Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

12 กันยายน 2557 TRUE.ศุภชัย ชี้ การร่วมเป็นพันธมิตร China Mobile จะทำให้บริษัทสามารถชำระหนี้จากธนาคารได้ 55,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้กลุ่มทรูมีหนี้สินต่อกำไรสุทธิก่อนหักค่าเสื่อม (อีบีด้า) เหลือ 1 :1.5 เท่า จากเดิมที่มีอยู่ 5 เท่า

ประเด็นหลัก


    นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มทรูร่วมลงนามสัญญาเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการกับบริษัท ไชน่า โมบายล์ จำกัด ว่า ความร่วมมือครั้งนี้ทำให้กลุ่มทรูมีมูลค่าของเงินทุนเพิ่ม 65,000 ล้านบาท ผ่านการจัดสรรหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง โดยหุ้นที่ไชน่า โมบายล์ เข้ามาถือมีมูลค่าประมาณ 28,600 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 18% ของหุ้นทั้งหมด และการเสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นอีก 36,400 ล้านบาท
    ทั้งนี้ การร่วมเป็นพันธมิตรจะทำให้บริษัทสามารถชำระหนี้จากธนาคารได้ 55,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้กลุ่มทรูมีหนี้สินต่อกำไรสุทธิก่อนหักค่าเสื่อม (อีบีด้า) เหลือ 1 :1.5 เท่า จากเดิมที่มีอยู่ 5 เท่า ลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยถึง 4,000 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งคาดว่าในไตรมาส 4/2557 บริษัทจะสามารถทำกำไรหลังคืนหนี้เรียบร้อยแล้วและสามารถปันผลได้ ซึ่งผลกำไรในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ 2,146.36 ล้านบาท


______________________________




ทรูยิ้มล้างหนี้5หมื่นล. CATพร้อมชิงคลื่น4จี


  ทรูจับมือไชน่า โมบายล์ ยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมจีน คาดปลายปีทำกำไรพร้อมปันผลได้ เผยร่วมทุนครั้งนี้ช่วยปลดหนี้ธนาคาร 5.5 หมื่นล้านบาท ฟาก กสทฯ มีรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท แต่รายได้สัมปทานหาย
    นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มทรูร่วมลงนามสัญญาเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการกับบริษัท ไชน่า โมบายล์ จำกัด ว่า ความร่วมมือครั้งนี้ทำให้กลุ่มทรูมีมูลค่าของเงินทุนเพิ่ม 65,000 ล้านบาท ผ่านการจัดสรรหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง โดยหุ้นที่ไชน่า โมบายล์ เข้ามาถือมีมูลค่าประมาณ 28,600 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 18% ของหุ้นทั้งหมด และการเสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นอีก 36,400 ล้านบาท
    ทั้งนี้ การร่วมเป็นพันธมิตรจะทำให้บริษัทสามารถชำระหนี้จากธนาคารได้ 55,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้กลุ่มทรูมีหนี้สินต่อกำไรสุทธิก่อนหักค่าเสื่อม (อีบีด้า) เหลือ 1 :1.5 เท่า จากเดิมที่มีอยู่ 5 เท่า ลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยถึง 4,000 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งคาดว่าในไตรมาส 4/2557 บริษัทจะสามารถทำกำไรหลังคืนหนี้เรียบร้อยแล้วและสามารถปันผลได้ ซึ่งผลกำไรในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ 2,146.36 ล้านบาท
    ด้านนายวิโรจน์ โตเจริญวาณิช รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. กสท โทรคมนาคม หรือ CAT กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา บอร์ดได้รับทราบงบการดำเนินงานงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.57 พบว่ามีรายได้อยู่ที่ 12,673.55 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ 12,578.66 ล้านบาท มีกำไรสุทธิที่ 94.89 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีปัจจัยมาจากรายได้สัมปทานที่หายไปประมาณ 4.7 พันล้านบาท
    สำหรับการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ เพื่อให้บริการ 3 จี ที่มีอยู่นั้น กสทฯ จะใช้วิธีการหาพาร์ตเนอร์ร่วมธุรกิจรายใหม่ที่ดำเนินธุรกิจในสัญญาเพื่อให้บริการ 3 จี ในลักษณะเดียวกันกับบริษัท เรียลมูฟ จำกัด และบริษัท 356 คอมมูนิเคชั่น จำกัด ส่วนการเข้าร่วมประมูลคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์นั้น ทันทีที่ กสทช.เปิดประมูล กสทฯ จะยังคงแผนเดิมที่จะเข้าร่วมประมูลคลื่นดังกล่าวเพื่อมาให้บริการ 4 จีแน่นอน.

http://www.thaipost.net/news/120914/96015

__________________________


ทรูได้ทุนใหม่จากไชน่าฯจ่ายหนี้ Q4มีกำไร-ลดภาระดอกเบี้ย4พันล.

ผู้สื่อขาวรางานว่า บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กับ บริษัท ไชน่า โมบายล์ จำกัด ได้จัดการพิธีการแถลงข่าวเรื่องความร่วมมือทางธุรกิจกันอย่างเป็นทางการ โดยทาง บริษัท ไชน่า โมบายล์ จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหม่ ในบมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ในสัดส่วน 28 %

                นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการและประธานคณะผู้บริการ บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดแผยว่า ภายหลังจากการร่วมเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์กับ บริษัท ไชน่าโมบายล์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่มีฐานลูกค้าเป็นอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งทำให้ทรูฯ ได้มีแผนการปรับฐานการเงิน โดยทำให้ทรูฯ เพิ่มทุนได้ถึง 6.5 หมื่นล้านบาท  หรือคิดเป็นเงิน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะทำให้สามารถชำระหนี้สถาบันกว่า 5.5  หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้ทรูฯ ปลอดหนี้โดยเฉพาะหนี้ที่มาจากสถาบันทางการเงิน

            อย่างไรก็ตามทรูฯ ยังคงเหลือหุ้นกู้ กว่า 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งการปรับฐานการเงินในครั้งนี้ ทำให้ทรูฯ  มีอัตราหนี้สินสุทธิ ต่ออัตรากำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคา หรือ  (Ebitda) ลดลงเหลือ 1.5 เท่า จาก 5 เท่าซึ่งจะทำให้ช่วยลดภาระดอกเบี้ยถึง 4,000 ล้านบาทต่อปี  โดยทรูฯ คาดว่า ในไตรมาส 4 /2557 จะทำให้เริ่มกับมามีกำไร และมีกำไรต่อเนื่อง

              “สาเหตุที่ทำให้ทรูฯ เริ่มกับมามีกำไร เนื่องจากสัญญาสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 2จี สิ้นสุดลงไปเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา  ทำให้บริษัท ไม่ต้องมีการบันทึกค่าเสื่อมทางบัญชี ตั้งแต่เดือน กันยายน ดังนั้นก็จะทำให้บริษัท กลับมามีกำไรขึ้น “

                 อย่างไรก็ตาม การลงนามสัญญาร่วมเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์กับไชน่าโมบายล์อย่างเป็นทางการในวันนี้ จะนำไปสู่ความร่วมมือที่จะเอื้อประโยชน์ร่วมกันแก่ทั้ง 2 ฝ่าย โดยกลุ่มทรูจะมีฐานการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นจากการเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์รายใหม่ของไชน่าโมบายล์ ในขณะที่ไชน่าโมบายล์ได้ขยายกิจการของบริษัทไปยังระดับภูมิภาคและระดับโลก

               ทั้งนี้จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานโดยมีตัวแทนจากทั้ง 2องค์กรเพื่อดำเนินงานร่วมกันใน 6 ด้านได้แก่ 1) ผลิตภัณฑ์/บริการเสริม/คอนเทนต์ 2) ธุรกิจระหว่างประเทศ 3) โครงข่าย 4) การจัดซื้อดีไวซ์ 5) การจัดซื้อทั่วไป 6)ทรัพยากรบุคคล

               ด้านนายหลี่ เยว่ กรรมการบริหารและหัวหน้าคณะผู้บริหาร ไชน่าโมบายล์ กล่าวว่า ไชน่าโมบายล์  ต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมาโดยตลอด การร่วมธุริกจกับทรูครั้งนี้ หวังว่าจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการขยายธุรกิจในต่างประเทศของไชน่า โมบายส์  โดยขณะนี้ไชน่าโมบายล์ได้เก้าอี้ในบอร์ดบริหาร 2 ที่นั่งและบอร์ดอิสระ 1 ที่นั่ง และด้วยสุดส่วนหุ้นที่ถือยู่เพียง18 % จึงยังไม่มีแผนในการส่งคนเข้าร่วมทีมบริหาร แม้ว่าจะได้รับคำเชิญแล้วก็ตาม



http://www.naewna.com/business/121211

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.