11 สิงหาคม 2557 CSC ระบุ ส่วนตลาดรวมแท็บเลตในปีนี้ คาดว่าจะยังเติบโตเล็กน้อย โดยเครื่องจะมีราคาสูงขึ้น แต่ยอดขายในแง่จำนวนจะน้อยลง
ประเด็นหลัก
สำหรับราคาแท็บเลต "ซีเอสซี" ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ แต่คงไม่ต่ำเหมือนรุ่นที่ทำตลาดก่อนหน้านี้ เนื่องจากผู้บริโภคเรียนรู้แล้วว่า แท็บเลตที่ดีต้องมีระดับราคาเท่าใด ที่ผ่านมาซื้อแท็บเลตราคาถูกจากจีนแล้วใช้ได้ไม่นาน ส่วนช่องทางจำหน่ายจะเน้นไปยังเครือข่ายร้านค้าของบริษัทเช่นเดิม ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีทั้งคอนซูเมอร์ทั่วไปและองค์กร เนื่องจากวินโดวส์เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นขององค์กรได้ง่ายกว่า ขณะที่เทคโนโลยีแท็บเลตปัจจุบันดีกว่าแต่ก่อนมาก ทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อไปใช้งานแทนโน้ตบุ๊กได้
ส่วนตลาดรวมแท็บเลตในปีนี้ คาดว่าจะยังเติบโตเล็กน้อย โดยเครื่องจะมีราคาสูงขึ้น แต่ยอดขายในแง่จำนวนจะน้อยลง ต่างจากปีที่ผ่านมาที่เครื่องมีราคาถูกทำให้ยอดขายเยอะ ขณะที่ตลาดโทรศัพท์มือถือยังเติบโตต่อเนื่อง คาดว่ายอดขายเครื่องทั้งตลาดทั้งปีจะอยู่ที่ 18-19 ล้านเครื่อง มากกว่าครึ่งเป็นสมาร์ทโฟน เพราะเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคต้องการมากที่สุด
______________________________
CSC ผนึกอินเทล ดันแท็บเลตเฮาส์แบรนด์ลงตลาดอีกรอบ
"ซีเอสซี" ฟื้นแผนทำเฮาส์แบรนด์ ผนึกพาร์ตเนอร์ "อินเทล-ไมโครซอฟท์" ส่งแท็บเลตวินโดวส์ลงตลาดภายในไตรมาส 4 ปีนี้ มั่นใจมู้ดจับจ่ายผู้บริโภคเริ่มฟื้นปลุกตลาดครึ่งปีหลังคึกคัก พร้อมใส่เงิน 100 ล้านบาทอัดฉีดโปรโมชั่นกระตุ้นตลาด ดันรายได้รวมเข้าเป้า 6,000 ล้านบาท
นายวงศ์สมรรถ สรรเพชุดาญาณ รองประธานบริหาร บริษัท คอมพิวเตอร์ ซิสเท็ม คอนเนคชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ซีเอสซี) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากชะลอแผนการผลิตและจัดจำหน่ายแท็บเลต และสมาร์ทโฟนภายใต้แบรนด์ของตนเอง ตั้งแต่ปลายปี 2555 ที่ผ่านมา จากภาพรวมตลาดสมาร์ทดีไวซ์ที่มีการแข่งขันสูงมากทั้งจากการเข้ามาของแบรนด์จีนราคาถูกในตลาดแท็บเลต และค่ายมือถือจ้างผลิตสมาร์ทโฟนเฮาส์แบรนด์ แต่ขณะนี้นำแผนดังกล่าวกลับมาทบทวนอีกครั้ง โดยจะมีความร่วมมือกับอินเทลและไมโครซอฟท์ คาดว่าจะวางตลาดแท็บเลต ซีเอสซี (CSC) ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้
"ต้นปี 2555 เราวางขายฟีเจอร์โฟนยี่ห้อ CSC ราคา 550 บาท และแท็บเลต CSC Pad ราคา 2,900 บาท โดยวางขายในร้านซีเอสซีอย่างเดียว จนมาปลายปีการแข่งขันเริ่มรุนแรงมาก ทำให้ไม่มีที่ว่างสำหรับเฮาส์แบรนด์ เราจึงชะลอการวางตลาดสมาร์ทโฟนแบรนด์ตนเองออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่ตอนนี้ตลาดเริ่มมีที่ว่างจึงร่วมมือกับอินเทล และไมโครซอฟท์เพื่อนำชิปเซต และระบบปฏิบัติการวินโดวส์มาใส่ไว้ในแท็บเลตเพื่อทำตลาด"
สำหรับราคาแท็บเลต "ซีเอสซี" ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ แต่คงไม่ต่ำเหมือนรุ่นที่ทำตลาดก่อนหน้านี้ เนื่องจากผู้บริโภคเรียนรู้แล้วว่า แท็บเลตที่ดีต้องมีระดับราคาเท่าใด ที่ผ่านมาซื้อแท็บเลตราคาถูกจากจีนแล้วใช้ได้ไม่นาน ส่วนช่องทางจำหน่ายจะเน้นไปยังเครือข่ายร้านค้าของบริษัทเช่นเดิม ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีทั้งคอนซูเมอร์ทั่วไปและองค์กร เนื่องจากวินโดวส์เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นขององค์กรได้ง่ายกว่า ขณะที่เทคโนโลยีแท็บเลตปัจจุบันดีกว่าแต่ก่อนมาก ทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อไปใช้งานแทนโน้ตบุ๊กได้
ส่วนตลาดรวมแท็บเลตในปีนี้ คาดว่าจะยังเติบโตเล็กน้อย โดยเครื่องจะมีราคาสูงขึ้น แต่ยอดขายในแง่จำนวนจะน้อยลง ต่างจากปีที่ผ่านมาที่เครื่องมีราคาถูกทำให้ยอดขายเยอะ ขณะที่ตลาดโทรศัพท์มือถือยังเติบโตต่อเนื่อง คาดว่ายอดขายเครื่องทั้งตลาดทั้งปีจะอยู่ที่ 18-19 ล้านเครื่อง มากกว่าครึ่งเป็นสมาร์ทโฟน เพราะเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคต้องการมากที่สุด
"ครึ่งปีแรกตลาดสมาร์ทดีไวซ์ค่อนข้างแย่ ผู้บริโภคไม่มีมู้ดจับจ่าย แม้ความต้องการจะยังมีอยู่ ในภาพรวมตลาดไอทียิ่งแย่กว่าเพราะไม่ซื้อโน้ตบุ๊กแล้ว หลังจากแท็บเลตตอบสนองการใช้งานได้ครบถ้วนในราคาที่ถูกกว่า ส่วนราคาโน้ตบุ๊กและเดสก์ทอปน่าจะขยับขึ้นเป็น 1.5 หมื่นบาทขึ้นไป และซื้อเพื่อใช้ทำงานหรือเล่นเกมที่ใช้กราฟิกสูง เพราะถ้าถูกกว่านั้นผู้บริโภคจะไปซื้อแท็บเลตแทน"
นายวงศ์สมรรถ กล่าวต่อว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปีที่ 6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 25% แบ่งเป็นรายได้จากโทรศัพท์มือถือ 70% สินค้าไอที 30% แต่ปัจจัยลบในช่วงครึ่งปีแรกทำให้รายได้ครึ่งปีแรกน้อยกว่า เป้า 20% แต่คาดว่าครึ่งปีหลังจะกลับมาเติบโตได้ตามเป้าได้ เนื่องจากมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เปิดตัวทั้งไอโฟน และซัมซุง รวมถึงสินค้าไอทีเริ่มมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่นกัน ดังนั้นการทำตลาดของบริษัทจะเน้นไปในครึ่งปีหลัง
และในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทเน้นปรับปรุงระบบบริหารจัดการสินค้า และการขยายสาขา โดยจะลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท เปิดสาขาเพิ่มจาก 140 สาขา เป็น 150 สาขา เน้นในห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่ ทั้งมีงบประมาณการตลาดอีก 100 ล้านบาท สำหรับจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นการทำตลาด
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1407476726
สำหรับราคาแท็บเลต "ซีเอสซี" ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ แต่คงไม่ต่ำเหมือนรุ่นที่ทำตลาดก่อนหน้านี้ เนื่องจากผู้บริโภคเรียนรู้แล้วว่า แท็บเลตที่ดีต้องมีระดับราคาเท่าใด ที่ผ่านมาซื้อแท็บเลตราคาถูกจากจีนแล้วใช้ได้ไม่นาน ส่วนช่องทางจำหน่ายจะเน้นไปยังเครือข่ายร้านค้าของบริษัทเช่นเดิม ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีทั้งคอนซูเมอร์ทั่วไปและองค์กร เนื่องจากวินโดวส์เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นขององค์กรได้ง่ายกว่า ขณะที่เทคโนโลยีแท็บเลตปัจจุบันดีกว่าแต่ก่อนมาก ทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อไปใช้งานแทนโน้ตบุ๊กได้
ส่วนตลาดรวมแท็บเลตในปีนี้ คาดว่าจะยังเติบโตเล็กน้อย โดยเครื่องจะมีราคาสูงขึ้น แต่ยอดขายในแง่จำนวนจะน้อยลง ต่างจากปีที่ผ่านมาที่เครื่องมีราคาถูกทำให้ยอดขายเยอะ ขณะที่ตลาดโทรศัพท์มือถือยังเติบโตต่อเนื่อง คาดว่ายอดขายเครื่องทั้งตลาดทั้งปีจะอยู่ที่ 18-19 ล้านเครื่อง มากกว่าครึ่งเป็นสมาร์ทโฟน เพราะเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคต้องการมากที่สุด
______________________________
CSC ผนึกอินเทล ดันแท็บเลตเฮาส์แบรนด์ลงตลาดอีกรอบ
"ซีเอสซี" ฟื้นแผนทำเฮาส์แบรนด์ ผนึกพาร์ตเนอร์ "อินเทล-ไมโครซอฟท์" ส่งแท็บเลตวินโดวส์ลงตลาดภายในไตรมาส 4 ปีนี้ มั่นใจมู้ดจับจ่ายผู้บริโภคเริ่มฟื้นปลุกตลาดครึ่งปีหลังคึกคัก พร้อมใส่เงิน 100 ล้านบาทอัดฉีดโปรโมชั่นกระตุ้นตลาด ดันรายได้รวมเข้าเป้า 6,000 ล้านบาท
นายวงศ์สมรรถ สรรเพชุดาญาณ รองประธานบริหาร บริษัท คอมพิวเตอร์ ซิสเท็ม คอนเนคชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ซีเอสซี) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากชะลอแผนการผลิตและจัดจำหน่ายแท็บเลต และสมาร์ทโฟนภายใต้แบรนด์ของตนเอง ตั้งแต่ปลายปี 2555 ที่ผ่านมา จากภาพรวมตลาดสมาร์ทดีไวซ์ที่มีการแข่งขันสูงมากทั้งจากการเข้ามาของแบรนด์จีนราคาถูกในตลาดแท็บเลต และค่ายมือถือจ้างผลิตสมาร์ทโฟนเฮาส์แบรนด์ แต่ขณะนี้นำแผนดังกล่าวกลับมาทบทวนอีกครั้ง โดยจะมีความร่วมมือกับอินเทลและไมโครซอฟท์ คาดว่าจะวางตลาดแท็บเลต ซีเอสซี (CSC) ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้
"ต้นปี 2555 เราวางขายฟีเจอร์โฟนยี่ห้อ CSC ราคา 550 บาท และแท็บเลต CSC Pad ราคา 2,900 บาท โดยวางขายในร้านซีเอสซีอย่างเดียว จนมาปลายปีการแข่งขันเริ่มรุนแรงมาก ทำให้ไม่มีที่ว่างสำหรับเฮาส์แบรนด์ เราจึงชะลอการวางตลาดสมาร์ทโฟนแบรนด์ตนเองออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่ตอนนี้ตลาดเริ่มมีที่ว่างจึงร่วมมือกับอินเทล และไมโครซอฟท์เพื่อนำชิปเซต และระบบปฏิบัติการวินโดวส์มาใส่ไว้ในแท็บเลตเพื่อทำตลาด"
สำหรับราคาแท็บเลต "ซีเอสซี" ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ แต่คงไม่ต่ำเหมือนรุ่นที่ทำตลาดก่อนหน้านี้ เนื่องจากผู้บริโภคเรียนรู้แล้วว่า แท็บเลตที่ดีต้องมีระดับราคาเท่าใด ที่ผ่านมาซื้อแท็บเลตราคาถูกจากจีนแล้วใช้ได้ไม่นาน ส่วนช่องทางจำหน่ายจะเน้นไปยังเครือข่ายร้านค้าของบริษัทเช่นเดิม ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีทั้งคอนซูเมอร์ทั่วไปและองค์กร เนื่องจากวินโดวส์เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นขององค์กรได้ง่ายกว่า ขณะที่เทคโนโลยีแท็บเลตปัจจุบันดีกว่าแต่ก่อนมาก ทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อไปใช้งานแทนโน้ตบุ๊กได้
ส่วนตลาดรวมแท็บเลตในปีนี้ คาดว่าจะยังเติบโตเล็กน้อย โดยเครื่องจะมีราคาสูงขึ้น แต่ยอดขายในแง่จำนวนจะน้อยลง ต่างจากปีที่ผ่านมาที่เครื่องมีราคาถูกทำให้ยอดขายเยอะ ขณะที่ตลาดโทรศัพท์มือถือยังเติบโตต่อเนื่อง คาดว่ายอดขายเครื่องทั้งตลาดทั้งปีจะอยู่ที่ 18-19 ล้านเครื่อง มากกว่าครึ่งเป็นสมาร์ทโฟน เพราะเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคต้องการมากที่สุด
"ครึ่งปีแรกตลาดสมาร์ทดีไวซ์ค่อนข้างแย่ ผู้บริโภคไม่มีมู้ดจับจ่าย แม้ความต้องการจะยังมีอยู่ ในภาพรวมตลาดไอทียิ่งแย่กว่าเพราะไม่ซื้อโน้ตบุ๊กแล้ว หลังจากแท็บเลตตอบสนองการใช้งานได้ครบถ้วนในราคาที่ถูกกว่า ส่วนราคาโน้ตบุ๊กและเดสก์ทอปน่าจะขยับขึ้นเป็น 1.5 หมื่นบาทขึ้นไป และซื้อเพื่อใช้ทำงานหรือเล่นเกมที่ใช้กราฟิกสูง เพราะถ้าถูกกว่านั้นผู้บริโภคจะไปซื้อแท็บเลตแทน"
นายวงศ์สมรรถ กล่าวต่อว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปีที่ 6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 25% แบ่งเป็นรายได้จากโทรศัพท์มือถือ 70% สินค้าไอที 30% แต่ปัจจัยลบในช่วงครึ่งปีแรกทำให้รายได้ครึ่งปีแรกน้อยกว่า เป้า 20% แต่คาดว่าครึ่งปีหลังจะกลับมาเติบโตได้ตามเป้าได้ เนื่องจากมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เปิดตัวทั้งไอโฟน และซัมซุง รวมถึงสินค้าไอทีเริ่มมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่นกัน ดังนั้นการทำตลาดของบริษัทจะเน้นไปในครึ่งปีหลัง
และในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทเน้นปรับปรุงระบบบริหารจัดการสินค้า และการขยายสาขา โดยจะลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท เปิดสาขาเพิ่มจาก 140 สาขา เป็น 150 สาขา เน้นในห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่ ทั้งมีงบประมาณการตลาดอีก 100 ล้านบาท สำหรับจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นการทำตลาด
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1407476726
ไม่มีความคิดเห็น: