Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

01 สิงหาคม 2557 LG ไตรมาส 2 / 2557 ส่งออกสมาร์ทโฟนสูงถึง 14.5 ล้านเครื่อง ในไตรมาสที่สอง เพิ่มขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์เทียบกับปีที่ผ่านมา สมาร์ทโฟนกลุ่ม LTE ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 16 เปอร์เซ็นต์

ประเด็นหลัก



กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือสร้างประวัติการณ์ด้วยยอดส่งออกสมาร์ทโฟนสูงถึง 14.5 ล้านเครื่อง ในไตรมาสที่สอง เพิ่มขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์เทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมากกว่าหนึ่งในสามของยอดขายสมาร์ทโฟนแอลจีทั้งหมดในปีนี้มาจากสมาร์ทโฟนกลุ่ม LTE ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 16 เปอร์เซ็นต์เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนด้วยมูลค่า 3.51 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 113 แสนล้านบาท) ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2553 กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือยังมีผลกำไรจากการดำเนินการถึง83.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 268 พันล้านบาท) ในไตรมาสที่สอง หลังจากขาดทุนติดต่อกัน 3 ไตรมาส ความสำเร็จเหล่านี้เป็นผลมาจากความนิยมต่อ LG G3 ในเกาหลีและยอดขายที่แข็งแกร่งของ L Series III โดยแอลจีวางแผนที่จะเปิดตัว G3 ทั่วโลก รวมถึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สำหรับกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปมากยิ่งขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟนรุ่นรองของ LG G3 เช่น G3 Beat และ L Series รุ่นใหม่ เป็นต้น


______________________________





LG ไตรมาส 2 ฟันกำไรเพิ่มขึ้น 165% สร้างประวัติการณ์ด้วยยอดส่งออกสมาร์ทโฟนสูงถึง 14.5 ล้านเครื่อง



แอลจี อีเล็คทรอนิคส์ อิงค์ (แอลจี) เผยกำไรสุทธิในไตรมาสที่สองที่เพิ่มขึ้นถึง 165 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนแสดงให้เห็นถึงรายได้ที่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากทั้งกลุ่มธุรกิจทีวีและกลุ่มโทรศัพท์มือถือโดยแอลจีรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองของปี 2557 ด้วยกำไรสุทธิ 399.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 12.85 พันล้านบาท) และกำไรจากการดำเนินงาน 588.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 18.9 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้น 26.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาทั้งนี้ รายได้ที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบในไตรมาสที่สอง คือ 14.93 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 4.795 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 7.7 เปอร์เซ็นต์จากไตรมาสที่แล้ว

L06

กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์มีผลการดำเนินงานที่มั่นคงและคงที่ ด้วยรายได้ 4.94 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 158 แสนล้านบาท)ในไตรมาสที่สอง เพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2556 ด้านผลกำไรจากการดำเนินการอยู่ที่150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 48 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้นถึง 64.9 เปอร์เซ็นต์ จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว อันเป็นผลมาจากการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และต้นทุนการผลิตที่ลดลง ความต้องการUltra HD TV ในตลาดสำคัญจะยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันรายได้ของ LCD TV ให้เติบโตมากยิ่งขึ้น ด้านตลาดบีทูบีหรือผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กร (B2B) ซึ่งมีจอมอนิเตอร์ และป้ายดิจิตอลเป็นผลิตภัณฑ์หลัก จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในกลุ่มโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของแอลจี

กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือสร้างประวัติการณ์ด้วยยอดส่งออกสมาร์ทโฟนสูงถึง 14.5 ล้านเครื่อง ในไตรมาสที่สอง เพิ่มขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์เทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมากกว่าหนึ่งในสามของยอดขายสมาร์ทโฟนแอลจีทั้งหมดในปีนี้มาจากสมาร์ทโฟนกลุ่ม LTE ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 16 เปอร์เซ็นต์เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนด้วยมูลค่า 3.51 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 113 แสนล้านบาท) ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2553 กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือยังมีผลกำไรจากการดำเนินการถึง83.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 268 พันล้านบาท) ในไตรมาสที่สอง หลังจากขาดทุนติดต่อกัน 3 ไตรมาส ความสำเร็จเหล่านี้เป็นผลมาจากความนิยมต่อ LG G3 ในเกาหลีและยอดขายที่แข็งแกร่งของ L Series III โดยแอลจีวางแผนที่จะเปิดตัว G3 ทั่วโลก รวมถึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สำหรับกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปมากยิ่งขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟนรุ่นรองของ LG G3 เช่น G3 Beat และ L Series รุ่นใหม่ เป็นต้น

กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมียอดขายที่แข็งแกร่งในตลาดเกาหลีโดยเพิ่มขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา รายได้สุทธิของไตรมาสที่สองอยู่ที่ 2.94 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 9.4 แสนล้านบาท)ลดลง5 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นผลมาจากการผันแปรของค่าเงินโดยเฉพาะในตลาดประเทศกำลังพัฒนานอกจากนี้ การปรับโครงสร้างต้นทุนที่ดีขึ้นส่งผลให้กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมีกำไรจากการดำเนินงานถึง 95 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 305 พันล้านบาท) และอัตรากำไรอยู่ที่ 3.2 เปอร์เซ็นต์ แอลจีคาดว่ารายได้และผลกำไรของกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้จะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นผลจากการลดต้นทุน และการเปิดตัวเครื่องซักผ้าและตู้เย็นซึ่งแอลจีเป็นผู้นำในตลาด

กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศและโซลูชั่นส์ด้านพลังงาน มียอดขายที่คงที่ในกลุ่มเครื่องปรับอากาศพาณิชย์และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเช่นเครื่องลดความชื้น ด้วยรายได้ในไตรมาสที่สองอยู่ที่ 1.59 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 51 แสนล้านบาท) และผลกำไรจากการดำเนินงาน 159.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 5.11 พันล้านบาท) แม้รายได้จะลดลงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเล็กน้อย แต่การพัฒนาความหลากหลายของผลิตภัณฑ์นั้นส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ ในไตรมาสที่สอง ในส่วนของครึ่งปีหลังนั้น คาดว่าผลกำไรจะมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดตะวันออกกลางการเปิดตัวเครื่องปรับอากาศที่มีระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน (Variable Refrigerant Flow – VRF) และความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดเครื่องปรับอากาศพาณิชย์



http://www.flashfly.net/wp/?p=96945

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.