Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

25 สิงหาคม 2557 สนธิญา.Intel ระบุ การทำตลาดในไทยนั้นคงมุ่งไปยังตลาดแท็บเลตที่ตามตัวเลขไอดีซีระบุว่ามีตัวเลขประมาณ 3 ล้านเครื่อง จะจัดทำเปิดแคมเปญและทำกิจกรรมโรดโชว์ร่วมกับคู่ค้า

ประเด็นหลัก

    ด้านนายสนธิญา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าตลาดไอทีครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มสัญญาณการเติบโตที่ดีขึ้น  เมื่อเทียบกับ 6 เดือนแรก ที่ผ่านมา  เนื่องจากผู้บริโภคและนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในโรดแมปประเทศที่มีความชัดเจน   และเชื่อมั่นในเศรษฐกิจมากขึ้น  
    ทั้งนี้การทำตลาดในไทยนั้นคงมุ่งไปยังตลาดแท็บเลต  ที่ตามตัวเลขไอดีซีระบุว่ามีตัวเลขประมาณ 3 ล้านเครื่อง ขณะที่ข้อมูลจากบริษัทจีเอฟเคฯ ระบุว่ากลุ่มที่มีการเติบโตสูง คือกลุ่มราคาตั้งแต่ 5 พัน- 1 หมื่นบาท  นอกจากนี้ในไตรมาสที่ 3 บริษัทจะจัดทำเปิดแคมเปญและทำกิจกรรมโรดโชว์ร่วมกับคู่ค้า ในกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับไฮเอนด์   เพื่อกระตุ้นความต้องการผู้บริโภค   โดยเฉพาะในกลุ่มเกมเมอร์   และตัดต่อวิดีโอ
    ขณะเดียวกันยังมองการเข้าไปมีส่วนร่วมโครงการภาครัฐ   อาทิ โครงการบริหารจัดการน้ำ ที่มีเทคโนโลยีเซ็นเซอร์  ในการจัดระดับน้ำ ส่วนโครงการสมาร์ทคลาสรูมของกระทรวงศึกษาธิการนั้นต้องรอดูความชัดเจนของกระทรวงศึกษาธิการ  โดยอินเทลมีประสบการณ์ในการจัดทำสมาร์ทคลาสรูมในต่างประเทศมาแล้ว   อย่างไรก็ตามบริษัทคงไม่ได้เข้าร่วมโดยตรง แต่จะให้การสนับสนุนและถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับคู่ค้ามากกว่า



______________________________




อินเทลทุ่มโปรโมตสมาร์ทดีไวซ์



อินเทลทุ่มโปรโมตสมาร์ทดีไวซ์  มองครึ่งปีหลังตลาดเติบโตสูง อินเทล  ทุ่มงบเพิ่ม 3 เท่า เสริมการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทดีไวซ์  "แท็บเลต-สมาร์ทโฟน"   เชื่อมั่นตลาดไทยมีศักยภาพ   ชี้แนวโน้มตลาดครึ่งปีหลังโอกาสสดใส   หลังโรดแมปประเทศ-เศรษฐกิจชัดเจน  เดินหน้ารุกตลาดแท็บเลต-พีซีไฮเอนด์-เอสเอ็มอี-การศึกษา
 เกรกอรี่ ไบรอันท์เกรกอรี่ ไบรอันท์  นายเกรกอรี่ ไบรอันท์ รองประธานฝ่ายการตลาดและการขาย และผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น อินเทล คอร์ปอเรชั่น  เปิดเผยว่าปีนี้อินเทลมีแผนลงทุนทางด้านการตลาดมากกว่าปีที่ผ่านมา 3 เท่า ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ "สมาร์ทดีไวซ์"  ทั้งแท็บเลต  และสมาร์ทโฟน   และมุ่งให้ความสำคัญกับตลาดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก  ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง   มีขนาดเศรษฐกิจคิดเป็น   25% ของผลิตภัณฑ์มวลรวม หรือ จีดีพีโลก

    สำหรับในประเทศไทยจะมุ่งให้ความสำคัญไปยังตลาดแท็บเลต และ ตลาดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือ เดสก์ท็อป ระดับไฮเอนด์  สำหรับผู้ชื่นชอบเกม  หรือ กลุ่มตัดต่อภาพวิดีโอ  และงานกราฟิก โดยมองว่าเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูง  นอกจากนี้ยังให้กับตลาดการศึกษา  ที่อินเทลมีประสบการณ์ทั่วโลก   มีโซลูชันทั้ง อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์   ซอฟต์แวร์สำหรับการพัฒนาคอนเทนต์  ระบบบริหารจัดการภายในห้องเรียน  และกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็ก  หรือเอสเอ็มอี โดยจะมุ่งให้ความรู้กับเอสเอ็มอีในการนำไอทีมาใช้ทางธุรกิจเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน   ซึ่งขณะนี้มีเอสเอ็มอีประมาณ 1 แสนรายที่ให้ความสนใจนำไอทีมาใช้ทางธุรกิจ
    ทั้งนี้อินเทลยังมองว่าไทยยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพ   และเป็นตลาดที่มีความสำคัญในภูมิภาคนี้   ทั้งยังเป็นศูนย์กลาง หรือฮับของอินโดจีน  ส่วนภาพรวมตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลโดยรวมในภูมิภาคนี้นั้น  ตลาดคอมพิวเตอร์ สำหรับกลุ่มองค์กร  หรือ คอมเมอร์เชียลในหลายประเทศมีการเติบโตที่ดี อาทิ  ไต้หวัน เกาหลีใต้  และญี่ปุ่น   เนื่องจากองค์กรมีการปรับเปลี่ยน หรืออัพเกรด ระบบใหม่   ขณะที่กลุ่มสินค้าสมาร์ทดีไวซ์ มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด เช่นเดียวกับตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ที่ภาคธุรกิจให้ความสำคัญกับการลงทุนมากขึ้น
    นายเกรกอรี่ ไบรอันท์   กล่าวต่ออีกว่าภายในปีนี้จะมีแท็บเลตที่ใช้หน่วยประมวลผล  หรือ ซีพียูของอินเทล วางตลาดกว่า 200 รุ่น  โดยในงานคอมพิวเท็กซ์ 2014  ที่ไต้หวัน  มีแบรนด์ชั้นนำ ทั้งเอเซอร์ อัสซุส  เลอโนโว  เดลล์  และโตชิบา  เปิดตัวไปแท็บเลตที่ใช้หน่วยประมวลผลอินเทล อะตอม   แล้วกว่า 12 รุ่น   โดยคาดว่าสิ้นปียอดขายโดยรวมจะมีมากกว่า 40 ล้านเครื่อง
    ด้านนายสนธิญา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าตลาดไอทีครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มสัญญาณการเติบโตที่ดีขึ้น  เมื่อเทียบกับ 6 เดือนแรก ที่ผ่านมา  เนื่องจากผู้บริโภคและนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในโรดแมปประเทศที่มีความชัดเจน   และเชื่อมั่นในเศรษฐกิจมากขึ้น    
    ทั้งนี้การทำตลาดในไทยนั้นคงมุ่งไปยังตลาดแท็บเลต  ที่ตามตัวเลขไอดีซีระบุว่ามีตัวเลขประมาณ 3 ล้านเครื่อง ขณะที่ข้อมูลจากบริษัทจีเอฟเคฯ ระบุว่ากลุ่มที่มีการเติบโตสูง คือกลุ่มราคาตั้งแต่ 5 พัน- 1 หมื่นบาท  นอกจากนี้ในไตรมาสที่ 3 บริษัทจะจัดทำเปิดแคมเปญและทำกิจกรรมโรดโชว์ร่วมกับคู่ค้า ในกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับไฮเอนด์   เพื่อกระตุ้นความต้องการผู้บริโภค   โดยเฉพาะในกลุ่มเกมเมอร์   และตัดต่อวิดีโอ
    ขณะเดียวกันยังมองการเข้าไปมีส่วนร่วมโครงการภาครัฐ   อาทิ โครงการบริหารจัดการน้ำ ที่มีเทคโนโลยีเซ็นเซอร์  ในการจัดระดับน้ำ ส่วนโครงการสมาร์ทคลาสรูมของกระทรวงศึกษาธิการนั้นต้องรอดูความชัดเจนของกระทรวงศึกษาธิการ  โดยอินเทลมีประสบการณ์ในการจัดทำสมาร์ทคลาสรูมในต่างประเทศมาแล้ว   อย่างไรก็ตามบริษัทคงไม่ได้เข้าร่วมโดยตรง แต่จะให้การสนับสนุนและถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับคู่ค้ามากกว่า
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=242787:2014-08-15-08-32-13&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491#.U_swz0tAeuw

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.