Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

11 กันยายน 2557 กสทช.ประวิทย์ ระบุ เตรียมระกาศผู้มีอำนาจเหนือตลาดใหม่ของ กสทช. ( ขั้นแรกต้องประเมินสภาพตลาดก่อนว่ามีการแข่งขันมากน้อยเพียงใด หากตลาดมีการแข่งขันสูงอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซงกลไกตลาด )

ประเด็นหลัก




หากประกาศฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ อาจทำให้ผู้มีอำนาจเหนือตลาดเดิม (เอไอเอสและดีแทค) ไม่ต้องถูกบังคับให้คิดค่าบริการด้านเสียงไม่เกิน 99 สตางค์ต่อนาที ตามประกาศ กสทช. เรื่อง อัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงภายในประเทศ พ.ศ. 2555 เนื่องจากขั้นตอนการกำหนดผู้มีอำนาจเหนือตลาดตามร่างประกาศฉบับใหม่ ขั้นแรกต้องประเมินสภาพตลาดก่อนว่ามีการแข่งขันมากน้อยเพียงใด หากตลาดมีการแข่งขันสูงอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซงกลไกตลาด


______________________________




จับตา! ประกาศผู้มีอำนาจเหนือตลาดใหม่ของ กสทช. ลดระดับการคุ้มครองผู้บริโภค



นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมบอร์ด กสทช. ได้มีมติเห็นชอบร่างประกาศ กสทช. เรื่อง นิยามตลาดและขอบเขตตลาดโทรคมนาคมที่เกี่ยวข้อง พ.ศ. ... และร่างประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาผู้มีอำนาจเหนือตลาดในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ... ซึ่งประกาศทั้ง 2 ฉบับกำลังรอจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อมีผลบังคับใช้


หากประกาศฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ อาจทำให้ผู้มีอำนาจเหนือตลาดเดิม (เอไอเอสและดีแทค) ไม่ต้องถูกบังคับให้คิดค่าบริการด้านเสียงไม่เกิน 99 สตางค์ต่อนาที ตามประกาศ กสทช. เรื่อง อัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงภายในประเทศ พ.ศ. 2555 เนื่องจากขั้นตอนการกำหนดผู้มีอำนาจเหนือตลาดตามร่างประกาศฉบับใหม่ ขั้นแรกต้องประเมินสภาพตลาดก่อนว่ามีการแข่งขันมากน้อยเพียงใด หากตลาดมีการแข่งขันสูงอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซงกลไกตลาด

ขณะที่สำนักงาน กสทช. อาจยังมีข้อมูลค่าบริการด้านโทรคมนาคมไม่เพียงพอสำหรับการคำนวณการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสำหรับการวิเคราะห์ระดับความมีประสิทธิภาพของการแข่งขันในตลาดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะมีปัญหาในการประเมินสภาพการแข่งขันของตลาดและผู้ประกอบการรายใดคือผู้มีอำนาจเหนือตลาด

"ตามประกาศใหม่ เงื่อนไขการกำกับดูแลจะซับซ้อนขึ้น อุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยมีผู้ประกอบการไม่มากนัก ทำให้ผู้ประกอบการมีอำนาจต่อรองค่อนข้างมาก ค่าบริการจึงมักมีราคาแพงและไม่สะท้อนต้นทุน การไม่มีเกณฑ์ใด ๆ เพื่อจำกัดการขึ้นราคาค่าบริการย่อมส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคโดยตรง ที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีข้อถกเถียงกันว่า การกำกับค่าบริการปลายทางประเภทเสียง 99 สตางค์เป็นแนวทางการกำกับดูแลตลาดขายปลีกที่เหมาะสมหรือไม่ และสามารถบังคับได้จริงมากน้อยเพียงใด แต่ก็ต้องยอมรับว่าแนวทางดังกล่าวเป็นเพียงแนวทางที่ชัดเจนแนวทางเดียวที่ กสทช. ใช้กำกับราคาค่าบริการเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากค่ายมือถือได้แบบผู้บริโภคเข้าใจง่าย คืออย่างน้อยผู้บริโภครู้ว่ากติกา คือค่าโทร 2G ต้องไม่เกิน 99 สตางค์นะ เมื่อมีการคิดเกินก็รู้ว่า บริษัททำผิดแล้วนะ และ กสทช. ไม่ปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย มีการตรวจสอบได้ แต่ภายใต้แนวทางกำกับแบบใหม่ ทุกอย่างจะซับซ้อนซ่อนเงื่อนขึ้น ส่วนใดทำไม่ถูกหรือไม่ทำงาน ก็ยากจะชี้ถูกชี้ผิด" นายประวิทย์กล่าว

โดยก่อนหน้านี้ กสทช. กำหนดให้บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (DTAC) เป็นผู้ประกอบการที่มีอำนาจเหนือตลาด แต่พบว่า บริษัททั้งสองมีการฝ่าฝืนประกาศอัตราขั้นสูง 99 สตางค์มาตลอด โดยยังคงคิดค่าโทรเกินกว่าอัตราที่กำหนด ซึ่งล่าสุด กสทช. ก็ได้กำหนดอัตราค่าปรับบริษัท AIS วันละ 1.8 แสนบาท และบริษัท DTAC วันละ 1.5 แสนบาท โดยให้มีผลบังคับนับตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา




http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1410346909

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.