Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

09 กันยายน 2557 Photo Hut.สมชาย ระบุ ทาง Photo Hut มีการปรับตัว เพิ่มจุดขายโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน ภายในร้านเพิ่มขึ้นเป็น 50 จุดขายในสิ้นปี รับตลาดกล้องที่ชะลอตัว และตลาดสมาร์ทโฟนที่มาแรง

ประเด็นหลัก


 alt   นายสมชาย ครองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โฟโต้ฮัท กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านจำหน่ายกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพครบวงจรโฟโตฮัท เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ต้องยอมรับว่าตลาดกล้องถ่ายภาพในปีนี้ได้รับผลกระทบด้านยอดขายจาก 2 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.ผลพวงจากตลาดกล้องคอมแพ็กต์ที่ได้รับความนิยมลดลงจากการเข้ามาแทนที่ของสมาร์ทโฟน ส่งผลให้สินค้าในกลุ่มนี้มีอัตรากรเติบโตลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา 2. สภาพเศรษฐกิจ การเมืองที่ส่งผลอารมณ์การจับจ่ายของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย

    "ตลาดกล้องคอมแพ็กต์ถือเป็นตลาดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในคอมแพ็กต์ที่มีราคาไม่เกิน 3 พันบาท เนื่องจากการเข้ามาแทนที่ของสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นมากกว่า แต่ขณะเดียวกันกลุ่มคอมแพ็กต์ราคาแพงที่มีราคาตั้งแต่ 3 พัน - 1 หมื่นบาท แม้ภาพรวมจะตกลงมาบ้างแต่ยังถือว่าสามารถสร้างการเติบโตได้ในต่างจังหวัดและช่องทางดิสเคาต์สโตร์"
    ในส่วนของบริษัทเองปีนี้ยังไม่มีแผนการขยายสาขาร้านโฟโต้ฮัทแต่อย่างใด เนื่องจากสภาวะตลาดและกำลังซื้อในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาที่ตกลงมาถึง 30-40% ทำให้บริษัทหันมาให้ความสำคัญกับการปรับทำแผนการตลาดใหม่ เบื้องต้นอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนแผนงาน อีกทั้งยังมีการเพิ่มจุดขายโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน ภายในร้านเพิ่มขึ้นเป็น 50 จุดขายในสิ้นปี จากปัจจุบันที่มีอยู่ทั้งสิ้น 20 จุดขาย นอกจากนี้ยังมีการว่างแผนการทำตลาดสินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ ทั้งนี้แนวทางดังกล่าวถือเป็นการปรับกลยุทธ์ในการรองรับตลาดกล้องที่ชะลอตัว และตลาดสมาร์ทโฟนที่มาแรงรองรับการแข่งขันอีกด้วย
    "แน่นอนว่าเราไม่ได้หวังมาร์เก็ตแชร์ในตลาดสมาร์ทโฟนที่มีอยู่มากถึง 6-7 หมื่นล้านบาท หรือจะเอาสัดส่วนร้านสมาร์ทโฟนมาเป็นปัจจัยหลักในการทำธุรกิจ แต่ด้วยแนวโน้มตลาดและเทรนด์ของผู้บริโภคทำให้เราต้องปรับกลยุทธ์ในบางส่วนเพื่อการแข่งขัน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองที่ชะลอตัวในครึ่งปีแรก ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าทุกกลุ่มสินค้าได้รับผลกระทบอยู่แล้ว แต่ตลาดกล้องของเราได้รับผลกระทบเป็นสองเท่าตัวจากสินค้าปกติ เนื่องจากเดิมเป็นขาลงของสินค้ากล้องในบางกลุ่มอยู่แล้ว และมีสภาพปัจจัยดังกล่าวเข้ามาเป็นส่วนประกอบทำให้ภาพรวมตลาดลดลงไปกว่าที่ควรจะเป็น"
    ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดในช่วงปลายปีบริษัทได้เตรียมแคมเปญ โฟโต้ ฮัท เอ็กซ์โป 2014 ในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 2 แคมเปญยักษ์ที่บริษัทจัดมาเพื่อกระตุ้นตลาดในช่วงต้นปีและปลายปี โดยความพิเศษของงานปีนี้คือการในสมาร์ทโฟน ที่มีจุดเด่นเรื่องของการถ่ายภาพและมีฟีเจอร์เด่นๆเข้ามาร่วมในงานด้วย


______________________________




กล้องดิจิตอลจ่อไอซียู ดิ้นอีกแฮือกอัดแคมเปญปลุกไฮซีซัน




  วิกฤติตลาดกล้องดิจิตอล เผยครึ่งปีแรกทรุดหนัก จับตาร้านค้าปลีกกล้องเปิดศึกอัดแคมเปญกระตุ้นยอดปลายปี "โฟโต้ฮัท" อัดแคมเปญยักษ์ "โฟโต้ ฮัท เอ็กซ์โป 2014" ปลุกมู้ดคนรักการถ่ายภาพ ฟาก "บิ๊กคาเมร่า" ไม่น้อยหน้า อัด 10 ล้านบาทเข็นแคมเปญ "บิ๊ก คาเมร่า บิ๊ก โปร เดย์" ครั้งที่ 8 หวังกระตุ้นยอดขายเพิ่ม 10% ก่อนหนีตลาดไทยชะลอตัว สยายปีกตั้งช็อปใหม่ในเวียดนาม
 alt   นายสมชาย ครองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โฟโต้ฮัท กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านจำหน่ายกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพครบวงจรโฟโตฮัท เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ต้องยอมรับว่าตลาดกล้องถ่ายภาพในปีนี้ได้รับผลกระทบด้านยอดขายจาก 2 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.ผลพวงจากตลาดกล้องคอมแพ็กต์ที่ได้รับความนิยมลดลงจากการเข้ามาแทนที่ของสมาร์ทโฟน ส่งผลให้สินค้าในกลุ่มนี้มีอัตรากรเติบโตลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา 2. สภาพเศรษฐกิจ การเมืองที่ส่งผลอารมณ์การจับจ่ายของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย

    "ตลาดกล้องคอมแพ็กต์ถือเป็นตลาดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในคอมแพ็กต์ที่มีราคาไม่เกิน 3 พันบาท เนื่องจากการเข้ามาแทนที่ของสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นมากกว่า แต่ขณะเดียวกันกลุ่มคอมแพ็กต์ราคาแพงที่มีราคาตั้งแต่ 3 พัน - 1 หมื่นบาท แม้ภาพรวมจะตกลงมาบ้างแต่ยังถือว่าสามารถสร้างการเติบโตได้ในต่างจังหวัดและช่องทางดิสเคาต์สโตร์"
    ในส่วนของบริษัทเองปีนี้ยังไม่มีแผนการขยายสาขาร้านโฟโต้ฮัทแต่อย่างใด เนื่องจากสภาวะตลาดและกำลังซื้อในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาที่ตกลงมาถึง 30-40% ทำให้บริษัทหันมาให้ความสำคัญกับการปรับทำแผนการตลาดใหม่ เบื้องต้นอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนแผนงาน อีกทั้งยังมีการเพิ่มจุดขายโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน ภายในร้านเพิ่มขึ้นเป็น 50 จุดขายในสิ้นปี จากปัจจุบันที่มีอยู่ทั้งสิ้น 20 จุดขาย นอกจากนี้ยังมีการว่างแผนการทำตลาดสินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ ทั้งนี้แนวทางดังกล่าวถือเป็นการปรับกลยุทธ์ในการรองรับตลาดกล้องที่ชะลอตัว และตลาดสมาร์ทโฟนที่มาแรงรองรับการแข่งขันอีกด้วย
    "แน่นอนว่าเราไม่ได้หวังมาร์เก็ตแชร์ในตลาดสมาร์ทโฟนที่มีอยู่มากถึง 6-7 หมื่นล้านบาท หรือจะเอาสัดส่วนร้านสมาร์ทโฟนมาเป็นปัจจัยหลักในการทำธุรกิจ แต่ด้วยแนวโน้มตลาดและเทรนด์ของผู้บริโภคทำให้เราต้องปรับกลยุทธ์ในบางส่วนเพื่อการแข่งขัน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองที่ชะลอตัวในครึ่งปีแรก ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าทุกกลุ่มสินค้าได้รับผลกระทบอยู่แล้ว แต่ตลาดกล้องของเราได้รับผลกระทบเป็นสองเท่าตัวจากสินค้าปกติ เนื่องจากเดิมเป็นขาลงของสินค้ากล้องในบางกลุ่มอยู่แล้ว และมีสภาพปัจจัยดังกล่าวเข้ามาเป็นส่วนประกอบทำให้ภาพรวมตลาดลดลงไปกว่าที่ควรจะเป็น"
    ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดในช่วงปลายปีบริษัทได้เตรียมแคมเปญ โฟโต้ ฮัท เอ็กซ์โป 2014 ในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 2 แคมเปญยักษ์ที่บริษัทจัดมาเพื่อกระตุ้นตลาดในช่วงต้นปีและปลายปี โดยความพิเศษของงานปีนี้คือการในสมาร์ทโฟน ที่มีจุดเด่นเรื่องของการถ่ายภาพและมีฟีเจอร์เด่นๆเข้ามาร่วมในงานด้วย
    สำหรับยอดขายในสิ้นปีจากภาพรวมตลาดที่ไม่มีการเติบโต มองว่าบริษัทจะรักษาการเติบโตให้เทียบเท่ากับปีทีผ่านมาจากจำนวนสาขาโฟโต้ฮัทในปัจจุบันที่มีอยู่ทั้งสิ้น 70 สาขา ขณะที่ภาพรวมตลาดกล้องครึ่งปีแรกพบว่ามีอัตราการเติบโตที่ลดลงราว 30-40% ซึ่งถือว่ามากพอสมควรเนื่องจากตลาดกล้องถ่ายภาพมีอัตราการเติบโตลดลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาในสัดส่วน 30-40% อยู่แล้ว โดยกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตลดลงมากที่สุดได้แก่กล้องคอมแพ็กต์ที่ลดลง 50% กลุ่มซิงเกิลเลนส์ยอดขายลดลง 20% และกลุ่มดีเอสแอลอาร์ยอดขายลดลง  20% เช่นกันสวนทางกลับกล้องในกลุ่มมิร์เรอร์เลสที่มีอัตราการเติบโต เนื่องจากได้รับความนิยม มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค โดยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 20%
    ด้านนายธนสิทธิ์  เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด ผู้จำหน่ายกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพครบวงจร ภายใต้แบรนด์ "บิ๊กคาเมร่า" กล่าวว่า แนวโน้มการเติบโตในตลาดกล้องถ่ายภาพในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานั้น ประสบกับปัจจัยลบต่างๆไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัวที่กระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภคโดยตรง โดยกลุ่มกล้องถ่ายภาพที่มีอัตราการเติบโตสูงยังคงเป็นกล้องมิร์เรอร์เลส ที่มีอัตราการเติบโตในช่วงครึ่งปีแรกที่ 50% โดยคิดเป็นสัดส่วนในเชิงยูนิต 40% ของตลาดรวมกล้องเปลี่ยนเลนส์ที่มีสัดส่วน 35% ของตลาดรวมกล้องทั้งหมด
    ส่วนกลุ่มกล้องที่ไม่มีการเติบโตในช่วงครึ่งปีแรกคือกลุ่มกล้องดีเอสแอลอาร์ตกลง 10-20%  และคอมแพคตกลง 50-60% ซึ่งได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใช้สมาร์ทโฟนในการถ่ายภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังภาพรวมตลาดจะมีการเติบโตที่ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรกโดยมองว่าภาพรวมทั้งปีคาดว่าไม่มีการเติบโต หรือตกลง 20-30% คิดเป็นมูลค่าราว 6-6.5 พันล้านบาท หรือ 5 แสนตัว
    แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่อจากนี้ได้เตรียมขยายการทำธุรกิจไปยังประเทศเวียดนาม เบื้องต้นอยู่ระหว่างการศึกษาตลาด พฤติกรรมผู้บริโภคและรูปแบบการเข้าทำตลาดที่จะเข้าไปร่วมทุนกับนักธุรกิจท้องถิ่น ซึ่งสาเหตุของการเจาะเวียดนามเป็นประเทศแรกเนื่องจากถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพ อีกกล้องในกลุ่มมิร์เรอร์เลสยังดีรับความนิยมอย่างต่อเนื่องอีกทั้งยังไม่มีเชนสโตร์ หรือร้านจำหน่ายกล้องและอุปกรณ์การถ่ายภาพที่ครบวงจร จึงมองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าไปทำตลาดในประเทศดังกล่าว
    ขณะที่การทำตลาดในประเทศล่าสุดได้จัดงาน "บิ๊ก คาเมร่า บิ๊ก โปร เดย์" ครั้งที่ 8 ภายใต้งบ 10 ล้านบาท รวบรวมกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพ และส่วนลดสูงสุด 23% คาดว่าจะมียอดขายเติบโตจากงานครั้งก่อน 10% หรือคิดเป็นยอดขาย 55 ล้านบาท ทั้งนี้ งานดังกล่าวจัดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 2-7 ก.ย. 2557
    "บริษัททยอยปิดสาขาที่ไม่ทำเงินไป 10 สาขา และเปิดเพิ่มอีก 16 สาขาในปีนี้ ซึ่งขยายไปกลับการขยายตัวของศูนย์การค้าในพื้นที่ต่างจังหวัด ภายใต้งบการลงทุนไม่รวมสินค้าสาขาละ 2.5 ล้านบาท และในช่วงเดือนธันวาคมนี้ เตรียมเปิดสาขาที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งสิ้น 225 สาขา และสิ้นปีนี้จะมีสาขาเพิ่มเป็น 235 สาขา โดย 3 สาขาเป็น บิ๊ก คาเมร่า แกลเลอเรีย นอกจากนี้ยังมีการขยายร้านร้านบิ๊กโมบาย บาย บิ๊ก คาเมร่า ซึ่งจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 14 สาขา และจะขยายให้ครบ 20 สาขาภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่กระจายอยู่ในพื้นต่างจังหวัดเนื่องจากมีศักยภาพและกำลังซื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง"
    อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าหมายยอดขายในปีนี้เติบโตที่ 10% หรือคิดเป็นรายได้ 3.5 พันล้านบาท โดยยอดขายหลักยังคงมาจากลุ่มกล้องถ่ายภาพในสัดส่วน 85% โดยเฉพาะยอดขายกล้องมิร์เลอร์เลสที่เติบโต 100% และอุปกรณ์เสริม 15%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=245399:2014-09-05-06-13-01&catid=106:-marketing&Itemid=456#.VA6RD0tAeuw

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.