09 กันยายน 2557 Photo Hut.สมชาย ระบุ ทาง Photo Hut มีการปรับตัว เพิ่มจุดขายโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน ภายในร้านเพิ่มขึ้นเป็น 50 จุดขายในสิ้นปี รับตลาดกล้องที่ชะลอตัว และตลาดสมาร์ทโฟนที่มาแรง
ประเด็นหลัก
alt นายสมชาย ครองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โฟโต้ฮัท กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านจำหน่ายกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพครบวงจรโฟโตฮัท เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ต้องยอมรับว่าตลาดกล้องถ่ายภาพในปีนี้ได้รับผลกระทบด้านยอดขายจาก 2 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.ผลพวงจากตลาดกล้องคอมแพ็กต์ที่ได้รับความนิยมลดลงจากการเข้ามาแทนที่ของสมาร์ทโฟน ส่งผลให้สินค้าในกลุ่มนี้มีอัตรากรเติบโตลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา 2. สภาพเศรษฐกิจ การเมืองที่ส่งผลอารมณ์การจับจ่ายของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย
"ตลาดกล้องคอมแพ็กต์ถือเป็นตลาดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในคอมแพ็กต์ที่มีราคาไม่เกิน 3 พันบาท เนื่องจากการเข้ามาแทนที่ของสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นมากกว่า แต่ขณะเดียวกันกลุ่มคอมแพ็กต์ราคาแพงที่มีราคาตั้งแต่ 3 พัน - 1 หมื่นบาท แม้ภาพรวมจะตกลงมาบ้างแต่ยังถือว่าสามารถสร้างการเติบโตได้ในต่างจังหวัดและช่องทางดิสเคาต์สโตร์"
ในส่วนของบริษัทเองปีนี้ยังไม่มีแผนการขยายสาขาร้านโฟโต้ฮัทแต่อย่างใด เนื่องจากสภาวะตลาดและกำลังซื้อในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาที่ตกลงมาถึง 30-40% ทำให้บริษัทหันมาให้ความสำคัญกับการปรับทำแผนการตลาดใหม่ เบื้องต้นอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนแผนงาน อีกทั้งยังมีการเพิ่มจุดขายโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน ภายในร้านเพิ่มขึ้นเป็น 50 จุดขายในสิ้นปี จากปัจจุบันที่มีอยู่ทั้งสิ้น 20 จุดขาย นอกจากนี้ยังมีการว่างแผนการทำตลาดสินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ ทั้งนี้แนวทางดังกล่าวถือเป็นการปรับกลยุทธ์ในการรองรับตลาดกล้องที่ชะลอตัว และตลาดสมาร์ทโฟนที่มาแรงรองรับการแข่งขันอีกด้วย
"แน่นอนว่าเราไม่ได้หวังมาร์เก็ตแชร์ในตลาดสมาร์ทโฟนที่มีอยู่มากถึง 6-7 หมื่นล้านบาท หรือจะเอาสัดส่วนร้านสมาร์ทโฟนมาเป็นปัจจัยหลักในการทำธุรกิจ แต่ด้วยแนวโน้มตลาดและเทรนด์ของผู้บริโภคทำให้เราต้องปรับกลยุทธ์ในบางส่วนเพื่อการแข่งขัน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองที่ชะลอตัวในครึ่งปีแรก ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าทุกกลุ่มสินค้าได้รับผลกระทบอยู่แล้ว แต่ตลาดกล้องของเราได้รับผลกระทบเป็นสองเท่าตัวจากสินค้าปกติ เนื่องจากเดิมเป็นขาลงของสินค้ากล้องในบางกลุ่มอยู่แล้ว และมีสภาพปัจจัยดังกล่าวเข้ามาเป็นส่วนประกอบทำให้ภาพรวมตลาดลดลงไปกว่าที่ควรจะเป็น"
ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดในช่วงปลายปีบริษัทได้เตรียมแคมเปญ โฟโต้ ฮัท เอ็กซ์โป 2014 ในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 2 แคมเปญยักษ์ที่บริษัทจัดมาเพื่อกระตุ้นตลาดในช่วงต้นปีและปลายปี โดยความพิเศษของงานปีนี้คือการในสมาร์ทโฟน ที่มีจุดเด่นเรื่องของการถ่ายภาพและมีฟีเจอร์เด่นๆเข้ามาร่วมในงานด้วย
______________________________
กล้องดิจิตอลจ่อไอซียู ดิ้นอีกแฮือกอัดแคมเปญปลุกไฮซีซัน
วิกฤติตลาดกล้องดิจิตอล เผยครึ่งปีแรกทรุดหนัก จับตาร้านค้าปลีกกล้องเปิดศึกอัดแคมเปญกระตุ้นยอดปลายปี "โฟโต้ฮัท" อัดแคมเปญยักษ์ "โฟโต้ ฮัท เอ็กซ์โป 2014" ปลุกมู้ดคนรักการถ่ายภาพ ฟาก "บิ๊กคาเมร่า" ไม่น้อยหน้า อัด 10 ล้านบาทเข็นแคมเปญ "บิ๊ก คาเมร่า บิ๊ก โปร เดย์" ครั้งที่ 8 หวังกระตุ้นยอดขายเพิ่ม 10% ก่อนหนีตลาดไทยชะลอตัว สยายปีกตั้งช็อปใหม่ในเวียดนาม
alt นายสมชาย ครองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โฟโต้ฮัท กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านจำหน่ายกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพครบวงจรโฟโตฮัท เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ต้องยอมรับว่าตลาดกล้องถ่ายภาพในปีนี้ได้รับผลกระทบด้านยอดขายจาก 2 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.ผลพวงจากตลาดกล้องคอมแพ็กต์ที่ได้รับความนิยมลดลงจากการเข้ามาแทนที่ของสมาร์ทโฟน ส่งผลให้สินค้าในกลุ่มนี้มีอัตรากรเติบโตลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา 2. สภาพเศรษฐกิจ การเมืองที่ส่งผลอารมณ์การจับจ่ายของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย
"ตลาดกล้องคอมแพ็กต์ถือเป็นตลาดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในคอมแพ็กต์ที่มีราคาไม่เกิน 3 พันบาท เนื่องจากการเข้ามาแทนที่ของสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นมากกว่า แต่ขณะเดียวกันกลุ่มคอมแพ็กต์ราคาแพงที่มีราคาตั้งแต่ 3 พัน - 1 หมื่นบาท แม้ภาพรวมจะตกลงมาบ้างแต่ยังถือว่าสามารถสร้างการเติบโตได้ในต่างจังหวัดและช่องทางดิสเคาต์สโตร์"
ในส่วนของบริษัทเองปีนี้ยังไม่มีแผนการขยายสาขาร้านโฟโต้ฮัทแต่อย่างใด เนื่องจากสภาวะตลาดและกำลังซื้อในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาที่ตกลงมาถึง 30-40% ทำให้บริษัทหันมาให้ความสำคัญกับการปรับทำแผนการตลาดใหม่ เบื้องต้นอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนแผนงาน อีกทั้งยังมีการเพิ่มจุดขายโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน ภายในร้านเพิ่มขึ้นเป็น 50 จุดขายในสิ้นปี จากปัจจุบันที่มีอยู่ทั้งสิ้น 20 จุดขาย นอกจากนี้ยังมีการว่างแผนการทำตลาดสินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ ทั้งนี้แนวทางดังกล่าวถือเป็นการปรับกลยุทธ์ในการรองรับตลาดกล้องที่ชะลอตัว และตลาดสมาร์ทโฟนที่มาแรงรองรับการแข่งขันอีกด้วย
"แน่นอนว่าเราไม่ได้หวังมาร์เก็ตแชร์ในตลาดสมาร์ทโฟนที่มีอยู่มากถึง 6-7 หมื่นล้านบาท หรือจะเอาสัดส่วนร้านสมาร์ทโฟนมาเป็นปัจจัยหลักในการทำธุรกิจ แต่ด้วยแนวโน้มตลาดและเทรนด์ของผู้บริโภคทำให้เราต้องปรับกลยุทธ์ในบางส่วนเพื่อการแข่งขัน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองที่ชะลอตัวในครึ่งปีแรก ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าทุกกลุ่มสินค้าได้รับผลกระทบอยู่แล้ว แต่ตลาดกล้องของเราได้รับผลกระทบเป็นสองเท่าตัวจากสินค้าปกติ เนื่องจากเดิมเป็นขาลงของสินค้ากล้องในบางกลุ่มอยู่แล้ว และมีสภาพปัจจัยดังกล่าวเข้ามาเป็นส่วนประกอบทำให้ภาพรวมตลาดลดลงไปกว่าที่ควรจะเป็น"
ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดในช่วงปลายปีบริษัทได้เตรียมแคมเปญ โฟโต้ ฮัท เอ็กซ์โป 2014 ในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 2 แคมเปญยักษ์ที่บริษัทจัดมาเพื่อกระตุ้นตลาดในช่วงต้นปีและปลายปี โดยความพิเศษของงานปีนี้คือการในสมาร์ทโฟน ที่มีจุดเด่นเรื่องของการถ่ายภาพและมีฟีเจอร์เด่นๆเข้ามาร่วมในงานด้วย
สำหรับยอดขายในสิ้นปีจากภาพรวมตลาดที่ไม่มีการเติบโต มองว่าบริษัทจะรักษาการเติบโตให้เทียบเท่ากับปีทีผ่านมาจากจำนวนสาขาโฟโต้ฮัทในปัจจุบันที่มีอยู่ทั้งสิ้น 70 สาขา ขณะที่ภาพรวมตลาดกล้องครึ่งปีแรกพบว่ามีอัตราการเติบโตที่ลดลงราว 30-40% ซึ่งถือว่ามากพอสมควรเนื่องจากตลาดกล้องถ่ายภาพมีอัตราการเติบโตลดลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาในสัดส่วน 30-40% อยู่แล้ว โดยกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตลดลงมากที่สุดได้แก่กล้องคอมแพ็กต์ที่ลดลง 50% กลุ่มซิงเกิลเลนส์ยอดขายลดลง 20% และกลุ่มดีเอสแอลอาร์ยอดขายลดลง 20% เช่นกันสวนทางกลับกล้องในกลุ่มมิร์เรอร์เลสที่มีอัตราการเติบโต เนื่องจากได้รับความนิยม มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค โดยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 20%
ด้านนายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด ผู้จำหน่ายกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพครบวงจร ภายใต้แบรนด์ "บิ๊กคาเมร่า" กล่าวว่า แนวโน้มการเติบโตในตลาดกล้องถ่ายภาพในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานั้น ประสบกับปัจจัยลบต่างๆไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัวที่กระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภคโดยตรง โดยกลุ่มกล้องถ่ายภาพที่มีอัตราการเติบโตสูงยังคงเป็นกล้องมิร์เรอร์เลส ที่มีอัตราการเติบโตในช่วงครึ่งปีแรกที่ 50% โดยคิดเป็นสัดส่วนในเชิงยูนิต 40% ของตลาดรวมกล้องเปลี่ยนเลนส์ที่มีสัดส่วน 35% ของตลาดรวมกล้องทั้งหมด
ส่วนกลุ่มกล้องที่ไม่มีการเติบโตในช่วงครึ่งปีแรกคือกลุ่มกล้องดีเอสแอลอาร์ตกลง 10-20% และคอมแพคตกลง 50-60% ซึ่งได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใช้สมาร์ทโฟนในการถ่ายภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังภาพรวมตลาดจะมีการเติบโตที่ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรกโดยมองว่าภาพรวมทั้งปีคาดว่าไม่มีการเติบโต หรือตกลง 20-30% คิดเป็นมูลค่าราว 6-6.5 พันล้านบาท หรือ 5 แสนตัว
แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่อจากนี้ได้เตรียมขยายการทำธุรกิจไปยังประเทศเวียดนาม เบื้องต้นอยู่ระหว่างการศึกษาตลาด พฤติกรรมผู้บริโภคและรูปแบบการเข้าทำตลาดที่จะเข้าไปร่วมทุนกับนักธุรกิจท้องถิ่น ซึ่งสาเหตุของการเจาะเวียดนามเป็นประเทศแรกเนื่องจากถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพ อีกกล้องในกลุ่มมิร์เรอร์เลสยังดีรับความนิยมอย่างต่อเนื่องอีกทั้งยังไม่มีเชนสโตร์ หรือร้านจำหน่ายกล้องและอุปกรณ์การถ่ายภาพที่ครบวงจร จึงมองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าไปทำตลาดในประเทศดังกล่าว
ขณะที่การทำตลาดในประเทศล่าสุดได้จัดงาน "บิ๊ก คาเมร่า บิ๊ก โปร เดย์" ครั้งที่ 8 ภายใต้งบ 10 ล้านบาท รวบรวมกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพ และส่วนลดสูงสุด 23% คาดว่าจะมียอดขายเติบโตจากงานครั้งก่อน 10% หรือคิดเป็นยอดขาย 55 ล้านบาท ทั้งนี้ งานดังกล่าวจัดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 2-7 ก.ย. 2557
"บริษัททยอยปิดสาขาที่ไม่ทำเงินไป 10 สาขา และเปิดเพิ่มอีก 16 สาขาในปีนี้ ซึ่งขยายไปกลับการขยายตัวของศูนย์การค้าในพื้นที่ต่างจังหวัด ภายใต้งบการลงทุนไม่รวมสินค้าสาขาละ 2.5 ล้านบาท และในช่วงเดือนธันวาคมนี้ เตรียมเปิดสาขาที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งสิ้น 225 สาขา และสิ้นปีนี้จะมีสาขาเพิ่มเป็น 235 สาขา โดย 3 สาขาเป็น บิ๊ก คาเมร่า แกลเลอเรีย นอกจากนี้ยังมีการขยายร้านร้านบิ๊กโมบาย บาย บิ๊ก คาเมร่า ซึ่งจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 14 สาขา และจะขยายให้ครบ 20 สาขาภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่กระจายอยู่ในพื้นต่างจังหวัดเนื่องจากมีศักยภาพและกำลังซื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง"
อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าหมายยอดขายในปีนี้เติบโตที่ 10% หรือคิดเป็นรายได้ 3.5 พันล้านบาท โดยยอดขายหลักยังคงมาจากลุ่มกล้องถ่ายภาพในสัดส่วน 85% โดยเฉพาะยอดขายกล้องมิร์เลอร์เลสที่เติบโต 100% และอุปกรณ์เสริม 15%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=245399:2014-09-05-06-13-01&catid=106:-marketing&Itemid=456#.VA6RD0tAeuw
alt นายสมชาย ครองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โฟโต้ฮัท กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านจำหน่ายกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพครบวงจรโฟโตฮัท เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ต้องยอมรับว่าตลาดกล้องถ่ายภาพในปีนี้ได้รับผลกระทบด้านยอดขายจาก 2 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.ผลพวงจากตลาดกล้องคอมแพ็กต์ที่ได้รับความนิยมลดลงจากการเข้ามาแทนที่ของสมาร์ทโฟน ส่งผลให้สินค้าในกลุ่มนี้มีอัตรากรเติบโตลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา 2. สภาพเศรษฐกิจ การเมืองที่ส่งผลอารมณ์การจับจ่ายของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย
"ตลาดกล้องคอมแพ็กต์ถือเป็นตลาดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในคอมแพ็กต์ที่มีราคาไม่เกิน 3 พันบาท เนื่องจากการเข้ามาแทนที่ของสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นมากกว่า แต่ขณะเดียวกันกลุ่มคอมแพ็กต์ราคาแพงที่มีราคาตั้งแต่ 3 พัน - 1 หมื่นบาท แม้ภาพรวมจะตกลงมาบ้างแต่ยังถือว่าสามารถสร้างการเติบโตได้ในต่างจังหวัดและช่องทางดิสเคาต์สโตร์"
ในส่วนของบริษัทเองปีนี้ยังไม่มีแผนการขยายสาขาร้านโฟโต้ฮัทแต่อย่างใด เนื่องจากสภาวะตลาดและกำลังซื้อในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาที่ตกลงมาถึง 30-40% ทำให้บริษัทหันมาให้ความสำคัญกับการปรับทำแผนการตลาดใหม่ เบื้องต้นอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนแผนงาน อีกทั้งยังมีการเพิ่มจุดขายโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน ภายในร้านเพิ่มขึ้นเป็น 50 จุดขายในสิ้นปี จากปัจจุบันที่มีอยู่ทั้งสิ้น 20 จุดขาย นอกจากนี้ยังมีการว่างแผนการทำตลาดสินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ ทั้งนี้แนวทางดังกล่าวถือเป็นการปรับกลยุทธ์ในการรองรับตลาดกล้องที่ชะลอตัว และตลาดสมาร์ทโฟนที่มาแรงรองรับการแข่งขันอีกด้วย
"แน่นอนว่าเราไม่ได้หวังมาร์เก็ตแชร์ในตลาดสมาร์ทโฟนที่มีอยู่มากถึง 6-7 หมื่นล้านบาท หรือจะเอาสัดส่วนร้านสมาร์ทโฟนมาเป็นปัจจัยหลักในการทำธุรกิจ แต่ด้วยแนวโน้มตลาดและเทรนด์ของผู้บริโภคทำให้เราต้องปรับกลยุทธ์ในบางส่วนเพื่อการแข่งขัน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองที่ชะลอตัวในครึ่งปีแรก ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าทุกกลุ่มสินค้าได้รับผลกระทบอยู่แล้ว แต่ตลาดกล้องของเราได้รับผลกระทบเป็นสองเท่าตัวจากสินค้าปกติ เนื่องจากเดิมเป็นขาลงของสินค้ากล้องในบางกลุ่มอยู่แล้ว และมีสภาพปัจจัยดังกล่าวเข้ามาเป็นส่วนประกอบทำให้ภาพรวมตลาดลดลงไปกว่าที่ควรจะเป็น"
ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดในช่วงปลายปีบริษัทได้เตรียมแคมเปญ โฟโต้ ฮัท เอ็กซ์โป 2014 ในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 2 แคมเปญยักษ์ที่บริษัทจัดมาเพื่อกระตุ้นตลาดในช่วงต้นปีและปลายปี โดยความพิเศษของงานปีนี้คือการในสมาร์ทโฟน ที่มีจุดเด่นเรื่องของการถ่ายภาพและมีฟีเจอร์เด่นๆเข้ามาร่วมในงานด้วย
______________________________
กล้องดิจิตอลจ่อไอซียู ดิ้นอีกแฮือกอัดแคมเปญปลุกไฮซีซัน
วิกฤติตลาดกล้องดิจิตอล เผยครึ่งปีแรกทรุดหนัก จับตาร้านค้าปลีกกล้องเปิดศึกอัดแคมเปญกระตุ้นยอดปลายปี "โฟโต้ฮัท" อัดแคมเปญยักษ์ "โฟโต้ ฮัท เอ็กซ์โป 2014" ปลุกมู้ดคนรักการถ่ายภาพ ฟาก "บิ๊กคาเมร่า" ไม่น้อยหน้า อัด 10 ล้านบาทเข็นแคมเปญ "บิ๊ก คาเมร่า บิ๊ก โปร เดย์" ครั้งที่ 8 หวังกระตุ้นยอดขายเพิ่ม 10% ก่อนหนีตลาดไทยชะลอตัว สยายปีกตั้งช็อปใหม่ในเวียดนาม
alt นายสมชาย ครองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โฟโต้ฮัท กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านจำหน่ายกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพครบวงจรโฟโตฮัท เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ต้องยอมรับว่าตลาดกล้องถ่ายภาพในปีนี้ได้รับผลกระทบด้านยอดขายจาก 2 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.ผลพวงจากตลาดกล้องคอมแพ็กต์ที่ได้รับความนิยมลดลงจากการเข้ามาแทนที่ของสมาร์ทโฟน ส่งผลให้สินค้าในกลุ่มนี้มีอัตรากรเติบโตลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา 2. สภาพเศรษฐกิจ การเมืองที่ส่งผลอารมณ์การจับจ่ายของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย
"ตลาดกล้องคอมแพ็กต์ถือเป็นตลาดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในคอมแพ็กต์ที่มีราคาไม่เกิน 3 พันบาท เนื่องจากการเข้ามาแทนที่ของสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นมากกว่า แต่ขณะเดียวกันกลุ่มคอมแพ็กต์ราคาแพงที่มีราคาตั้งแต่ 3 พัน - 1 หมื่นบาท แม้ภาพรวมจะตกลงมาบ้างแต่ยังถือว่าสามารถสร้างการเติบโตได้ในต่างจังหวัดและช่องทางดิสเคาต์สโตร์"
ในส่วนของบริษัทเองปีนี้ยังไม่มีแผนการขยายสาขาร้านโฟโต้ฮัทแต่อย่างใด เนื่องจากสภาวะตลาดและกำลังซื้อในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาที่ตกลงมาถึง 30-40% ทำให้บริษัทหันมาให้ความสำคัญกับการปรับทำแผนการตลาดใหม่ เบื้องต้นอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนแผนงาน อีกทั้งยังมีการเพิ่มจุดขายโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน ภายในร้านเพิ่มขึ้นเป็น 50 จุดขายในสิ้นปี จากปัจจุบันที่มีอยู่ทั้งสิ้น 20 จุดขาย นอกจากนี้ยังมีการว่างแผนการทำตลาดสินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ ทั้งนี้แนวทางดังกล่าวถือเป็นการปรับกลยุทธ์ในการรองรับตลาดกล้องที่ชะลอตัว และตลาดสมาร์ทโฟนที่มาแรงรองรับการแข่งขันอีกด้วย
"แน่นอนว่าเราไม่ได้หวังมาร์เก็ตแชร์ในตลาดสมาร์ทโฟนที่มีอยู่มากถึง 6-7 หมื่นล้านบาท หรือจะเอาสัดส่วนร้านสมาร์ทโฟนมาเป็นปัจจัยหลักในการทำธุรกิจ แต่ด้วยแนวโน้มตลาดและเทรนด์ของผู้บริโภคทำให้เราต้องปรับกลยุทธ์ในบางส่วนเพื่อการแข่งขัน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองที่ชะลอตัวในครึ่งปีแรก ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าทุกกลุ่มสินค้าได้รับผลกระทบอยู่แล้ว แต่ตลาดกล้องของเราได้รับผลกระทบเป็นสองเท่าตัวจากสินค้าปกติ เนื่องจากเดิมเป็นขาลงของสินค้ากล้องในบางกลุ่มอยู่แล้ว และมีสภาพปัจจัยดังกล่าวเข้ามาเป็นส่วนประกอบทำให้ภาพรวมตลาดลดลงไปกว่าที่ควรจะเป็น"
ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดในช่วงปลายปีบริษัทได้เตรียมแคมเปญ โฟโต้ ฮัท เอ็กซ์โป 2014 ในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 2 แคมเปญยักษ์ที่บริษัทจัดมาเพื่อกระตุ้นตลาดในช่วงต้นปีและปลายปี โดยความพิเศษของงานปีนี้คือการในสมาร์ทโฟน ที่มีจุดเด่นเรื่องของการถ่ายภาพและมีฟีเจอร์เด่นๆเข้ามาร่วมในงานด้วย
สำหรับยอดขายในสิ้นปีจากภาพรวมตลาดที่ไม่มีการเติบโต มองว่าบริษัทจะรักษาการเติบโตให้เทียบเท่ากับปีทีผ่านมาจากจำนวนสาขาโฟโต้ฮัทในปัจจุบันที่มีอยู่ทั้งสิ้น 70 สาขา ขณะที่ภาพรวมตลาดกล้องครึ่งปีแรกพบว่ามีอัตราการเติบโตที่ลดลงราว 30-40% ซึ่งถือว่ามากพอสมควรเนื่องจากตลาดกล้องถ่ายภาพมีอัตราการเติบโตลดลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาในสัดส่วน 30-40% อยู่แล้ว โดยกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตลดลงมากที่สุดได้แก่กล้องคอมแพ็กต์ที่ลดลง 50% กลุ่มซิงเกิลเลนส์ยอดขายลดลง 20% และกลุ่มดีเอสแอลอาร์ยอดขายลดลง 20% เช่นกันสวนทางกลับกล้องในกลุ่มมิร์เรอร์เลสที่มีอัตราการเติบโต เนื่องจากได้รับความนิยม มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค โดยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 20%
ด้านนายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด ผู้จำหน่ายกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพครบวงจร ภายใต้แบรนด์ "บิ๊กคาเมร่า" กล่าวว่า แนวโน้มการเติบโตในตลาดกล้องถ่ายภาพในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานั้น ประสบกับปัจจัยลบต่างๆไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัวที่กระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภคโดยตรง โดยกลุ่มกล้องถ่ายภาพที่มีอัตราการเติบโตสูงยังคงเป็นกล้องมิร์เรอร์เลส ที่มีอัตราการเติบโตในช่วงครึ่งปีแรกที่ 50% โดยคิดเป็นสัดส่วนในเชิงยูนิต 40% ของตลาดรวมกล้องเปลี่ยนเลนส์ที่มีสัดส่วน 35% ของตลาดรวมกล้องทั้งหมด
ส่วนกลุ่มกล้องที่ไม่มีการเติบโตในช่วงครึ่งปีแรกคือกลุ่มกล้องดีเอสแอลอาร์ตกลง 10-20% และคอมแพคตกลง 50-60% ซึ่งได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใช้สมาร์ทโฟนในการถ่ายภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังภาพรวมตลาดจะมีการเติบโตที่ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรกโดยมองว่าภาพรวมทั้งปีคาดว่าไม่มีการเติบโต หรือตกลง 20-30% คิดเป็นมูลค่าราว 6-6.5 พันล้านบาท หรือ 5 แสนตัว
แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่อจากนี้ได้เตรียมขยายการทำธุรกิจไปยังประเทศเวียดนาม เบื้องต้นอยู่ระหว่างการศึกษาตลาด พฤติกรรมผู้บริโภคและรูปแบบการเข้าทำตลาดที่จะเข้าไปร่วมทุนกับนักธุรกิจท้องถิ่น ซึ่งสาเหตุของการเจาะเวียดนามเป็นประเทศแรกเนื่องจากถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพ อีกกล้องในกลุ่มมิร์เรอร์เลสยังดีรับความนิยมอย่างต่อเนื่องอีกทั้งยังไม่มีเชนสโตร์ หรือร้านจำหน่ายกล้องและอุปกรณ์การถ่ายภาพที่ครบวงจร จึงมองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าไปทำตลาดในประเทศดังกล่าว
ขณะที่การทำตลาดในประเทศล่าสุดได้จัดงาน "บิ๊ก คาเมร่า บิ๊ก โปร เดย์" ครั้งที่ 8 ภายใต้งบ 10 ล้านบาท รวบรวมกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพ และส่วนลดสูงสุด 23% คาดว่าจะมียอดขายเติบโตจากงานครั้งก่อน 10% หรือคิดเป็นยอดขาย 55 ล้านบาท ทั้งนี้ งานดังกล่าวจัดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 2-7 ก.ย. 2557
"บริษัททยอยปิดสาขาที่ไม่ทำเงินไป 10 สาขา และเปิดเพิ่มอีก 16 สาขาในปีนี้ ซึ่งขยายไปกลับการขยายตัวของศูนย์การค้าในพื้นที่ต่างจังหวัด ภายใต้งบการลงทุนไม่รวมสินค้าสาขาละ 2.5 ล้านบาท และในช่วงเดือนธันวาคมนี้ เตรียมเปิดสาขาที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งสิ้น 225 สาขา และสิ้นปีนี้จะมีสาขาเพิ่มเป็น 235 สาขา โดย 3 สาขาเป็น บิ๊ก คาเมร่า แกลเลอเรีย นอกจากนี้ยังมีการขยายร้านร้านบิ๊กโมบาย บาย บิ๊ก คาเมร่า ซึ่งจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 14 สาขา และจะขยายให้ครบ 20 สาขาภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่กระจายอยู่ในพื้นต่างจังหวัดเนื่องจากมีศักยภาพและกำลังซื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง"
อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าหมายยอดขายในปีนี้เติบโตที่ 10% หรือคิดเป็นรายได้ 3.5 พันล้านบาท โดยยอดขายหลักยังคงมาจากลุ่มกล้องถ่ายภาพในสัดส่วน 85% โดยเฉพาะยอดขายกล้องมิร์เลอร์เลสที่เติบโต 100% และอุปกรณ์เสริม 15%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=245399:2014-09-05-06-13-01&catid=106:-marketing&Itemid=456#.VA6RD0tAeuw
ไม่มีความคิดเห็น: