ลูกค้าเห็นว่าการซื้อสินค้าง่ายเพียงแค่ไม่กี่คลิก"

ไม่ใช่แค่นั้น "ลาซาด้า" ได้พยายามปรับเว็บไซต์ให้ใช้งานง่ายขึ้น โดยทำเว็บให้มีลักษณะเหมือนห้างสรรพสินค้ามี 10 ชั้น แบ่งเป็นหมวดหมู่สินค้าต่าง ๆ เช่น สินค้าสุขภาพและความงาม, โทรศัพท์มือถือและแท็บเลต, เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นต้น มีบริการส่งและคืนสินค้าได้ฟรีตามเงื่อนไขที่กำหนด มีบริการชำระสินค้าที่เซเว่นอีเลฟเว่น หรือจ่ายปลายทาง และบริการให้คำปรึกษาลูกค้า 24 ชั่วโมง ทั้งยังเปิด "มาร์เก็ตเพลส" ให้ลูกค้าขายสินค้าของตัวเองด้วย

"ลาซาด้าเป็น 1 ใน 25 เว็บไซต์ยอดนิยมในไทยที่มีคนกดไลก์ในแฟนเพจเฟซบุ๊กกว่า 1,400,000 ไลก์ มีการทำโปรโมชั่นลดราคาสินค้าทุกหมวด และกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อกระตุ้นการใช้งานอย่างต่อเนื่อง"

ยักษ์ชนยักษ์เพิ่มดีกรีแข่งดุ

ด้าน ภาวุธ พงศ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ราคูเท็นตลาดดอทคอม กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซคึกคักขึ้นทั้งจากความนิยมในการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และการรุกตลาดอย่างเข้มข้นของผู้ให้บริการรายใหญ่บางราย ดูได้จากการลงโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ เป็นต้น ทำให้ภาพรวมการแข่งขันในธุรกิจอีคอมเมิร์ซสูงและร้อนแรงขึ้น

"ราคูเท็นตลาดดอทคอมไม่ได้โฆษณาทางทีวีเหมือนเจ้าอื่น แต่ทำประชาสัมพันธ์กับกลุ่มผู้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก เพราะเป็นกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เช่น มีออฟฟิเชียลแอ็กเคานต์ในไลน์ และสร้างสติ๊กเกอร์ชุด Happy Panda ซึ่งมียอดดาวน์โหลดถึง 10 ล้านครั้ง การโฆษณาทีวีซีทำให้การแข่งขันร้อนแรงขึ้น แต่คงต้องดูจุดประสงค์ของแต่ละรายว่าต้องการอะไรจากการโฆษณา เราเองเน้นคนที่ใช้โซเชียลมากกว่า หากลุ่มลูกค้าใหม่ กว้าง ๆ ด้วยการออกโฆษณาทีวี"

นอกจากนี้ ราคูเท็นตลาดดอทคอมยังให้บริการจ่ายค่าสินค้าปลายทาง ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี เพราะผู้ซื้อได้เห็นสินค้าก่อนจ่ายเงิน เป็นสิ่งที่คนไทยค่อนข้างชอบและถูกใจ คาดว่าในปีนี้จะมีลูกค้าใช้บริการจ่ายสินค้าปลายทางในสัดส่วน 40% จะเริ่มมีการขยายบริการครอบคลุมทั่วประเทศภายในไตรมาส 3

OLX รุกโปรโมตโหม C2C

ฟากยักษ์อีคอมเมิร์ซอีกราย ทิวา ยอร์ค กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ บริษัท สนุก ออนไลน์ จำกัด เป็นผู้ดูแลเว็บไซต์ OLX กล่าวว่า ยอดผู้ใช้งานผ่านเว็บไซต์โอแอลเอ็กซ์เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดถึง 300% ตั้งแต่ต้นปี 2557 เพราะพยายามตอบโจทย์ผู้ใช้งานทำให้ใช้งานง่ายขึ้น เช่น เพิ่มช่องใส่ข้อมูลไลน์ไอดีของผู้ขายสินค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ซื้อในการติดต่อ เพราะโอแอลเอ็กซ์เป็นอีคอมเมิร์ซแบบ C2C (Customer to Customer) พบว่าลูกค้ากลุ่มที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี ชอบคุยไลน์เพื่อติดต่อซื้อสินค้า ขณะที่คนอายุมากกว่า 35 ปี ชอบโทรศัพท์มากกว่า

"แอ็กเคานต์ไลน์เป็นทางการก็น่าสนใจ แต่ยังหารูปแบบที่เหมาะหรือสร้างสิทธิประโยชน์ให้ผู้ใช้งานไม่ได้ จึงยังไม่มีแผนเปิดเร็ว ๆ นี้ และจากการสำรวจพบว่าผู้ใช้โอแอลเอ็กซ์อยู่ในกลุ่มอายุ 24-44 ปี เป็นส่วนใหญ่ แต่เริ่มมีการเติบโตมากขึ้นในกลุ่มอายุ 44 ปี ขึ้นไป สินค้าที่นิยมซื้อขายยังเป็นพระเครื่อง สินค้าแฟชั่น นาฬิกา และแว่นกันแดด รองลงมาเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และรถยนต์"

"โอแอลเอ็กซ์" ถือเป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซรายแรกที่โฆษณาโปรโมตบริการผ่านสื่อโทรทัศน์อย่างแพร่หลาย เพื่อสร้างการรับรู้และแนะนำบริการขายสินค้าออนไลน์ เนื่องจากมองว่าคนไทยยังใหม่กับรูปแบบธุรกิจนี้ และโฆษณาทางทีวียังเป็นการเผยแพร่ข้อมูลในที่กว้างที่สุด เหมาะกับโอแอลเอ็กซ์ที่อยู่ในช่วงการทำความรู้จักและแนะนำบริการ


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1405412691

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.