Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

11 กันยายน 2557 TRUE กับมือ China Mobile เข้าพบ กสทช. หลัง China Mobile ได้ร่วมพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ เจาะจงซื้อหุ้น TRUE มูลค่าประมาณ 28,600 ล้านบาท คิดเป็น 18% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด

ประเด็นหลัก



ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า วันนี้(10 ก.ย. 2557)เวลา 9.00 น. นาย LI Yue ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไชน่า โมบาย พร้อมด้วยนายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการและประธานคณะผู้บริหาร. บมจ.ทรู. คอร์ปอเรชั่น  ได้เดินหาเข้าพบพลอากาศเอกธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) พันเอกเศรษฐพงค์  มะลิสุวรรณ ประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) และนายฐากร  ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.


       เมื่อวันที่ 10 ก.ย. เวลา 9.00 น.นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยกลุ่มผู้บริหารบริษัท ไชน่า โมบายล์ จำกัด รวม 13 คน นำโดยนายหลี่ เยว่ หัวหน้าคณะผู้บริหารเข้าพบพล.อ.อ ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ,พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกสทช.และประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.), พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร กรรมการกสทช. นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ กรรมการกสทช.และนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. ซึ่งการเข้าพบดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่จะมีพิธีลงนามระหว่างกลุ่มทรูและไชน่าโมบายล์ ในวันที่ 11 ก.ย.
   
       สำหรับเนื้อหาในการหารือดังกล่าว ทางไชน่า โมบายล์ ได้ให้เหตุผลถึงความสนใจที่จะมาลงทุนในประเทศไทยร่วมกับกลุ่มทรู ว่าเป็นเพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีปัจจัยพื้นฐานเหมาะสมอย่างมากต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ซึ่งเห็นได้จากสัดส่วนจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้บริการโทรศัพท์มือถือต่อจำนวนประชากร100 คน คิดเป็น 140 เลขหมาย ในไตรมาส 2 ของปี 2557 นอกจากนั้น ยังมีสัดส่วนจำนวนผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตเท่ากับ 39% ของจำนวนประชากร หรือจำนวนประมาณ 26 ล้านคนในปี 2556 ซึ่งนับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับหลายประเทศ รวมถึงประเทศจีน

    ทั้งนี้ บมจ.ทรูฯ ได้ร่วมพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์กับไชน่า โมบายล์ ด้วยการจัดสรรหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง มูลค่าประมาณ 28,600 ล้านบาท คิดเป็น 18% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด พร้อมการจัดสรรหุ้นสามัญใหม่เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม มูลค่าประมาณ 36,400 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งหมด 65,000 ล้านบาท.

______________________________




ไชน่าโมบายล์เข้าพบกสทช.ก่อนมีการลงนามร่วมทุนกับทรู


กลุ่มทรูจูงไชน่า โมบายล์ เข้าพบ กสทช.แจงเหตุผลร่วมลงทุนในประเทศไทย ก่อนมีพิธีลงนามร่วมธุรกิจกับกลุ่มทรูในวันที่ 11 ก.ย.เผยประเทศไทยมีอัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมากกว่าประเทศจีน ด้านเลขาธิการ กสทช.ย้ำเอกชนต้องไม่เข้าข่ายครอบงำกิจการโดยต่างด้าว
     
       เมื่อวันที่ 10 ก.ย. เวลา 9.00 น.นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยกลุ่มผู้บริหารบริษัท ไชน่า โมบายล์ จำกัด รวม 13 คน นำโดยนายหลี่ เยว่ หัวหน้าคณะผู้บริหารเข้าพบพล.อ.อ ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ,พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกสทช.และประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.), พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร กรรมการกสทช. นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ กรรมการกสทช.และนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. ซึ่งการเข้าพบดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่จะมีพิธีลงนามระหว่างกลุ่มทรูและไชน่าโมบายล์ ในวันที่ 11 ก.ย.
     
       สำหรับเนื้อหาในการหารือดังกล่าว ทางไชน่า โมบายล์ ได้ให้เหตุผลถึงความสนใจที่จะมาลงทุนในประเทศไทยร่วมกับกลุ่มทรู ว่าเป็นเพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีปัจจัยพื้นฐานเหมาะสมอย่างมากต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ซึ่งเห็นได้จากสัดส่วนจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้บริการโทรศัพท์มือถือต่อจำนวนประชากร100 คน คิดเป็น 140 เลขหมาย ในไตรมาส 2 ของปี 2557 นอกจากนั้น ยังมีสัดส่วนจำนวนผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตเท่ากับ 39% ของจำนวนประชากร หรือจำนวนประมาณ 26 ล้านคนในปี 2556 ซึ่งนับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับหลายประเทศ รวมถึงประเทศจีน
     
       นายฐากร กล่าวว่า กสทช.ให้สิทธิ์ต่างชาติถือครองหุ้นของบริษัทในไทยได้ต้องไม่เกิน 49% และต้องไม่กระทำการที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าวซึ่งมีรายละเอียด 8 ข้อ ได้แก่ 1.การครอบงำด้วยการให้คนต่างด้าวเข้ามาถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม 2.การครอบงำด้วยการถือหุ้นเองของคนต่างด้าว 3.การครอบงำโดยคนต่างด้าวมีอิทธิพลในการกำหนดนโยบาย 4.การครอบงำกิจการผ่านการมีนิติสัมพันธ์กับแหล่งที่มาของเงินลงทุนและเงินกู้จากคนต่างด้าวหรือบุคคลในเครือ 5.การครอบงำผ่านการทำสัญญาเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา สัญญาแฟรนส์ไชส์ หรือสัญญาที่ให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวกับคนต่างด้าวหรือนิติบุคคลในเครือ และสัญญาดังกล่าวมีผลเป็นการถ่ายโอนค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่คนต่างด้าว 6.การครอบงำผ่านการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างหรือสัญญาจ้างบริหารกับคนต่างด้าวหรือนิติบุคคลในเครือ 7.การครอบงำผ่านการร่วมประกอบกิจการกับคนต่างด้าวหรือนิติบุคคลในเครือโดยมีการจัดสรรหรือแบ่งต้นทุนในการประกอบกิจการในลักษณะที่มีผลต่อการถ่ายโอนค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่คนต่างด้าว และ 8.การครอบงำผ่านการทำธุรกรรมในลักษณะโอนราคาหรือสมยอมด้านราคากับคนต่างด้าวหรือนิติบุคคลในเครือ
     
       อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของสำนักงาน กสทช. พบว่า เมื่อมองเศรษฐกิจโดยรวมที่เกิดจาก2 ภาคส่วน คือ โทรคมนาคมและกระจายเสียงและโทรทัศน์ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3% ของจีดีพีของประเทศไทย โดยในภาคโทรคมนาคม กสทช.คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าตลาดรวมทั้งหมดประมาณ 9.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 2.5 % ของจีดีพีของประเทศ ปัจจุบันประเทศไทยมีเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เปิดใช้บริการจำนวน 110 ล้านเลขหมาย จำแนกเป็นเลขหมายที่อยู่ในระบบ 3G จำนวน 65 ล้านเลขหมาย มีการขยายตัวของตลาด สมาร์ทโฟน ประมาณ 30% ในปี 2557 ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมกระจายเสียงและโทรทัศน์ จากข้อมูลพบว่า มีการเจริญเติบโตประมาณ 1% ของ จีดีพี ของประเทศ คิดเป็นมูลค่า1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ และหากมีจัดการประมูลคลื่น 1800 MHz เพื่อรองรับการให้บริการ 4G และคลื่น 900 MHz สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
     
       ในปี 2558-2559 กสทช. คาดการณ์ว่ามูลค่าของตลาดโทรคมนาคมจะโตขึ้น 16.6 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในอีก 2 ปีข้างหน้า คิดเป็น 4% ของ จีดีพี ของประเทศไทย และเมื่อรวมกับมูลค่าที่เกิดจากการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมกระจายเสียงและโทรทัศน์ด้วยแล้ว มูลค่ารวมทั้งหมดจะอยู่ที่ 5 %ของ จีดีพี ของประเทศไทยโดยประมาณ

http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000104059&Keyword=%A1%CA%B7

___________________________________



กลุ่มทรูฯ เข้าพบ กสทช. เปิดตัว "ไชน่าโมบายล์" พาร์ทเนอร์ธุรกิจร่วม ด้าน กสทช.ชี้ ไชน่า โมบายล์ จะต้องปฏิบัติตามกฏหมาย กสทช.ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะสัดส่วนการถือหุ้นต่างด้าว


วันนี้(10 ก.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า เมื่อเวลา 9.00 น.นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) พร้อมด้วยกลุ่มผู้บริหารบริษัท ไชน่า โมบายล์ จำกัด รวม 13 คน นำโดย มร.หลี่ เยว่ หัวหน้าคณะผู้บริหารเข้าพบ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรีประธาน กสทช. พ.อ. เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช.และประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร กรรมการ กสทช. นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ กรรมการ กสทช.

ทั้งนี้ กลุ่มทรูฯได้มาแนะนำไชน่า โมบายล์ เป็นพันธมิตรธุรกิจ ซึ่ง ไชน่า โมบายล์ จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของเรกูเลเตอร์ไทยและต้องปฏิบัติตามระเบียบและประกาศของสำนักงาน กสทช. โดยเฉพาะการให้สิทธิ์ถือครองได้ในสัดส่วนไม่เกิน49% และจะต้องไม่กระทำการที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าวทั้งนี้ การที่ ไชน่า โมบายล์ ระบุว่าการใช้โทรศัพท์มือถือในประเทศไทยมีการเติบโตที่มากกว่าประเทศจีนหลายเท่าตัวจึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เข้ามาทำธุรกิจโทรศัพท์มือถือในไทยร่วมกับกลุ่มทรูฯ

นายฐากร กล่าวว่า สำหรับรายงานอัตราการใช้โทรศัพท์มือถือของประเทศไทยในปี 2557 คาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์ราว 110 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็น 3จี 65 ล้านเลขหมายตลาดสมาร์ทโฟนมีอัตราการเติบโต 30% โดยในอุตสาหกรรมนี้มีมูลค่ามากกว่า 9,300 ล้านเหรียญสหรัฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 11 ก.ย.57 กลุ่มทรูฯจะจัดแถลงข่าวเกี่ยวกับความร่วมมือทางธุรกิจกับ ไชน่า โมบายล์ อย่างเป็นทางการ ที่ อาคารทรู ทาวเวอร์ เวลา 13.30 น.

http://www.dailynews.co.th/Content/IT/265707/กลุ่มทรูฯ+พบ+กสทช.+เปิดตัวผู้ร่วมธุรกิจ+“ไชน่า+โมบายล์_

_______________________________________


กลุ่มทรูพาซีอีโอ ไชน่า โมบายหารือ กสทช.สะท้อนภาพรวมโทรคมนาคมของไทย
วันพุธที่ 10 กันยายน 2014 เวลา 15:42 น. สุวิภา บุษยบัณฑูร ข่าวรายวัน - คอลัมน์ : ข่าวในประเทศ พิมพ์
altนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า วันนี้ (10 กันยายน 2557) Mr. Li Yue Chief Executive Officer (CEO) ของบริษัท ไชน่า โมบาย พร้อมด้วยMr. Li Zhengmao Vice President Mrs. Zhao Fang General Manager (Investment Department) Mr. Gao Nianshu General Manager (Marketing Department) Mr. Lin Zhenhui General Manager (China Mobile International) Mr. Dai Zhong General Manager (Enterprise Company) และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะและหารือ พล.อ.อ. ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. พ.อ. ดร. เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช. และประธาน กคท. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.และรองเลขาธิการ กสทช. สายงานโทรคมนาคม รองเลขาธิการ กสทช.สายงานบริหารคลื่นความถี่และภูมิภาค ภายหลังจากที่ได้เป็นพาร์ตเนอร์กับบริษัท ทรู คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยในการหารือได้มีการนำเสนอข้อมูลภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่ อินเทอร์เน็ต และบรอดแบนด์ ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นที่สนใจของบริษัทฯ เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่ามีปัจจัยพื้นฐานที่เหมาะสมอย่างมากต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ประเทศไทยมีสัดส่วนจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อจำนวนประชากร100 คน คิดเป็น 140 เลขหมาย ในไตรมาส 2 ของปี 2557


altนอกจากนั้น ยังมีสัดส่วนจำนวนผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตเท่ากับร้อยละ 39ของจำนวนประชากร หรือจำนวนประมาณ 26 ล้านคนในปี 2556ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับหลายประเทศ รวมทั้งมีแนวโน้มการลงทุนด้านกิจการโทรคมนาคมที่ร้อนแรง ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบอัตราการเจริญเติบโตด้านโทรคมนาคมพบว่าประเทศไทยมีอัตราสูงกว่าในประเทศจีน

นายฐากร ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลของสำนักงาน กสทช. พบว่า เมื่อมองเศรษฐกิจโดยรวมที่เกิดจาก2 ภาคส่วน คือ โทรคมนาคมและกระจายเสียงและโทรทัศน์ คิดเป็นมูลค่าประมาณ ร้อยละ 3ของ GDPของประเทศไทย โดยในภาคโทรคมนาคม กสทช.คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าตลาดรวมทั้งหมดประมาณ 9.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น ร้อยละ 2.5 ของ GDP ของประเทศ ปัจจุบันประเทศไทยมีเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เปิดใช้บริการจำนวน110 ล้านเลขหมาย จำแนกเป็นเลขหมายที่อยู่ในระบบ 3G 65ล้านเลขหมาย มีการขยายตัวของตลาด smart phone ประมาณ ร้อยละ30 ในปี 2557 ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมกระจายเสียงและโทรทัศน์ จากข้อมูลพบว่า มีการเจริญเติบโตประมาณร้อยละ 1 ของ GDP ของประเทศ คิดเป็นมูลค่า1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ และหากมีจัดการประมูลคลื่น 1800 MHz เพื่อรองรับการให้บริการ4G และคลื่น 900 MHz สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในปี 2558-2559 กสทช. คาดการณ์ว่ามูลค่าของตลาดโทรคมนาคมจะโตขึ้น 16.6 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในอีก2 ปีข้างหน้า คิดเป็นร้อยละ 4 ของ GDP ของประเทศไทย และเมื่อรวมกับมูลค่าที่เกิดจากการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมกระจายเสียงและโทรทัศน์ด้วยแล้ว มูลค่ารวมทั้งหมดจะอยู่ที่ร้อยละ 5 ของ GDP ของประเทศไทยโดยประมาณ


http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=246013:2014-09-10-08-43-59&catid=176:2009-06-25-09-26-02&Itemid=524#.VBE30UtAeuw

___________________________


ทรูควงไชน่าโมบายล์ ตบเท้าฝากตัวกสทช.
  ทรูฯ ชวนไชน่าโมบายล์พบ กสทช. เผยตลาดไทยน่าลงทุน โอกาสเติบโตสูง
    นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยกลุ่มผู้บริหารบริษัท ไชน่า โมบายล์ จำกัด 13 คน นำโดย นายหลี่ เยว่ หัวหน้าคณะผู้บริหารเดินหน้าเข้าพบ พล.อ.อธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช.และประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร กรรมการ กสทช. นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ กรรมการ กสทช. และนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.
    นายฐากรเปิดเผยว่า บมจ.ทรูฯ ได้นำพันธมิตรในการดำเนินธุรกิจใหม่มาแนะนำ ซึ่งไชน่า โมบายล์ จะส่งเสริมให้ บมจ.ทรูฯ มีศักยภาพในการทำธุรกิจแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นมากยิ่งขึ้น โดยการเข้าพบดังกล่าวมีการพูดคุยถึงประเด็นการถือครองหุ้นในกิจการโทรคมนาคมโดยคนต่างด้าวให้แก่ไชน่า โมบาย ว่า กฎหมายของ กสทช.ให้สิทธิ์ถือครองได้ในสัดส่วนไม่เกิน 49% และจะต้องไม่กระทำการที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว
    ทั้งนี้ บมจ.ทรูฯ ได้ร่วมพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์กับไชน่า โมบายล์ ด้วยการจัดสรรหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง มูลค่าประมาณ 28,600 ล้านบาท คิดเป็น 18% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด พร้อมการจัดสรรหุ้นสามัญใหม่เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม มูลค่าประมาณ 36,400 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งหมด 65,000 ล้านบาท.

http://www.thaipost.net/news/110914/95965

_____________________________________


ผู้บริหาร"ทรู-ไชน่าโมบาย" เข้าพบกสทช. เผยโทรคมไทยโตกว่าจีน คาดแตะ5%ของGDP อีก2ปี


ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า วันนี้(10 ก.ย. 2557)เวลา 9.00 น. นาย LI Yue ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไชน่า โมบาย พร้อมด้วยนายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการและประธานคณะผู้บริหาร. บมจ.ทรู. คอร์ปอเรชั่น  ได้เดินหาเข้าพบพลอากาศเอกธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) พันเอกเศรษฐพงค์  มะลิสุวรรณ ประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) และนายฐากร  ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.


นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยภายหลังการหารือว่า เป็นการเข้าพบเพื่อทำความรู้จักกันภายหลังจากที่ไชน่า โมบาย ได้เป็นพาร์ทเนอร์ของทรู คอร์ปอเรชั่น จึงเสมือนหนึ่งว่าอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. ด้วย  โดยซีอีโอไชน่า โมบายได้ถึงแนวโน้มการลงทุนของโทรคมในไทยที่มีความร้อนแรงมากกว่าในจีน ทั้งอัตราการการเติบโตและอัตราการเข้าถึงของประชาชนที่สูงมากทั้งด้านโมบายและอินเทอร์เน็ตไร้สาย  จึงเป็นโอกาสอันดีที่ไชน่า โมบายได้มาลงทุนกับทรู  ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กลุ่มทรูด้วย

ขณะที่ทาง กสทช. ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการถือครองหุ้นของคนต่างด้าว ตาม พ.ร.บ. ประกอบกิจการโทรคมนาคม ที่ไม่ให้ต่างด้าวถือหุ้นมากกว่า 49% และมีมีข้อห้ามในส่วนของกระทำที่ถือเป็นการครอบงำ 8 ข้อ เพื่อประกอบการพิจารณาลงทุนของไชน่า โมบายด้วย  ซึ่งในส่วนข้อตกลงเป็นพาร์ทเนอร์ระหว่างไชน่า โมบาย กับกลุ่มทรู เท่าที่ทราบคือ ไชน่า โมบายเข้ามาถือหุ้น 18% ในทรู  โดยทางไชน่า โมบายและทรูฯ จะมีการแถลงรายละเอียดในวันพรุ่งนี้(11 ก.ย.) เวลา 13.30 น.

นอกจากนี้ทางไชน่า โมบาย ต้องการทราบว่า ข้อมูลสภาพตลาดโทรคมนาคมในไทยด้วย  ซึ่งทาง กสทช. ได้แจ้งข้อมูลล่าสุดให้ทราบว่า  การความเติบโตของโทรคมนาคมและ บรอดแคสต์ไทย ในปัจจุบัน คิดเป็น 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) โดยคาดว่าปีนี้ด้านโทรคมนาคม จะโตขึ้น 2.5% หรือราว 9,300 ล้านเหรียญสหรัฐ  ด้านกิจการกระจายเสียง เติบโตขึ้น 1%  หรือ 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐ

ขณะที่หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้งานอยู่ในตลาดมีทั้งหมด  110 ล้านเลขหมาย อยู่ในระบบ 3G 65 ล้านเลขหมาย   ส่วนอุปกรณ์แอนด์เซ็ตอย่างสมาร์ทโฟน มีมูลค่าเติบโตขึ้น 30% จากปีก่อน

และในปี 2558 – 2559  ถ้าได้จัดประมูลคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz จะมีอัตราการเติบโตทางด้านโทรคมนาคมอยู่ที่ 4% ของ GDP หรือมีมูลค่าราว 16,600 ล้านเหรียญสหรับ ขณะที่ด้านบรอดแคสต์จะอยู่ที่ 1% ของ GDP  รวมแล้วภาคอุตสาหกรรมที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. จะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ 5% ของ GDP ประเทศ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1410328998

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.