Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

12 กันยายน 2557 China Mobile.หลี่ การจับมือกับ TRUE สำคัญของความร่วมมือในครั้งนี้คือปีมีประชากรจีนมากกว่า 4 ล้านคน เข้ามาทำธุรกิจ และท่องเที่ยวในประเทศไทย และมีโอกาสที่จะเพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคนในอนาคต

ประเด็นหลัก




   นายหลี่ เยว่ กรรมการผู้บริหารและหัวหน้าคณะผู้บริหาร บริษัท ไชน่า โมบายล์ จำกัด กล่าวว่า สิ่งสำคัญของความร่วมมือในครั้งนี้คือ การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพราะจีนเชื่อว่าระบบเศรษฐกิจ และสังคมของไทยมีโอกาสที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตอีกมาก ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมา แต่ละปีมีประชากรจีนมากกว่า 4 ล้านคน เข้ามาทำธุรกิจ และท่องเที่ยวในประเทศไทย และมีโอกาสที่จะเพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคนในอนาคต
   
       ยังไม่นับรวมกับคนไทยที่เข้าไปทำธุรกิจ และท่องเที่ยวในประเทศจีน ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน ทั้งนี้ ไชน่า โมบายล์ เชื่อมั่นใจศักยภาพของกลุ่มและแสวงหาโอกาสที่จะเข้าลงทุนในบริษัทที่มีความครบวงจร และเป็นช่องทางในการขยายตลาดเข้าสู่ระดับโลกของไชน่า โมบายล์
   
       “แม้ว่าไชน่า โมบายล์ จะเข้ามาถือหุ้น 18% ในกลุ่มทรู แต่ก็มองว่าต้องทำตามกฎระเบียบ และกฎหมายของไทย ในการบริหารจัดการทางด้านบุคลากร แต่ก็พร้อมที่จะส่งเสริมบุคลากรที่มีความสามารถเข้าไปช่วยพัฒนาในอนาคตถ้ามีความต้องการ”
   
______________________________




“ศุภชัย” ยันไตรมาส 4 กลุ่มทรูกำไร




       กลุ่มทรู มั่นใจกลับมามีกำไรภายในไตรมาส 4 หลักผนึกความร่วมมือกับไชน่า โมบายล์ เพื่อลดภาระหนี้กว่า 5.5 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ลดภาระดอกเบี้ยกว่า 4 พันล้านบาทต่อปี พร้อมกับการสิ้นสุดภาวะหักค่าเสื่อมจากการลงทุนในระบบสัมปทาน 2G ในสิ้นเดือนกันยายน
     
       เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มทรูและไชน่าโมบายล์ มีการลงนามในสัญญาร่วมเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการ นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การผนึกพันธมิตรทางยุทศาสตร์กับไชน่า โมบายล์ ในครั้งนี้ นอกจากในแง่ของการปรับลดภาระหนี้ของทางกลุ่มทรูแล้ว เชื่อว่าประสบการณ์ของไชน่า โมบายล์ จะช่วยให้กลุ่มทรูสามารถก้าวไปสู่การแข่งขันในระดับภูมิภาคได้ในอนาคตด้วย
     
       “การร่วมมือกับทางไชน่า โมบายล์ ในครั้งนี้ จุดประสงค์หนึ่งคือการเพิ่มทุน ทำให้สามารถเพิ่มทุนได้รวม 6.5 หมื่นล้านบาท หรือราว 2 พันล้านเหรียญ โดยแบ่งเงินส่วนใหญ่กว่า 5.5 หมื่นล้านบาท ไปคืนหนี้ในส่วนของหนี้ธนาคาร แต่ยังมีเหลือหนี้ในส่วนของหุ้นกู้ที่ต้องบริหารจัดการต่อไป”
     
       ทั้งนี้ เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กลุ่มทรูได้มีการแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ไชน่า โมบายล์ จะเข้ามาสนับสนุนเงินทุนให้บริษัทผ่านการจัดสรรหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง (Private Placement) มูลค่าประมาณ 28,600 ล้านบาท หรือราว 18% ในขณะเดียวกัน บริษัทก็จะดำเนินการเพิ่มทุนอีกประมาณ 36,400 ล้านบาท โดยการจัดสรรหุ้นสามัญใหม่ เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) รวมเป็นการเพิ่มทุน 6.5 หมื่นล้านบาท
     
       “การปรับฐานการเงินในครั้งนี้ทำให้ทรูมีสัดส่วนหนี้สุทธิต่อกำไรโดยรวมก่อนหักภาษี, ค่าเสื่อม (Ebida) ลดจาก 5 เท่า มาอยู่ที่ 1.5 เท่า พร้อมกับเป็นการลดภาระดอกเบี้ยธนาคารได้มากกว่าปีละ 4 พันล้านบาท ในขณะเดียวกันยังช่วยให้มีการปรับฐานบริษัทให้กลับมาอยู่ในเรตบริษัทที่น่า ลงทุน (Investment Rate)'
     
       นอกจากนี้ ที่ผ่านมามีการเร่งหักขาดทุนทางบัญชีของโครงข่ายสัมปทาน 2G ที่จะสิ้นสุดลงในสิ้นเดือนกันยายนนี้ ทำให้ถ้าไม่มีการหักค่าเสื่อมในส่วนนี้ ส่งผลให้เชื่อว่าภายในไตรมาส 4 หลังจากมีการคืนหนี้เรียบร้อยแล้ว กลุ่มทรูก็ควรจะกลับมามีกำไร และสร้างผลกำไรต่อเนื่อง โดยสามารถให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นในอันดับต่อไป
     
       อย่างไรก็ตาม ยังมีมาตรการอีกมากในการสร้างศักยภาพของธุรกิจ รวมไปถึงการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตเร็วยิ่งขึ้น โดยยังใช้กลยุทธ์อย่างคอนเวอร์เจนซ์ และการลงทุนในโครงข่ายที่มีคุณภาพ โดยใช้การบริหารค่าใช้จ่าย เพื่อสร้างมูลค่าให้สูงสุดจากความร่วมมือในครั้งนี้ รวมไปถึงการสร้างประโยชน์ระดับภูมิภาค
     
       “ความร่วมมือนี้ถือเป็นมิติใหม่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม เพราะไชน่า โมบายล์ถือเป็นผู้บุกเบิกในส่วนของการพัฒนาเทคโนโลยี 4G และกำลังเตรียมพัฒนา 5G ต่อไป ทำให้หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้บริโภคชาวไทยจะได้รับประโยชน์จากความร่วมมือครั้งนี้ ที่สำคัญคือ ทั้ง 2 ฝ่ายต้องตั้งใจทำงานอย่างจริงจังเพื่อนำสิ่งดีๆ เข้ามาสู่ตลาดประเทศไทย”
     
       โดยไชน่า โมบายล์ และกลุ่มทรู พร้อมที่จะพิจารณาความร่วมมือทางธุรกิจ โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ และคณะทำงานที่มีตัวแทนจากทั้ง 2 องค์กร เพื่อร่วมกันกำหนดกลยุทธ์ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องใน 6 ด้าน คือ 1.ผลิตภัณฑ์ บริการเสริมและคอนเทนต์ 2.ธุรกิจระหว่างประเทศ 3.โครงข่าย 4.การจัดซื้อดีไวซ์ 5.การจัดซื้อทั่วไป และ 6.ทรัพยากรบุคคล
     
       นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ในสัญญาฉบับนี้มีการจับมือกันในหลากหลายด้านเพื่อร่วมกันพัฒนา โดยในส่วนของโครงสร้างการบริหารทางไชน่า โมบายล์ ได้ส่งกรรมการ 2 คนเข้ามาอยู่ในคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) และมีสิทธิที่จะนำเสนอกรรมการอิสระได้อีก 1 คน รวมทั้งยังเข้าไปดูแลในส่วนของคณะทำงานด้านการเงิน ธรรมาภิบาล และเรื่องผลตอบแทนของฝ่ายบริหารในกลุ่มทรู
     
       นายหลี่ เยว่ กรรมการผู้บริหารและหัวหน้าคณะผู้บริหาร บริษัท ไชน่า โมบายล์ จำกัด กล่าวว่า สิ่งสำคัญของความร่วมมือในครั้งนี้คือ การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพราะจีนเชื่อว่าระบบเศรษฐกิจ และสังคมของไทยมีโอกาสที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตอีกมาก ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมา แต่ละปีมีประชากรจีนมากกว่า 4 ล้านคน เข้ามาทำธุรกิจ และท่องเที่ยวในประเทศไทย และมีโอกาสที่จะเพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคนในอนาคต
     
       ยังไม่นับรวมกับคนไทยที่เข้าไปทำธุรกิจ และท่องเที่ยวในประเทศจีน ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน ทั้งนี้ ไชน่า โมบายล์ เชื่อมั่นใจศักยภาพของกลุ่มและแสวงหาโอกาสที่จะเข้าลงทุนในบริษัทที่มีความครบวงจร และเป็นช่องทางในการขยายตลาดเข้าสู่ระดับโลกของไชน่า โมบายล์
     
       “แม้ว่าไชน่า โมบายล์ จะเข้ามาถือหุ้น 18% ในกลุ่มทรู แต่ก็มองว่าต้องทำตามกฎระเบียบ และกฎหมายของไทย ในการบริหารจัดการทางด้านบุคลากร แต่ก็พร้อมที่จะส่งเสริมบุคลากรที่มีความสามารถเข้าไปช่วยพัฒนาในอนาคตถ้ามีความต้องการ”
     
       ขณะเดียวกัน ยังกล่าวถึงเทรนด์ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมว่า ที่ผ่านมา ไชน่า โมบายล์ มีสัดส่วนรายได้จากการโทรศัพท์ (วอยซ์) ประมาณ 60% แต่เชื่อว่าในอนาคตรายได้จากส่วนนี้จะน้อยลง ดังที่เห็นจากก่อนหน้านี้มีรายได้จากการส่งข้อความสั้น (SMS) ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านหยวน แต่พอเปลี่ยนมาเป็นการเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตทำให้รายได้ส่วนนี้หายไป ทำให้ต้องมีการพัฒนาเครือข่ายขึ้นมาใช้งานสำหรับโซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อทดแทน และตอบรับกับยุคสมัยใหม่ของการสื่อสาร
     

http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000104548

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.